posttoday

พีราวัชร์ อัศววชิรวิท กับคอนเสิร์ตทั้ง 7

01 มิถุนายน 2560

จากนักร้องในผับ มาออกอัลบั้มเพลงเป็นศิลปินดูโอ (วงพีซเมกเกอร์) แสดงตัวตนผ่านแนวทางเพลงด้วยการเป็นศิลปินเดี่ยว

โดย...มัลลิกา ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

จากนักร้องในผับ มาออกอัลบั้มเพลงเป็นศิลปินดูโอ (วงพีซเมกเกอร์) แสดงตัวตนผ่านแนวทางเพลงด้วยการเป็นศิลปินเดี่ยว เปิดค่ายเพลงของตัวเอง ตลอดเวลา 18 ปี บนถนนดนตรี ในที่สุด พีธ พีระ หรือ
พีราวัชร์ อัศววชิรวิท ก็ขึ้นมาสู่ตำแหน่ง “Music Creator” โดยได้รับมอบหมายจากโมโนกรุ๊ป ให้เปิดสายงานใหม่ จัดคอนเสิร์ตโชว์บิซ ประเดิมด้วย 7 คอนเสิร์ตสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “GSB 2 Tone Concert”

“ตอนนี้มีภาระหน้าที่เพิ่มขึ้น ตอนแรกมาเป็นศิลปิน โปรดิวเซอร์ และทำโปรเจกต์ Pitcs Music ชวนเพื่อนศิลปินที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว มาทำเพลงในรูปแบบที่แตกต่างจากที่เขาทำ ก็เป็นจุดเริ่มไอเดียคอนเสิร์ตนี้ด้วย ที่นำ 2 ศิลปินที่แตกต่างกัน มาอยู่บนเวทีเดียวกัน แนวเพลงต่างกัน ยุคต่างกัน แต่จะมีจุดที่เชื่อมกันอยู่ อาจจะมีแบทเทิลกัน แลกแนวดนตรีกันร้อง แลกเปลี่ยนอารมณ์ทางดนตรีซึ่งกันและกัน แต่ละคู่เราก็จะดีไซน์ต่างกันออกไป”

เจ้าตัวประเดิมคอนเสิร์ตแรก ในตอน Magical Love Tunes โคจรมาเจอกับศิลปินต่างขั้วดนตรี บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ เจ้าพ่อเพลงรักดิสโก้ ส่วน พีธ พีระ ก็ได้รับฉายาเจ้าพ่อเพลงเศร้า อกหัก (ทำการแสดง 11 มิ.ย.) ตามด้วย เบน ชลาทิศ และ B5 ตอน เบน ชลาทิศ & Friends เพื่อนกัน เพื่อแบ่งปัน (17 มิ.ย.)

ป๊อป ปองกูล กับ บอย ตรัย ตอน Big Love เพลงรักหัวใจใหญ่ (2 ก.ค.) ธีร์ ไชยเดช กับ เล็ก Grease Cafe ตอน Love & Touch เพลงรัก และกำลังใจ (16 ก.ค.) Poly Cat กับ Boom Boom Cash ตอน What’s Up Dude, Shall We Dance (29 ก.ค.)

พีราวัชร์ อัศววชิรวิท กับคอนเสิร์ตทั้ง 7

ป๊อด โมเดิร์นด็อก กับ สิงโต นำโชค ตอน Surf Rock สองจังหวะรัก (2 ก.ย.) และ Room 39 กับ สงกรานต์ ตอน Love Room Service เปิดห้องโชว์ (30 ก.ย.)

“การคัดเลือกศิลปิน มองด้วยมุมศิลปินก่อน เลือกเอาคนที่แนวชัด แล้วมองหาอีกคนที่ต่างแต่มีอะไรเหมือนกัน อย่าง พี่โอ๋ (ธีร์ ไชยเดช) กับพี่เล็ก แนวเพลงตรงข้ามกันมาก แต่ทั้งคู่เล่นมีแบนด์ซัพพอร์ต และเล่นกีตาร์โปร่งเหมือนกัน ส่วน Poly Cat กับ Boom Boom Cash มีคาแรกเตอร์ของคนรุ่นใหม่เหมือนกัน แต่ Poly Cat ซาวด์ยุค 80 ส่วน Boom Boom Cash แนวดนตรีอีดีเอ็ม

สิงโตก็มาสบายๆ มีอูคูเลเล่ พี่ป๊อดแนวก็ชัดเจนมาก ตรงข้ามกันมาก แต่เราอาจจะได้เห็นสิงโต นำโชค ร้องเพลงร็อก Room 39 และสงกรานต์ คู่นี้แมสสุด ณ ปัจจุบัน แต่กลุ่มแฟนเพลงก็ต่างกัน ส่วน ป๊อป กับ บอย ตรัย นี่คงใกล้เคียงกันสุด ทั้งแนวดนตรี เสียงอบอุ่น ไซส์ศิลปิน การเอนเตอร์เทนคนดูได้สนุก ฝีปาก มุขสองคนนี้สุดๆ มาก 

อีกหนึ่งศิลปินที่ร่วมโปรเจกต์คือ เบน ชลาทิศ ที่ชวนเพื่อนในวงเก่ามา (B5) ถือว่าเป็นคอนเสิร์ตที่เบนในฐานะทูต UN AIDS จะได้เห็นเบนร้องเพลงที่เขาอยากร้องจริงๆ แต่ไม่ค่อยได้ร้อง และรอบนี้รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้การกุศล”

พีราวัชร์ อัศววชิรวิท กับคอนเสิร์ตทั้ง 7

กว่าจะเกิดคอนเสิร์ต GSB 2 Tone Concert ใช้เวลากว่าครึ่งปี “โมโนกรุ๊ป มีทีวี วิทยุ หนังสือ กีฬา เพลง ตอนนี้ที่ยังไม่มีก็คือ คอนเสิร์ตโชว์บิซ เราก็เสนอขึ้นไป ทางผู้บริหารก็อยากได้ 3 ครั้ง/ปี แต่เป็นสเกลใหญ่ เราก็แพลนกันไปเรื่อยจนมาสเกลที่เล็กลง ตบตัวเลขจาก 40 ครั้ง/ปี ตอนนี้ก็เหลือ 20 ครั้ง/ปี ที่จะเกิดขึ้นมาปีนี้

ตอนนี้เราทำเฟสแรกคือ GSB 2 Tone Concert ตอนนี้เฟสสองก็จะตามมา กำลังวางตัวศิลปิน เป็นคอนเสิร์ตเอ็กซ์คลูซีฟ พรีเมียม เรามีจุดเด่นที่ฮอลล์ของตัวเอง (Stadium 29 Stage) จุได้ประมาณ 500 คน ติดตั้งจอแอลอีดี 270 องศา ลงทุนกว่า 10 ล้านบาทเฉพาะจุดนี้ เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ มีการลงทุนเรื่องของกราฟฟิก ผู้ชมจะนั่งจุดไหนก็เห็นได้รอบ เพราะการจัดแสดงเราทำแค่รอบละ 450 คน เราต้องการให้พรีเมียมสุดๆ ผู้ชมได้ใกล้ชิดศิลปินมากที่สุด”

เปิดราคาบัตรออกมาแล้ว คือ 2,000 และ 3,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูง แต่เจ้าโปรเจกต์บอกว่า คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายแน่นอน

“ตอนแรกผมก็ชั่งใจ เพราะคอนเสิร์ตอื่นราคาไม่สูง แต่เรามองอีกมุมหนึ่ง ราคาบัตรก็ผันผวนตามจำนวนบัตรที่น้อย และทาร์เก็ตของเรามีกำลังจ่ายไหว ด้วยสถานที่ของเราอยู่ไกล (ถนนชัยพฤกษ์) กลุ่มที่จะตามมาดูเป็นแฟนคลับของ 7 คู่แน่นอน แล้วมีความต้องการที่จะดูอะไรที่แตกต่างจากที่ผ่านๆ มา ได้ใกล้ชิดศิลปิน ตีแล้วจำนวนคนยังไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของแฟนคลับศิลปินเลย ผมมั่นใจว่าแต่ละรอบจะเต็ม”

พีราวัชร์ อัศววชิรวิท กับคอนเสิร์ตทั้ง 7

ขณะที่การทำ 20 คอนเสิร์ตให้เกิดขึ้นในครึ่งปีหลัง นับเป็นอีกหนึ่งงานที่ท้าทาย แต่ พีธ พีระ มั่นใจว่า สามารถเป็นจริงและเป็นอีกหนึ่งงานที่จะพิสูจน์ความสามารถ

“เมื่อก่อนเราเป็นคนเบื้องหน้า เบื้องหลังบ้าง แต่ตอนนี้เราต้องไปอยู่หลังสุดเลย แล้วมองภาพทั้งหมด โชคดีที่ได้โอกาส แต่ถ้าไม่มีความรู้ความสามารถมีโอกาสก็ไปได้ไม่ถึง แต่ไม่ใช่ผมอัจฉริยะมาเลยนะ ผมก็เรียนรู้มาตลอด 18 ปีในวงการเพลง อย่างคอนเสิร์ตที่จะเกิดขึ้น ก็ขายสปอนเซอร์ ให้เขาเห็นสินค้าที่เรามีน่าสนใจแค่ไหน อีกอย่างผมว่าสังคมยังต้องการเสพคอนเสิร์ต

เรากำลังพยายามจัดคอนเสิร์ต แต่เริ่มจากเล็กๆ ก่อน แล้วโตอย่างมั่นคง การทำโชว์บิซไม่จำเป็นต้องใช้ของภายใน มันไม่จำกัดค่าย แต่ในระหว่างทางเราจะพัฒนาศิลปินโมโนเองด้วย ค่อยๆ ไปไม่ต้องรีบ อย่าง Pitcs Music ก็เป็นโปรเจกต์นำร่องชวนเพื่อนเข้าบ้าน

โชว์บิซคือจุดเริ่มต้น ในอนาคตเราอาจจะมีเฟสติวัลเป็นของตัวเอง ซึ่งทำให้เกิดกำไร และขายได้ง่ายกว่า คอนเสิร์ตสเกลเล็กด้วย แต่เราตั้งใจทำสเกลเล็กให้แข็งแรง เราอยากเป็นเล็กพริกขี้หนู เป็นสีสันใหม่ ที่จะผุดขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คนดูได้ดูคอนเสิร์ตแบบเป็นกันเอง ใกล้ชิด และพรีเมียม มั่นใจทุกคอนเสิร์ตจะสนุกไม่แพ้โชว์บิซอื่นๆ”