posttoday

จับตา...หนัง (ไทย) น่าดู 2559

16 มกราคม 2559

มาแล้ว พาเหรดหนังไทยน่าดูต้อนรับปีลิง ค่ายใหญ่ ค่ายเล็ก ฟอร์มบิ๊ก ฟอร์มจิ๋ว กระทั่งไร้ค่าย มีหลากหลายแนวทาง

โดย...แจนยูอารี

มาแล้ว พาเหรดหนังไทยน่าดูต้อนรับปีลิง ค่ายใหญ่ ค่ายเล็ก ฟอร์มบิ๊ก ฟอร์มจิ๋ว กระทั่งไร้ค่าย มีหลากหลายแนวทาง เรื่องไหนและเป็นผลงานของใคร ขอไล่เรียงมาให้เป็นข้อมูล ก่อนจะตัดสินใจตีตั๋ว        

เรื่องแรก “อวสานโลกสวย” มีคิวเข้าฉาย 21 ม.ค.นี้ ถ้าวัดจากชื่อชั้นผู้กำกับ “ปัญญ์ หอมชื่น” กับ “อรอุษา ดอนไสว” อาจทำเอาหลายคนเมินใส่ แต่อย่าเพิ่งด่วนตัดสิน อยากให้ไปพิสูจน์ เพราะหลังปล่อยตัวอย่างมาเรียกน้ำย่อย ก็เกิดกระแสพูดถึงไม่น้อย แถมหนังยังได้นักแสดงฝีมือ “สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข” มารับบทโหดไม่ยั้ง โครงเรื่องเสียดสีสังคมก้มหน้า

หนังได้กลิ่นอายทริลเลอร์ โหดไม่ยั้ง ฆ่าไม่เลี้ยง เนื้อหาว่าด้วยเมื่อความน่ารักสดใสของเน็ตไอดอลสาวรายหนึ่งไปขวางหูขวางตาสาวสติแตกจนเกิดอาการหมั่นไส้ ความซวยเลยไปตกอยู่ที่เน็ตไอดอลคนนั้น

อีกหนึ่งเรื่องที่ปล่อยตัวอย่างมายั่วน้ำลาย “เมื่อฝนหยดลงบนหัว” ผลงานผู้กำกับสายจิ้น “ณิชภูมิ ชัยอนันต์” แห่งวายุฟิล์ม โปรดักชั่น ที่เคยประสบความสำเร็จถล่มทลายจากหนังเกย์ “พี่ชาย My Bromance” เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เรื่องนี้ณิชภูมิขอขยายเรื่องราวความรักเพศที่สามให้มาในรูปแบบสัมผัสได้จริงๆ ไม่ใช่แค่เรื่องเล่า หรือเรื่องมโนในอุดมคติ ให้ชาวเก้งกวางหรือสาววายได้กรี๊ดสลบเท่านั้น แล้ว เขายังบอกกร้าวกับเราว่าจะขอเว้นวรรคหนังเกย์เรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้าย

จับตา...หนัง (ไทย) น่าดู 2559

 

“ที่ผมขอเว้นวรรค เพราะผมไม่มีเรื่องเล่าละ (หัวเราะ) หลังจาก พี่ชาย My Bromance ออกฉาย ก็มีหนังแนวคล้ายๆ กันออกมาเยอะมากโดยเฉพาะปีที่แล้ว หลายคนเจ็บตัวนะครับ (หัวเราะ) ไม่ได้รับความสนใจจากคนดูเลย ทำให้เป็นภาพสะท้อนอย่างหนึ่งของผมว่าอาจจะถึงเวลาหยุดทำหนังที่เล่าเรื่องเพศที่สามไว้ก่อน

เมื่อฝนหยดลงบนหัวที่จะมีคิวเข้าฉาย ก.พ.นี้ ผมก็นำเสนอเรื่องราวเป็น 3 ส่วน ซึ่งพล็อตก็มาจากเรื่องจริงด้วย ไม่ใช่เรื่องความรักคู่จิ้นเหมือนก่อนละ เช่น คนพิการที่เป็นเกย์ คนที่มีพ่อเป็นกะเทย และเรื่องเด็กผู้ชายประกาศขายตัวเพื่อแลกกับหนี้พนันฟุตบอล”

ฟังแค่นี้คอหนังห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะแม้หนังจะเน้นเรื่องราวและตัวละครที่เป็นเพศที่สาม แต่ผู้กำกับวัย 30 ก็เปรยว่าทุกเพศควรดู ดูแล้วจะได้รู้ว่าสังคมไทยมีจริงๆ กับสิ่งที่ปรากฏในหนัง เหนืออื่นใดประเด็นความรักก็ยังเป็นคีย์สำคัญที่เขาไม่ละทิ้งไป

จับตา...หนัง (ไทย) น่าดู 2559

 

“ผมว่าคนดูจะได้ฟินกันแน่นอนครับ คำว่าฟินของหนังเรื่องนี้ไม่ใช่ฉากโป๊นะครับ (หัวเราะ) เพราะหนังไม่ได้เน้น แต่เป็นความฟินในเรื่องอารมณ์ที่ตัวละครแสดงออกมามากกว่า โดยเฉพาะอารมณ์ของคนที่เป็นเกย์ อารมณ์ของความรักที่จับต้องได้ คนดูดูหนังแล้วจะรู้ว่าการรักษาความรักให้ยืนยาวนั้นมันยากกว่าการโหยหาและได้มาซึ่งความรัก”

มาที่ผู้กำกับชื่อดัง “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” ที่ช่วงหลังไม่มุ่งงานโปรดิวเซอร์ แต่ปีนี้เขามากับผลงานที่หลายคนก็แทบไม่เชื่อว่าเป็นของเขา “ลูกทุ่งซิกเนเจอร์” หนังลูกทุ่งโดยปรัชญา (เนี่ยนะ) ทำให้เรียกความน่าดูไปได้มาก เพราะแฟนๆ ไม่ต้องลุ้นฉากแอ็กชั่นให้เหนื่อย ไม่ต้องเดาว่าจะโชว์วิชวลอลังการอะไร แค่ขายการแสดงและเพลงเพราะๆ จากทีมนักแสดงที่มั่นใจได้ว่ามัดใจคนดู อาทิ “น้อย วงพรู-กฤษดา สุโกศล แคลปป์” “เบน-ชลาทิศ ตันติวุฒิ” “นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา” “นนท์ เดอะวอยซ์ 1-ธนนท์ จำเริญ” “หนิม เอเอฟ 5-คนึงพิมพ์ ธนพิชชากรณ์” และ “ไข่มุก เดอะวอยซ์ 4-รุ่งรัตน์ เหม็งพานิช”

ที่มาที่ไปของหนังเรื่องนี้ ปรัชญาเล่าว่าเป็นโปรเจกต์ที่คิดจะทำไม่ต่ำกว่า 10 ปี เป็นไอเดียที่มาพร้อมๆ กับตอนที่เขาทำหนัง “องค์บาก” แต่สุดท้ายก็ถูกพับไว้ จนเมื่อมีโอกาสเหมาะและเพราะความชอบฟังเพลงลูกทุ่งพลุ่งพล่าน เขาจึงไม่รอช้าที่จะสานต่อให้เสร็จ โดยหนังมีคิวเข้าฉายเดือน ก.พ.

จับตา...หนัง (ไทย) น่าดู 2559 ปรัชญา

 

“ส่วนตัวผมเป็น ชอบฟังลูกทุ่งมากนะครับ บางทีอินกับมันก็ต้องเปิดฟังในรถ แล้วขับวนไปวนมาอยู่ถนนหน้าบ้าน (หัวเราะ) สำหรับผมเพลงลูกทุ่งมันมีเสน่ห์อะไรบางอย่างโดยเฉพาะกับความเป็นคนไทย คนไทยทุกคนกับเพลงลูกทุ่งมันอยู่คู่กันมาและก็เป็นจิตวิญญาณ ผมก็เลยมีไอเดียอยากทำหนังเกี่ยวกับเพลงลูกทุ่งที่เป็นมุมมองของคนเมือง เพราะผมคิดว่ามุมนี้ยังไม่ค่อยมีใครพูดถึง ตอนนั้นคุณศุบุญเลี้ยง ที่มีมุมลูกทุ่งเหมือนกัน ก็คุยกันและตั้งชื่อหนังให้ว่า มนต์รักลูกครึ่ง เพราะกระแสลูกครึ่งกำลังมาแรง มีความคิดว่าจะทำหนังลูกทุ่ง แต่ใช้ลูกครึ่งเล่นกันทั้งเรื่อง ซึ่งเป็นไอเดียอยู่ ณ ตอนนั้นและเก็บไว้ในใจ จนมาถึงตอนนี้พอผมทำหนังแอ็กชั่นจบ และหาช่วงเบรกจากหนังแอ็กชั่นก็อยากจะลองหาหนังแนวอื่นๆ มาทำดูบ้าง ไอเดียทำหนังลูกทุ่งเลยกลับมา

ผมตั้งใจทำหนังเรื่องนี้ให้ออกมาเป็นความรักวาไรตี้ผสมกลิ่นอายเพลงลูกทุ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ทุกเพศวัย มีทั้งอารมณ์รัก ซาบซึ้ง อบอุ่น ตลก อมยิ้ม น่ารัก เรียกว่าครบทุกความรู้สึก เรื่องผมเป็นคนคิดเรื่องเองทั้งหมด ไอเดียและภาพมีอยู่ในหัวผมอยู่แล้ว แต่ผมก็หาคนเขียนบทมาช่วยเขียนไอเดียต่างๆ ที่ผมเล่าให้ฟัง วิธีการคิดเรื่องเนี่ย บางเรื่องก็ลอยมาเอง บางเรื่องก็มาจากเรื่องจริง หลายเรื่องในนี้ก็เป็นเรื่องจริงที่ผมได้เห็น มีมุมที่มันกระทบความรู้สึก ซึ่งมันผสมกับเพลงลูกทุ่งได้ดี นำมาผสมกันให้เนื้อหาร่วมสมัยมากขึ้น ส่วนตัวเพลงลูกทุ่ง ยังไงผมก็ยังนึกถึงเพลงลูกทุ่งคลาสสิก ไล่มาตั้งแต่ยุคเก่าๆ แต่เพลงลูกทุ่งที่ผมจะใช้ในเรื่องนี้ต้องมีหลายเพลง และต้องเป็นเพลงที่คนรุ่นใหม่รู้ จัก ผมก็ดูรายการประกวดร้องเพลง ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม ที่มีคนรุ่นใหม่มาร้อง มีเพลงอะไรที่เขานิยมเอามาร้องกันบ้าง นั่นคือเพลงที่ผมอยากให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักด้วย”

ขณะที่หนังฟอร์มบิ๊กที่เลื่อนฉายจากปีก่อน “ขุนพันธ์” ผลงานชีวประวัติมือปราบแดนปักษ์ใต้ “พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช” (บุตร พันธรักษ์) กำกับโดย “ก้องเกียรติ โขมศิริ” เพียบด้วยนักแสดงแม่เหล็ก “บักจ่อย-อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” “น้อย วงพรู-กฤษดา สุโกศล แคลปป์” “เดี่ยว-ชูพงษ์ ช่างปรุง” “สน เดอะสตาร์-สนธยา ชิตมณี” เต็มอิ่มแบบแอ็กชั่น-ดราม่า หรือแม้แต่ “นายทองดีฟันขาว” ที่อิงประวัติศาสตร์นักรบสมัยกรุงธนบุรี ก็พร้อมเอาใจคอหนังแอ็กชั่นย้อนยุค โดยได้นักมวยไทยดำดอตคอม “บัวขาว บัญชาเมฆ” มารับบทเด่น

จับตา...หนัง (ไทย) น่าดู 2559 ภาพยนตร์ เมื่อฝนหยดลงบนหัว

 

ส่วนที่เฝ้ารอแล้วรอเล่า เพราะโดนกระแสนั่นนู่นนี่ จนเลื่อนฉาย “ปิตุภูมิ พรมแดนแห่งรัก” ปีนี้คอหนังได้ดูแน่นอน งานกำกับ “ยุทธเลิศ สิปปภาค” ดัดแปลงมาจากนวนิยาย “พรมแดน” ของศิลปินแห่งชาติ “พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร” ตีแผ่ปัญหาความรุนแรงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำแสดงโดย “บักจ่อย-อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” “เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณาเรศ” “ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่”

หนังอิสระมีหลายเรื่องน่าสนใจ ยิ่งเฉพาะผลงานผู้กำกับรางวัล ปีนี้คอหนังไม่ต้องลุ้นอีกแล้ว คาดว่าจะได้ดู แต่เมื่อไหร่ ที่ไหน โปรดติดตาม

“รักที่ขอนแก่น” (Cemetery of Splendour) เรื่องราวแม่บ้านวัยกลางคนผู้โดดเดี่ยว รับหน้าที่คอยพยาบาลและดูแลทหารนายหนึ่ง ซึ่งป่วยเป็นเจ้าชายนิทรา กระทั่งเขาดิ่งจมลงไปในอาการหลอน นำไปสู่การมองเห็นภาพฝันอันแปลกประหลาด ภูตผีต่างๆ ตลอดจนเรื่องราวความรัก เรื่องราวแบบนี้มีเพียง “อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล” เท่านั้นที่ทำได้

“มหาสมุทรและสุสาน” (The Island Funeral) โดยผู้กำกับหญิง “พิมพกา โตวิระ” ชนะรางวัลเอเชียน ฟิวเจอร์ เทศกาลหนังนานาชาติโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งกว่าจะเสร็จสมบูรณ์เป็นหนังสะท้อนชีวิตผู้คน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ใช้เวลานานมาก

“จริงๆ ไม่ได้ถ่ายทำ 8 ปีนะคะ แต่มันนานเพราะขั้นตอนการทำงานเยอะเหมือนกัน การหาทุน การเตรียมการ การลงไปถ่ายในพื้นที่ ซึ่งไม่มีใครลงไปถ่าย ตอนที่เราคิดจะทำมันมีประเด็นเกี่ยวกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มันเริ่มเกิดเหตุการณ์สักพัก เราก็ลงไปในพื้นที่ไปรีเสิร์ช ช่วงแรกๆ มันยากเพราะไม่มีคนสนับสนุนให้ทำเท่าไหร่ พูดตรงๆ คือหาเงินยาก กว่าจะได้เงินมาก็ตั้ง 4 ปี แล้วก็มีเงื่อนไขของนักแสดงนำ เราใช้คุณฮีน-ศศิธร (พานิชนก) ซึ่งเป็นมุสลิมจริงๆ เรียนอยู่นิวยอร์ก เราต้องรอปิดเทอมให้เขากลับมาถ่าย ก็ใช้เวลาเป็นปี การตัดต่อก็มีปัญหา ทุกขั้นตอนไม่ได้ราบรื่น มีความสาหัสที่ต้องเจอเยอะ ขณะเดียวกันมันก็เป็นบททดสอบว่าเราต้องทำหนังที่อยากทำให้ดีที่สุด

หนังเรื่องนี้ไม่ได้ต้องการจะพูดว่าปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะแก้ปัญหายังไง แต่เราต้องการเปิดหรือกระตุ้นให้คนได้รู้ว่าปัญหามันเกิดทุกที่ กรุงเทพฯ ก็มีปัญหาแบบหนึ่ง อีสานก็มีปัญหาแบบหนึ่ง ภาคเหนือก็มีปัญหาแบบหนึ่ง หนังอยากจะกระตุ้นให้คนมองปัญหาแบบไหนและแก้ไขปัญหาที่มันไปสู่พื้นที่ยังไง ต้องมองจากพื้นที่เขาหรือเปล่า ทุกวันนี้เรามองปัญหาจากการเป็นคนนอก แล้วมองว่าเราเข้าใจพื้นที่นั้น คิดว่าจะแก้ปัญหาได้และใช้มุมมอง หรือกรอบของเราไปบอกเขาว่าให้แก้ปัญหาแบบนี้ แต่จริงๆ เราไม่เข้าใจ เราอยากให้หนังกระตุ้นและเกิดการพูดคุยต่อมากกว่าค่ะ” (บทสัมภาษณ์จากรายการศิลป์สโมสร ไทยพีบีเอส แชร์ลิงค์ใน https://th-th.facebook.com/theislandfuneral)

แค่บางเสี้ยวของหนังไทยน่าดูในปีนี้ (เพราะบางค่ายก็ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด) ส่วนว่าเรื่องไหนจะโดนใจมากน้อย คนดูคือผู้ตัดสิน