ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ นักลงทุนวิตกสถานการณ์ตะวันออกกลาง
ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดตลาดในแดนลบท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนต่อสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยังตึงเครียด
การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนตลอดทั้งวัน โดย S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวลดลงจากความไม่แน่นอนของอิหร่านที่ประกาศไม่พร้อมเจรจาด้านนิวเคลียร์ภายใต้สถานการณ์การโจมตีจากอิสราเอล แม้ว่ายุโรปจะพยายามเชิญชวนให้กลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา
ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะตัดสินใจภายในสองสัปดาห์ข้างหน้าว่าสหรัฐฯ จะเข้าไปมีส่วนร่วมในความขัดแย้งทางอากาศระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลหรือไม่ ซึ่งอาจเพิ่มแรงกดดันต่อเตหะรานให้กลับเข้าสู่การเจรจาทางการทูต
อิสราเอลเปิดเผยว่าได้โจมตีเป้าหมายทางทหารหลายสิบแห่งในความพยายามยับยั้งขีดความสามารถด้านอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยผ่านไปเพียงหนึ่งสัปดาห์ของปฏิบัติการทางทหารดังกล่าว
หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ โดยเฉพาะ Nvidia เป็นหนึ่งในปัจจัยลบหลักที่ฉุดดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ให้ลดลง
• Dow Jones Industrial Average ปิดบวก 35.16 จุด (+0.08%) ที่ระดับ 42,206.82 จุด
• S&P 500 ลดลง 13.03 จุด (-0.22%) ปิดที่ 5,967.84 จุด
• Nasdaq Composite ลดลง 98.86 จุด (-0.51%) ปิดที่ 19,447.41 จุด
ราคาทองคำทรงตัวในวันศุกร์ โดยเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน แม้จะไม่ได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมหลังประธานาธิบดีทรัมป์ชะลอการตัดสินใจเข้าร่วมความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
• ราคาทองสปอต อยู่ที่ $3,368.68 ต่อออนซ์ ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก และลดลง 1.8% ในรอบสัปดาห์
• ฟิวเจอร์สทองคำสหรัฐฯ ปิดลบ 0.7% ที่ $3,385.70 ต่อออนซ์
ด้านราคาน้ำมันดิบปรับลดลงตามแนวโน้มตลาด หลังจากสหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่ออิหร่าน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าอาจนำไปสู่แนวทางการเจรจา
• น้ำมันดิบเบรนท์ ปิดลบ $1.84 (-2.33%) ที่ $77.01 ต่อบาร์เรล
• WTI สัญญาส่งมอบเดือนกรกฎาคม ปรับลง 21 เซนต์ (-0.28%) ปิดที่ $74.93 ต่อบาร์เรล


