posttoday

เติมฝันให้คุณแม่ นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์

09 สิงหาคม 2559

บรรยากาศริมทะเล เย็นสบาย เงียบสงบ หรูหรา ของโรงแรมซี แซนด์ ซัน รีสอร์ท แอนด์ สปา ทันทีที่สาวเอวบางร่างน้อย สัดส่วนความสูงสมส่วน

โดย...ฐายิกา จันทร์เทพ ภาพ... กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร

บรรยากาศริมทะเล เย็นสบาย เงียบสงบ หรูหรา ของโรงแรมซี แซนด์ ซัน รีสอร์ท แอนด์ สปา ทันทีที่สาวเอวบางร่างน้อย สัดส่วนความสูงสมส่วน เดินเข้ามาภายในห้องอาหารริมทะเล แววตาที่หวานบาดคม ทว่าอ่อนโยนด้วยรอยยิ้มหวานแบบเป็นมิตร บุคลิกลักษณะท่าทางการเดินก็มาดมั่น ชวนให้น่าหลงใหลซะเหลือเกิน

นิโคล หรือนิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ อายุ 17 ปี เด็กไทยที่โดดเด่นในต่างแดน หลังกวาดรางวัลสายสะพายจากเวทีการประกวดมาหลายเวทีตั้งแต่เวทีเล็กๆ จนกระทั่งคว้ามงกุฎจากการประกวด Miss Teen Asia USA 2015 และพ่วงมาอีกด้วยหลายรางวัล ตั้งแต่รางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม นางงามบุคลิกยอดเยี่ยม ซึ่งเวทีประกวดนี้ไม่ธรรมดา เป็นเวทีใหญ่ที่เปิดกว้างให้สาวงามเอเชียที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาอายุตั้งแต่ 16-26 ปี เข้าประกวด

เติมฝันให้คุณแม่ นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์

 

กว่าน้องนิโคลีนจะคว้ามงกุฎมาครองได้ไม่ใช่เรื่องง่าย คุณสมบัติต้องพร้อม มารยาทต้องดี มีวินัย สาวน้อยเล่าถึงก้าวย่างสำคัญที่จะเข้าสู่เวทีการประกวดว่า จุดเริ่มต้นมาจากความสนใจของคุณแม่ที่จะส่งเข้าร่วมการประกวด “มิสไทยนิวเยียร์ ยูเอสเอ 2014” หรือการประกวดเทพีสงกรานต์ในงานไทยนิวเยียร์สเดย์ สงกรานต์เฟสติวัล ซึ่งเวทีนั้นนิโคลก็ได้ตำแหน่งมิสไทยนิวเยียร์มาครอง จากจุดนั้นคุณแม่ก็มาคุยกับนิโคลว่า ถ้าลูกมีศักยภาพขนาดนี้แล้ว สนใจที่จะเข้าประกวดเวทีใหญ่ออกอินเตอร์กันหน่อยไหม ไหนๆ ก็มาขนาดนี้แล้ว นั่นก็คือเวทีการประกวดมิสทีนเอเชีย ยูเอสเอ ซึ่งเป็นเวทีที่คนเอเชียจะร่วมเข้าการประกวดกันมาก เป็นเวทีที่ท้าทายนิโคลมาก

สุวิชา โฮจิ คุณแม่น้องนิโคลมาช่วยเล่าให้ทีมงานฟังด้วยตาเป็นประกายว่า เธอต้องการให้น้องเข้าไปประกวดมาก ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการประกวดความสวยความงามแบบนี้ ตัวเธอเองชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก “แม่เองก็มีความฝัน แต่ไม่มีใครผลักดันและสนับสนุน สุดท้ายเมื่อนิโคลสามารถทำได้ และเขาเองก็ชอบส่วนหนึ่งด้วย เต็มใจที่จะทำมันอย่างเต็มที่ เหมือนนิโคลมาเติมเต็มฝันให้แม่ แม่ก็พร้อมที่จะสนับสนุนดูแลทุกอย่าง ตั้งแต่อาหารการกิน การมีวินัยกับตัวเอง การฝึกฝนฝึกซ้อม กิริยามารยาท แต่ที่สำคัญเรื่องการเรียนจะต้องไม่กระทบ”

เติมฝันให้คุณแม่ นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์

 

น้องนิโคล เสริมคุณแม่ว่า เมื่อตัดสินใจที่จะเข้าร่วมประกวดเวทีมิสทีนเอเชีย ยูเอสเอ ความรู้สึกตรงนั้นของนิโคลคือรู้สึกว่าสนุกมากกว่าตื่นเต้น “เราได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ได้เพื่อนสนิทจากเวทีนั้นด้วย การทำกิจกรรมระหว่างการประกวดเราได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมของประเทศอื่นๆ มากมาย เพราะมีการแข่งขันเรื่องของเสื้อผ้าประจำชาติของตัวเอง และนิโคลก็ภูมิใจกับการประกวดชุดประจำชาติ ที่เราได้ตำแหน่ง รับรางวัล The Costume Designer of the Year ซึ่งเป็นชุดที่ชื่อว่า ‘ยุทธหัตถนารี’ (ออกแบบโดยใหญ่-อักษราภัค เกตุทอง ร้านเดอะภูเขา)

ในวันที่ประกวดบนเวที นิโคลไม่ตื่นเต้นเลย เพราะชินแล้ว ที่ผ่านมานิโคลชอบการแข่งขันการประกวดบนเวที นิโคลเล่นกีฬาพวกคัลเลอร์การ์ด (Color Guard) มีรูปแบบการแสดงคล้ายยิมนาสติกลีลา แต่จะควงมีด ควงดาบ ควงปืนด้วย ซึ่งมันได้อารมณ์มากๆ นิโคลชอบเล่นกีฬาที่ท้าทาย มันๆ ลุยๆ เตะบอล ต่อยมวย ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่ามันขัดกับบุคลิกที่จะต้องไปประกวดความสวยความงาม แต่นิโคลว่ามันแมตชิ่งกันได้

เติมฝันให้คุณแม่ นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์

การที่นิโคลชนะมา มั่นใจว่าเพราะเราไม่ได้เป็นคนอ่อนโยน หรือความเป็นผู้ยิ้ง-ผู้หญิง แต่เราเป็นคนเข้มแข็ง แข็งแกร่ง มั่นใจ และมันทำให้เราได้แสดงออกด้วยท่าทาง การเดิน บุคลิก การพูด ที่สำคัญสิ่งหนึ่งที่นิโคลทำ คือเรามีวินัยในการฝึกซ้อม ที่จะให้เราต้องไปซ้อมทุกวันอาทิตย์ประมาณ 6 เดือน ซึ่งใครจะไปหรือไม่ไปก็ได้ แต่นิโคลก็ไปทุกวันอาทิตย์ เพราะมันจะได้แต้มได้ความสนใจจากทีมงาน นิสัยนิโคลติดมาจากที่เราเป็นนักกีฬาที่ต้องเป็นกัปตันทีม เราต้องเรียนทั้งวัน พอเลิกเรียนก็มาซ้อมทุกวัน”

หลังจากที่ได้ตำแหน่งน้องนิโคลต้องเข้าร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งโดยปกตินิโคลชอบทำโน่นทำนี่แบบแอ็กทีฟ ไม่ชอบอยู่เฉยๆ อยู่แล้ว “หนึ่งในโครงการที่ได้ทำคือ Love Nepal เพราะอยากช่วยเหลือคนที่ประสบภัยธรรมชาติ ซึ่งคุณแม่ก็เห็นด้วย วันนั้นนิโคลมีทุนอยู่ 100 เหรียญสหรัฐ ก็ไปซื้อปากกามา 100 ด้าม ขายด้ามละ 5 เหรียญสหรัฐ แล้วคนไทยในแอลเอน่ารักมาก ช่วยเหลือเต็มที่ พอเราได้เงินมา 500 เหรียญสหรัฐ ก็ไปซื้อปากกาเพิ่ม ทำเสื้อ โดยมีผู้ใหญ่จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มาช่วย โดยให้เป็นเข็มกลัดที่เขียนว่า Love Nepal มาด้วย เราก็จำหน่ายทั้งหมด จนได้เงินเกือบ 4,000 เหรียญสหรัฐ แล้วก็นำเงินให้กับโรตารี ซึ่งโรตารีก็สนับสนุนเงินเพิ่มให้เป็น 4,000 เหรียญสหรัฐถ้วน เพื่อนำไปบริจาคให้ Love Nepal จนทางกองประกวดก็เห็นว่าเราทำงานเพื่อสังคมแบบนี้ เลยทำเรื่องว่าเด็กได้ทำประโยชน์ให้กับคนอื่น นิโคลเลยได้ใบประกาศนียบัตรจาก บารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ และโรตารีเองก็ให้มาด้วย”

เติมฝันให้คุณแม่ นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์

 

นอกจากนี้ นิโคลยังได้ทำงานให้กับมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่สหรัฐ โดยช่วยทำงานการกุศล เดินแฟชั่นโชว์ เพื่อหารายได้สมทบมูลนิธิฯ หรือแม้แต่งานการกุศลอื่นๆ หากมีใครบอกหรือชวนมาก็จะไปช่วยทุกงาน ถ้าไม่ติดเรียนหรือติดซ้อมกีฬา

นิโคล เล่าอีกว่า ที่ทำวันนี้เข้าสู่การประกวดวันนี้ ส่วนหนึ่งเพราะคุณแม่อยากให้ทำ “นิโคลก็โอเค ประกวดมาตั้งแต่เด็กตั้งแต่อายุ 5 ขวบ พวกหนูน้อยสงกรานต์ในเวทีต่างๆ ซึ่งนิโคลก็ไม่คิดว่าจะประกวดแล้วชนะ เราทำตามที่แม่ว่า คุณแม่เองก็เต็มที่ หลังบ้านก็ทำเวที ตีตารางไซส์เวทีให้เราซ้อมเดินทุกวัน ต้องขอบคุณคุณแม่ที่ทำให้นิโคลมีวันนี้”

อนาคตหลังจากนี้ นิโคลวางแผนทั้งเรื่องการเรียน และอนาคตบนเวทีนางงามไว้ว่า ความฝันของนิโคลคือการก้าวสู่เวทีการประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส “ตอนนี้อายุยังไม่ถึง ยังมีเวลาเตรียมตัวอีก 2 ปี ที่จะต้องดูแลตัวเอง เตรียมตัว ทั้งเรื่องกิริยามารยาท การเข้าใจถึงความเป็นไทยให้มากขึ้นและลึกซึ้ง เพราะนิโคลโตที่อเมริกา แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรค์ของ
นิโคล เพราะคุณแม่คอยบอกคอยสอนนิโคลอยู่ตลอดเวลา

เดือนหน้านิโคลต้องกลับไปอเมริกา เพื่อที่จะเรียนต่อเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งได้เลือกเส้นทางที่อยากเรียนไว้คือ เข้าเรียนจูเนียร์ คอลเลจ 2 ปี จากนั้นก็ต้องดูต่อว่าจะเรียนที่ไหนต่อ แต่เบื้องต้นได้วางแผนแล้วว่าจะกลับมาเรียนต่อที่เมืองไทย เพราะอยากเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์จะต้องอยู่ที่เมืองไทย 6 เดือน เมื่อเราได้เข้าประกวดแล้วก็จะดูเรื่องการเรียนต่อไป

ตัวนิโคลเอง อยากเรียน พยาบาล เพราะชอบเรื่องพวก ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ วิทยาศาสตร์ต่างๆ นิโคลมองว่าเรื่องเรียนกับการเดินตามฝันการประกวดต้องไปด้วยกันได้ดี”