posttoday

รับสั่ง "อยากอยู่วัด แต่ไม่มีเวลา" เรื่องเล่าในหลวงกับ "หลวงปู่ฝั้น"

31 ตุลาคม 2559

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงสนพระทัยศึกษาธรรม ซึ่งจะเห็นได้จากการเสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการพระอริยสงฆ์ในที่ต่างๆ

โดย...ประทวน ขจรวุฒินันท์

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงสนพระทัยศึกษาธรรม ซึ่งจะเห็นได้จากการเสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการพระอริยสงฆ์ในที่ต่างๆ รวมทั้งการสนทนาธรรม ซึ่งพระอริยสงฆ์หลายรูปต่างยอมรับในความแตกฉานทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติของพระองค์

จ.สกลนคร นอกจากเป็นที่ตั้งของภูพานราชนิเวศน์ พระตำหนักที่ประทับยามเสด็จฯ ไปประกอบพระราชกรณียกิจในี่ภาคอีสานแล้ว ยังเป็นเมืองแห่งพระอริยสงฆ์หลายรูปในครั้งอดีต เช่น หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต อาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนาธุระ โดยมีศิษยานุศิษย์เป็นพระเถระซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาอีกหลายรูป เช่น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร และหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร หรือพระญาณสิทธาจารย์

ครั้งหนึ่งในปี 2519 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯ ไปนมัสการหลวงปู่ฝั้นที่วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

แม่ชีสมใจ เทียมสมบูรณ์ แห่งวัดป่าอุดมสมพร เล่าย้อนอดีตบทสนทนาธรรมระหว่างหลวงปู่ฝั้นและในหลวงภูมิพลในครั้งนั้นว่า

“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระองค์รับสั่งว่าพระองค์อยากไปวัดอยู่ แต่บางครั้งก็ไม่มีเวลา เพราะมีภารกิจเยอะ หลวงปู่ฝั้นจึงพูดต่อว่า วัดนี้ไม่ใช่วัดอุดมสมพร วัดบวรฯ หรือวัดอื่นๆ แต่คือวัดใจตัวเอง ไม่ใช่วัดตามสถานที่ต่างๆ ให้วัดจิตวัดใจ ถ้าใจดีก็ดีหมด ซึ่งหลวงปู่ฝั้นก็พูดถึงเรื่องนี้บ่อยครั้งในการสอนคน”

รับสั่ง "อยากอยู่วัด แต่ไม่มีเวลา" เรื่องเล่าในหลวงกับ "หลวงปู่ฝั้น"

แม่ชีสมใจ เล่าอีกว่า หลังจากนั้นในหลวงภูมิพลก็ได้เสด็จฯ มานมัสการหลวงปู่ฝั้นอีกหลายครั้ง กระทั่งหลวงปู่ฝั้นมรณภาพวันที่ 4 ม.ค. 2520 ในหลวงภูมิพลและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ไปทรงสรงน้ำศพ พระราชทานหีบทองประกอบศพถึงวันที่ 21 ม.ค. 2521 ก็ได้เสด็จฯ พระราชทานเพลิงศพเป็นการส่วนพระองค์ นำมาซึ่งความประทับใจให้กับประชาชนที่ไปร่วมงาน

“ที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่งก็คือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงลดพระองค์ลงกราบศพพระอาจารย์ฝั้น บรรดาประชาชนที่เฝ้าฯ อยู่นับแสนต่างก็สำนึกโดยทั่วกันว่ามีโอกาสพบเห็นได้ยากยิ่ง เมื่อได้เวลาอันสมควร ทั้งสามพระองค์ได้เสด็จฯ กลับตามทางเดิม ทรงปฏิสันถารต่อประชาชนที่เฝ้าฯ อยู่สองข้างทางโดยมิได้ทรงถือพระองค์”

หลวงปู่สิม แห่งวัดสันติสังฆาราม บ้านบัว ต.สว่าง อ.พรรณานิคม ก็เป็นพระอริยสงฆ์อีกรูปหนึ่งที่ในหลวงภูมิพล เสด็จฯ ไปนมัสการและสนทนาธรรม

พระครูวินัยธรวิชัย ญาตธมฺโม หรือพระอานนท์ เจ้าอาวาสวัดสันติสังฆาราม อดีตพระเลขาหลวงปู่สิม เล่าว่า เมื่อครั้งที่หลวงปู่สิมมรณภาพ ในหลวงภูมิพลพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับสั่งว่าจะเสด็จฯ ไปพระราชเพลิงศพหลวงปู่สิมอย่างเรียบง่าย ไม่หรูหรา

“ในพิธีพระราชทานเพลิงศพพระองค์ท่านได้ทรงทรุดพระวรกายลงกราบราบกับพื้น อันเป็นการถวายความเคารพพระมหาเถระอย่างสูง เพราะหลวงปู่เป็นหนึ่งในครูอาจารย์ที่ถวายอบรมจิตตภาวนาให้ในหลวงรัชกาลที่ 9 หลวงปู่สิมได้เคยเล่าให้ฟังว่า ในหลวงเป็นผู้ปฏิบัติธรรมงดงาม เป็นหน่อเนื้อพุทฐางกูร (ผู้ที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าได้ในอนาคตภายภาคหน้าผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิ) พระองค์ท่านมาบำเพ็ญบารมีในปัจจุบันเช่นเดียวกับการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์” พระอานนท์ เล่าถึงสิ่งที่หลวงปู่สิมเคยกล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

รับสั่ง "อยากอยู่วัด แต่ไม่มีเวลา" เรื่องเล่าในหลวงกับ "หลวงปู่ฝั้น"