posttoday

ประณัย พรประภา ทำธุรกิจในสิ่งที่ตัวเองรัก

16 สิงหาคม 2560

ผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่วัย 28 ปี ประณัย พรประภา ทายาทเจ้าของโรงแรมสยาม แอท สยาม และทำธุรกิจต่างๆ

โดย...ภาดนุ  ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

ผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่วัย 28 ปี ประณัย พรประภา ทายาทเจ้าของโรงแรมสยาม แอท สยาม และทำธุรกิจต่างๆ ทั้งการตกแต่งรถยนต์ การพัฒนาซอฟต์แวร์ และเปิดฟิตเนสในกรุงเทพฯ รวมทั้งเป็นหุ้นส่วนและเจ้าของบริษัท เอ็กซ์ซีด สปอร์ต แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ บริษัทชั้นนำด้านการจัดและโปรโมทอีเวนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งล่าสุดได้นำการแข่งขันวิ่งวิบากระดับโลกอย่าง “สปาร์ตัน เรซ” เข้ามาเปิดตัวในเมืองไทย

“ผมจบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น เมื่อเรียนจบก็เข้ามาช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัวคือบริหารโรงแรมสยาม แอท สยาม พร้อมทั้งเป็นหุ้นส่วนของบริษัท เอ็กซ์ซีด สปอร์ต แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ โดยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทย ดูแลบริษัทจัดอีเวนต์ด้านกีฬาและบันเทิง โดยมีสำนักงานทั่วภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ ฮ่องกง สิงคโปร์ กรุงเทพฯ และกัวลาลัมเปอร์

คือผมจะให้นิยามบริษัทนี้ว่า เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง โดยจะนำแพลตฟอร์มที่เรามองว่าน่าสนใจมาให้ทั้งคนดูและผู้ที่สนใจได้มาเข้าร่วม รวมทั้งผู้ที่เป็นสปอนเซอร์ของเราได้เข้ามาทำการตลาดกับผู้บริโภค โดยทำให้ทุกฝ่ายได้มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับกิจกรรมที่เราจัดขึ้นอย่างแท้จริง”

ประณัย พรประภา ทำธุรกิจในสิ่งที่ตัวเองรัก

 

ประณัย บอกว่า ก่อนหน้านี้บริษัท เอ็กซ์ซีดฯ ได้เป็นผู้จัดและผู้โปรโมทอีเวนต์ “เดอะ มิวสิค รัน” (The Music Run) ทั่วภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นการแข่งขันวิ่งระยะทาง 5 กม.พร้อมไปกับเสียงดนตรี โดยจัดในเมืองไทยมาแล้ว 3 ครั้ง นั่นคือ ปี 2014, 2015 และ 2017 นอกจากนี้ยังจัดมาแล้วหลายประเทศทั่วเอเชีย เช่นที่ มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง จีน ฟิลิปปินส์ และเมียนมา

“ในปี 2017 นี้ถือเป็นครั้งแรกที่เราจัดการแข่งขัน ‘สปาร์ตัน เรซ ไทยแลนด์’ (Spartan Race Thailand) หรืองานวิ่งวิบากที่ดีที่สุดในโลกขึ้นมา ซึ่งเป็นการแข่งขันวิ่งระยะทาง 5 กม.บวกๆ พร้อมฝ่าด่านอุปสรรคอีก 20 ด่านสุดมันส์ ที่นอกจากจะต้องวิ่งแล้ว ยังต้องปีน คลาน ผ่านต้นไม้ เนินเขา โคลน และลวดหนาม เพื่อที่จะผ่านด่านอุปสรรคเหล่านั้นไปให้ได้

ที่ผ่านมา ถ้าสังเกตอีเวนต์ มิวสิค รัน ที่เราเคยจัดไปกับ สปาร์ตัน เรซ ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 9 ก.ย.นี้ ทั้งสองงานมีความคล้ายกันอยู่อย่างนึงก็คือ เป็นกิจกรรมที่มีคนมาร่วมงานเป็นจำนวนหลักพันคนขึ้นไป ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้จะเน้นไปที่เรื่องของฟิตเนสเป็นหลัก เพราะเรามองว่าไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้เริ่มจะเปลี่ยนไปตามเทรนด์ของโลก ที่คนส่วนใหญ่เริ่มเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ หันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น ซึ่งตรงกับจุดประสงค์หลักของเราที่ต้องการให้คนทั่วไปมีสุขภาพที่แข็งแรง

เหตุผลสำคัญที่เรานำสปาร์ตัน เรซ เข้ามา นอกจากเป็นกิจกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่จัดกันมาเกิน 35 ประเทศ และปัจจุบันมีคนเข้าร่วมเกิน 5 ล้านคนแล้ว จุดที่แตกต่างของกิจกรรมนี้ก็คือ การวิ่งวิบากที่ต้องผ่านด่านอุปสรรคต่างๆ ที่มีความท้าทาย ซึ่งตรงนี้แหละเป็นจุดที่ดึงดูดให้คนมาเข้าร่วมมากขึ้น”

ประณัย พรประภา ทำธุรกิจในสิ่งที่ตัวเองรัก

 

ประณัย บอกว่า ที่ผ่านมา สหรัฐเป็นผู้ริเริ่มและผู้นำเทรนด์อีเวนต์เกี่ยวกับการวิ่งวิบากที่ท้าทายหลายรายการมาตั้งแต่ปี 2010 ซึ่งช่วงแรกๆ ก็มีคนเข้าร่วมงานแค่ 5 หมื่นคนทั่วประเทศ แต่ต่อมาในปี 2015 ก็มีคนเข้าร่วมงานเกินกว่า 5 ล้านคน จึงถือว่าเป็นอีเวนต์ที่โตเร็วมาก แซงหน้าอีเวนต์ที่เคยฮอตฮิตอย่างการปั่นจักรยานและการวิ่งมาราธอนไปแบบขาดลอย

“อีเวนต์แรกที่เราจะจัดขึ้นในวันที่ 9 ก.ย.นี้ ที่สนามกอล์ฟ สยาม คันทรี คลับ จ.ชลบุรี (ใกล้ๆ พัทยา) จะมีการวิ่ง 2 ประเภทคือ ‘สปาร์ตัน สปรินต์’ มีระยะทาง 5-8 กม. และ ‘สปาร์ตัน คิดส์’ (อายุน้อยกว่า 14 ปี แต่ต้องฝ่าด่านต่างๆ เหมือนกับผู้ใหญ่เช่นกัน) มีระยะทาง 0.5-2 กม. โดยสปาร์ตัน สปรินต์ ซึ่งเป็นการแข่งวิ่งของผู้ใหญ่จะจัดเป็นซีรี่ส์ ตลอดทั้งปีจะมี 3 อีเวนต์ โดยจะมีการเพิ่มระยะทางและเพิ่มด่านอุปสรรคต่างๆ ให้ยาก-ง่าย แยกย่อยไปตามกลุ่มของสปาร์ตัน สปรินต์ ที่จะแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ

กลุ่มแรก อีลิทส์ (Elite) การแข่งขันสำหรับนักกีฬาอาชีพ หรือผู้ที่ต้องการทดสอบตัวเอง กับเหล่าผู้ร่วมแข่งขันที่มีความสามารถมากที่สุด โดยมีเงินรางวัลและถ้วยรางวัลสำหรับผู้เข้าเส้นชัย 3 คนแรก ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง กลุ่มที่ 2 คอมเพตเททีฟ (Competitive) การแข่งขันสำหรับนักกีฬาสมัครเล่น หรือผู้เข้าแข่งขันที่ต้องการท้าทายตัวเองมากขึ้น แต่เป็นการแข่งขันกับเพื่อนที่มีความสามารถใกล้เคียงกัน ผู้เข้าแข่งขันจะแข่งขันเพื่อชัยชนะ แต่ไม่ได้มีการขึ้นแท่นรับรางวัลใดๆ

สุดท้าย โอเพ่น (Open) การแข่งขันสำหรับผู้เริ่มต้นแข่งขันหรือบุคคลทั่วไป โดยไม่มีเงินรางวัล สามารถร่วมแข่งขันเป็นทีมได้ ทีมของคุณจะช่วยผลักดันคุณ อาจรวมไปถึงการแบกคุณเข้าเส้นชัยด้วยก็ได้ การแข่งขันสปาร์ตัน สปรินต์ จะมีการปล่อยตัวนักกีฬาอาชีพเป็นกลุ่มแรก แล้วตามด้วยนักกีฬาสมัครเล่น ตบท้ายด้วยบุคคลทั่วไป โดยผู้ที่วิ่งเข้าเส้นชัยทุกคนจะได้รับเหรียญที่ระลึกและเสื้อยืดที่สกรีนคำว่า ‘Finisher’ เป็นรางวัล

ต้องบอกว่าการเปิดธุรกิจอีเวนต์เหล่านี้ ส่วนหนึ่งมาจากตัวผมเองที่ชอบเล่นกีฬาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ผมเล่นทั้งฟุตบอล บาสเกตบอล แล้วยังแข่งเวกบอร์ดมาตั้งแต่ 10 ขวบจนถึงอายุ 17 ปัจจุบันนี้ผมก็ยังคงเตะฟุตบอลอยู่ โดยมีทีมของตัวเองด้วย การนำสปาร์ตัน เรซ เข้ามา กลุ่มเป้าหมายที่ตั้งไว้ก็คือ คนทุกเพศทุกวัย ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งยุคนี้จะเห็นได้ว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับการออกกำลังกายกันมากขึ้น

ประณัย พรประภา ทำธุรกิจในสิ่งที่ตัวเองรัก

 

มิวสิค รัน มีผู้หญิงเข้าร่วมถึง 60% ส่วนสปาร์ตัน เรซ ที่ต่างประเทศมีผู้หญิงเข้าร่วมราว 30% ซึ่งที่เมืองไทยก็น่าจะมีผู้หญิงให้ความสนใจเข้าร่วมกันเยอะเช่นกัน ความคาดหวังของผมก็คือ อยากให้สปาร์ตัน เรซ เป็นอีเวนต์ที่คนรักการออกกำลังกายพูดถึงกันมากๆ เพราะถือเป็นความท้าทายที่หลายคนอาจจะอยากทดสอบตัวเอง อย่างเพื่อนผมที่อยู่ในแวดวงบันเทิง เช่น วู้ดดี้ มิลินทจินดา ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ และคนอื่นๆ ก็เริ่มฟิตร่างกายเพื่อจะเข้าร่วมแข่งขันใน

สปาร์ตัน เรซ ครั้งนี้กันแล้วครับ”

ระณัย เสริมว่า แม้เขาและหุ้นส่วนคิดที่จะต่อยอดโดยนำอีเวนต์อื่นๆ ที่เน้นเรื่องสุขภาพและมีคนเข้าร่วมได้เยอะๆ อีกหลายงานเข้ามาในเมืองไทยก็ตาม แต่ตอนนี้ขอโฟกัส สปาร์ตัน เรซ ให้เป็นที่รู้จักและได้รับการตอบรับที่ดีจากคนไทยเสียก่อน ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจจะมีอีเวนต์ใหม่ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาร่วมด้วยตามมาอีกก็ได้

“ส่วนใหญ่แล้วเราจะเลือกอีเวนต์ที่สร้างแพสชั่นให้ผู้คนเป็นหลัก อย่าง มิวสิค รัน ผมมองว่ามันช่วยสร้างแรงบันดาลใจและเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่ไม่เคยออกกำลังกายได้มาวิ่งหรือมาร่วมกิจกรรม ส่วน สปาร์ตัน เรซ ก็จะเป็นกิจกรรมที่ไต่ระดับความท้าทายขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้คนก็เริ่มหันมาให้ความสนใจการออกกำลังกายกันมากขึ้น จึงตรงกับคอนเซ็ปต์หลักของสปาร์ตัน เรซ ที่อยากให้ทุกคนแข็งแรง และมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ดังนั้นเราจึงจัดเวิร์กช็อป คอมมูนิตี้ ขึ้นเป็นระยะๆ ให้ทุกคนชวนเพื่อนๆ มาร่วมฟิตร่างกายกัน โดยจะจัดวนไปตามฟิตเนสต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ รวมทั้งที่เชียงใหม่ พัทยา และภูเก็ตด้วย

ผมว่าถ้าเรามีฐานแฟนคลับที่ชอบ สปาร์ตัน เรซ ที่แน่นดีแล้ว ก็จะสามารถกระจายการจัดงานไปตามจังหวัดใหญ่ๆ ทั่วประเทศได้ ซึ่งถือเป็นข้อดี เพราะความท้าทายของสนามแต่ละแห่งจะไม่เหมือนกันเลย ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิประเทศนั้นๆ เป็นหลัก สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้าแข่งในสปาร์ตัน เรซ ก่อนอื่นผมอยากให้สมัครก่อน (หัวเราะ) เพราะจะเหมือนเป็นการบังคับตัวเองไปในตัว สามารถลงทะเบียนได้ที่ www.spartanrace.co.th โดยสปาร์ตัน สปรินต์ เริ่มต้นที่ 1,650 บาท และสปาร์ตัน คิดส์ เริ่มต้นที่ 500 บาท

และถ้าใครอยากรู้เคล็ดลับในการเตรียมตัวก็สามารถเข้าไปดูที่ FB : Spartan Race Thailand ซึ่งจะมีคำแนะนำในการเตรียมตัว รวมทั้งสถานที่เวิร์กช็อป คอมมูนิตี้ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถไปรับการเทรน หรือไปพูดคุยกับผู้ให้คำแนะนำได้เลย สำหรับงานครั้งแรกนี้ถ้ามีคนร่วมเข้าสัก 6,000-7,000 คน ผมก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วครับ”

ประณัย ทิ้งท้ายว่า หลักในการทำงานของเขาก็คือ เวลาทำงานก็ทำเต็มที่ เวลาพักก็พักเต็มที่ ซึ่งในวันหยุดเขามักจะใช้เวลาไปกับการออกกำลังกาย โดยเล่นเวตและวิ่ง ซึ่งถือเป็นการรีแลกซ์ให้หายเครียดจากการทำงานได้เป็นอย่างดี และยังเป็นการเตรียมตัวเพื่อลงแข่งขันในงาน สปาร์ตัน เรซ อีกด้วย แล้วถ้ามีเวลาว่างจริงๆ เขาจะเลือกพักผ่อนโดยเดินทางท่องเที่ยวสไตล์แอดเวนเจอร์ อย่างการไปเดินถ้ำที่ต่างประเทศปีละครั้ง ซึ่งในอนาคตเขาก็อยากจะท้าทายตัวเองโดยเดินทางไปท่องเที่ยวที่ขั้วโลกเหนือด้วย