ณครินทร์ โรจนศักดิ์ชัย ความสุขอยู่ในแก้ว
เวลาที่คนเราตกหลุมรักก็มักทำทุกอย่างเพื่อคนที่รักอย่างไม่มีเหตุผล เช่นเดียวกับหนุ่มหล่อหน้าใส แบงค์-ณครินทร์ โรจนศักดิ์ชัย
โดย...พุสดี สิริวัชระเมตตา ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี
เวลาที่คนเราตกหลุมรักก็มักทำทุกอย่างเพื่อคนที่รักอย่างไม่มีเหตุผล เช่นเดียวกับหนุ่มหล่อหน้าใส แบงค์-ณครินทร์ โรจนศักดิ์ชัย ตอนที่เขาตกหลุมรักการผสมเครื่องดื่ม เขาก็ทำทุกอย่างเพื่อพาตัวเองเข้าไปใกล้สิ่งที่รักมากที่สุด แม้ไม่รู้ว่าผลลัพธ์จากความรักครั้งนั้นจะให้ดอกผลอะไรก็ตาม
“สมัยเรียน ม.ปลาย ผมประทับใจบทบาทของทอม ครูส ในหนังเรื่องหนึ่งซึ่งเขารับบทเป็นบาร์เทนเดอร์ ผมรู้สึกว่าอาชีพที่เขาทำเท่ดี เลยไปหาข้อมูลในกูเกิลว่าอาชีพนี้คืออะไร ต้องทำอะไรบ้าง จริงจังขนาดไปหาที่เรียนสำหรับเป็นบาร์เทนเดอร์ ถึงตัวผมเองจะไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ก็ไม่ได้มองว่าเป็นอุปสรรค ใช้เงินเก็บที่มีแอบที่บ้านไปเรียน จำได้ว่าค่าเรียนประมาณ 6,000 บาท ผมไปเรียนอยู่ 3 เดือน ไปเรียนทุกครั้ง ด้วยความที่เราดื่มไม่เป็น ชิมไปก็เมาไป กว่าจะกลับจากโรงเรียนก็รุ่งอีกวัน” แบงค์พาย้อนถึงเรื่องราวจุดเริ่มต้นความรักในโลกของเครื่องดื่มอย่างอารมณ์ดี
สีสันที่สวยงามของค็อกเทลชวนให้เขาหลงใหล แบงค์บอกว่า แม้ว่าหลังจากเรียนจบคอร์ส เขาจะไม่สานต่อ แต่ก็ยังหมั่นศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเองมาเรื่อยๆ โดยที่ไม่คิดว่าวันหนึ่ง ต้นทุนความรู้ด้านการผสมเครื่องดื่มนี้จะเป็นประโยชน์กับเขา
“ผมไม่ได้คิดว่าจะเอาดีด้านนี้ ดังนั้นตอนที่เลือกเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ผมจึงเลือกเรียนด้านบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โดยมีความฝันลึกๆ ว่าวันหนึ่งอยากเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของตัวเอง จนพอช่วงปี 3 ผมกับเพื่อนมีโปรเจกต์อยากทำร้านอาหารด้วยกัน เพราะบังเอิญเราไปได้พื้นที่แถวอารีย์มา แต่ตอนนั้นเราไม่พร้อมหลายๆ อย่าง เริ่มพับโปรเจกต์ไปก่อน”
แพสชั่นที่หลงใหลในโลกของเครื่องดื่ม และความฝันที่จะมีร้านอาหารดูเหมือนจะค่อยมอดไป เพราะหลังจากเรียนจบ แบงค์ก็ก้าวสู่การเป็นมนุษย์เงินเดือนอย่างเต็มตัว แต่สุดท้ายราวกับพรหมลิขิตกำหนดไว้ เมื่อวันหนึ่งพี่ชายของแบงค์ (เชฟนนท์-นนทวรรธ โรจนศักดิ์ชัย) เจ้าของร้านขนมสุดฮิป บริกซ์ ดีเซิร์ต บาร์ (Brix Dessert Bar) ชวนมาร่วมทีม โดยมอบหมายให้เขาดูแลพัฒนาเมนูเครื่องดื่ม เพื่อเติมเต็มรสชาติของขนมในร้าน
“ด้วยความที่เราห่างจากวงการไปนาน แต่ก็ยังมีแพสชั่นอยู่ พอมีโปรเจกต์นี้เข้ามา ผมเลยไปฝึกงานที่ร้านคาซา ลาแปง สาขาอารีย์ เพราะรู้จักกับเจ้าของร้าน หลังเลิกงานทุกวัน ตั้งแต่ 5 โมงจนร้านปิด ผมไปเรียนรู้การทำงานร้านทุกอย่าง ตั้งแต่ล้างจาน ล้างแก้ว ค่อยๆ ไต่เต้าจนได้ฝึกชงกาแฟ ผมโชคดีที่ตอนนั้นได้ครูดี ถึงจะเหนื่อยล้าจากการทำงาน แต่ก็สนุกและได้ความรู้ เปิดโลกกาแฟที่ผมไม่เคยรู้จัก”
6 เดือนเต็มในการเก็บเกี่ยววิชา ก่อนจะมาหาชั่วโมงบินจากการทำงานจริง แบงค์อาศัยเรียนรู้และศึกษาเพิ่มเติม บวกกับอาศัยความร่วมมือกับทีมงาน จนกลายเป็นหนึ่งในผู้อยูู่เบื้องหลังความสำเร็จของหลากหลายเมนูเครื่องดื่มของบริกซ์ ดีเซิร์ต บาร์
“หัวใจสำคัญในการพัฒนาเมนูเครื่องดื่มของเรา คือ วิเคราะห์ก่อนว่า กลุ่มลูกค้าของเราคือใคร คำตอบคือ ผู้หญิงที่ชอบกินขนม และรักการถ่ายรูป เพราะฉะนั้นในส่วนของเมนูกาแฟ เราไม่เน้นกาแฟที่ดื่มยาก เน้นรสชาติที่ช่วยเติมเต็มความอร่อยเมื่อดื่มคู่กับการกินขนม มีการใส่ลาเต้อาร์ทเข้าไปเพื่อเพิ่มความสวมงาม ส่วนเมนูเครื่องดื่มอื่นๆ เราจะพิถีพิถันในการแต่งแก้วให้สวย บางครั้งลูกค้าอาจต้องอดใจรอสักนิด เพราะเราต้องการนำเสนอความสวยงามในแบบที่เราคิดไว้ไม่ให้ผิดเพี้ยน”
ทุกวันนี้ แบงค์ยังคงทำงานประจำ ในฐานะผู้ช่วยผู้จัดการโรงงานเหล็ก ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว ควบคู่ไปกับการดูแลในส่วนเมนูเครื่องดื่มของร้าน นานๆ ครั้งจะสวมผ้ากันเปื้อน บุกหลังบาร์เพื่อรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มเอง แต่ทุกวันเขาจะตระเวนไปตามสาขาต่างๆ ของ บริกซ์ ดีเซิร์ต บาร์ ซึ่งตอนนี้มี 3 สาขา คือ โครงการเดอะ คอมมอนส์ ทองหล่อ สยามพารากอน และสยามดิสคัฟเวอร์รี่ เพื่อเช็กคุณภาพของเครื่องดื่ม
“ผมมองว่า ความสุขของการรังสรรค์เครื่องดื่มสักแก้ว ไม่ได้อยู่ที่รสชาติที่กลมกล่อม หรือความสวยงามที่ออกมาเท่านั้น แต่เกิดขึ้นตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบมาใช้ และกระบวนการทำออกมา การเดินทางของเครื่องดื่มแต่ละแก้วล้วนมีเสน่ห์ที่น่าค้นหาแตกต่างกัน” แบงค์กล่าวทิ้งท้าย
Butterfly Blossom
ส่วนผสม
1.แครนเบอร์รี่ไซรัป 20 มล.
2.วานิลลาไซรัป 20 มล.
3.น้ำเลมอน 15 มล.
4.ไข่ขาว 1 ฟอง
5.ชากลิ่น Peace Blossom 60 มล.
วิธีทำ
1.นำส่วนผสม 1-5 ลงในกระบอกเชกเกอร์ แล้วเขย่าแบบยังไม่ต้องใส่น้ำแข็ง
2.เขย่าจนไข่ขาวเริ่มเซตตัว จากนั้นให้เติมน้ำแข็ง เขย่าจนได้ที่
3.เทใส่ในแก้วที่มีน้ำแข็ง โดยใช้กระดาษกรอง 2 ชั้น
4.แต่งแก้วให้สวมงามด้วยดอกอัญชันและจันทร์เทศ