posttoday

พิยดา จุฑารัตนกุล กับบทบาทเพิ่มในวันนี้

22 มีนาคม 2559

นักแสดงหญิงมากความสามารถ ด้วยรางวัลการันตีคุณภาพนับไม่ถ้วน ครองใจวงการบันเทิงมากว่า 20 ปี อ้อม-พิยดา จุฑารัตนกุล

โดย...ศศิธร จำปาเทศ-ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ... วิศิษฐ์ แถมเงิน

นักแสดงหญิงมากความสามารถ ด้วยรางวัลการันตีคุณภาพนับไม่ถ้วน ครองใจวงการบันเทิงมากว่า 20 ปี อ้อม-พิยดา จุฑารัตนกุล ที่วันนี้ผันตัวเองมาเป็นผู้จัดละครอย่างเต็มตัว อีกบทบาทหนึ่งที่คนให้ความสนใจเป็นอย่างมากคือ ภรรยาและคุณแม่ของน้องนาวา ขวัญใจชาวโซเชียล

ด้วยหลายบทบาท จึงทำให้เธอหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพ ด้วยการวิ่งออกกำลังกาย รับประทานอาหารมีประโยชน์ พยายามให้ตัวเองดูเด็กกว่าวัย จนล่าสุดกลายเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ให้กับ ลอรีอัล ปารีส รีไวทัลลิฟท์ ฟิลเลอร์

“ไม่มีใครอยากดูอายุเยอะ ก็ต้องดูแลตัวเอง ออกกำลังกายให้มากขึ้น การดูแลลูกก็เป็นการออกกำลังกาย ถึงแม้จะปวดหัวไปนิดนึง (หัวเราะ) มันก็ทำให้เราสุขภาพดี เล่นกับเขาก็ได้ผ่อนคลาย”

พิยดา บอกเล่าว่า เมื่อก่อนเธอมักนอนดึกตื่นสาย แต่พอมีลูก กลายเป็นต้องนอนเร็วตื่นเช้า เพื่อพาเขาไปโรงเรียน “ปกติก็พากันเข้าครัวทำกับข้าว เสาร์อาทิตย์ก็ไปปั่นจักรยานในสวน ขี่ม้าบ้าง นาวาชอบกิจกรรมทุกอย่างที่ได้ออกจากบ้าน ถ้ากิจกรรมไม่น่าสนใจจริง เขาก็ชอบอยู่บ้านนะ เพราะที่บ้านก็มีของเล่น เล่นเดินแบบก็มี คงเห็นแม่เป็นตัวอย่างด้วย เด็กๆ ชอบกล้าแสดงออกอยู่แล้ว ถ้าเราสนับสนุนเขาให้กล้าแสดงออก มีความมั่นใจ แต่เราก็ไม่ได้ให้เล่นละคร หรืออะไรที่เกินเลยความเป็นเด็ก ส่วนพี่อาร์ตจะสอนด้านวิชาการ สอนกันคนละอย่าง ซึ่งเด็กจะสอนอะไรไม่ค่อยได้ แต่มักจะทำตามเรา เป็นวัยที่เลียนแบบพ่อแม่ วิธีสอนลูกที่ดีคือประพฤติตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก”

พิยดา จุฑารัตนกุล กับบทบาทเพิ่มในวันนี้

 

เป็นลูก เป็นภรรยา เป็นแม่

“ครอบครัวคือพื้นฐานสำคัญของคนเรา จะดีไม่ดีมันอยู่ที่ความอบอุ่นของครอบครัว สำหรับครอบครัวอ้อม ครอบครัวอ้อมเป็นครอบครัวใหญ่ค่ะ เฮฮา คนนั้นจะเอาโน่นนี่ ตีกันสนุกดีค่ะ (ยิ้ม) สำหรับพี่อาร์ต พี่อาร์ตกับอ้อมไม่เคยทะเลาะกัน เราทำงานอะไรก็สนับสนุนกัน เหนื่อยก็ให้กำลังใจกัน บอกกันว่าสู้ๆ นะ บางทีกลับมาบ้าน เวลาพี่อาร์ตเห็นอ้อมเครียด ก็มา
กอดให้กำลังใจกัน เราอยู่กันเป็นเพื่อนกัน จะทะเลาะกันเรื่องตลกๆ แล้วลูกก็ขำ ไปเที่ยวกันก็ทะเลาะกันเรื่องเข้าห้องน้ำ นาวาก็เดินมาพูดว่า ทะเลาะอะไรกันอีกแล้ว หยุดเดี๋ยวนี้นะ ศูนย์กลางเรารุมอยู่ที่ลูกอย่างเดียวค่ะ เรานอนกันสามคนพ่อ แม่ ลูก จะไปกินอะไรที่ไหน ก็ให้ลูกเลือก”

พิยดา เผยว่า แม้ศูนย์กลางของเธอกับสามีจะอยู่ที่ลูก แต่ก็ไม่ถึงกับตามใจลูก เช่น ไม่อนุญาตให้ลูกเล่นไอแพด “อาจให้เล่นบ้างเพื่อไม่ให้ตกยุค แต่ไม่ให้เล่นตลอดเวลา การ์ตูนที่เขารู้จักทุกตัวมาจากนิทานที่เราเล่าให้เขาฟัง ให้อ่านหนังสือ เล่นขุดดินขุดทราย ตอนนี้เขาเริ่มรู้จักสตาร์วอร์ส เพราะอ้อมใส่เสื้อสตาร์วอร์ส เขาก็อยากรู้ว่าสตาร์วอร์สคืออะไร เราก็เล่าให้เขาฟัง”

แน่นอนว่า เด็กเล็กกำลังอยู่ในวัยที่พูดตามพ่อแม่ พิยดาบอกเล่าว่า บางทีเธอพูดอะไรผิดไป ลูกสาวก็เริ่มบอกว่าเธอพูดผิด “หรือพูดกับเขาไม่มีหางเสียง ค่ะ เขาก็จะบอกทำไมไม่ค่ะล่ะคะ หรือเราสอนคำควบกล้ำดีมาก เราบอกน่าเกียดจังเลย แม่จ๋าคะ ทำไมแม่จ๋าพูดว่าเกียดล่ะคะ ทำไมแม่จ๋าไม่พูดว่าเกลียดล่ะคะ อะไรที่เราพูดไป ย้อนกลับมาที่ตัวเราได้ตลอด (หัวเราะ)”

พิยดา จุฑารัตนกุล กับบทบาทเพิ่มในวันนี้

 

บทบาทผู้จัดละคร...ลูกไม้ใต้ต้น

สำหรับบทบาทผู้จัดละครของพิยดา อาจไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่สำหรับเธอ เพราะการเป็นผู้จัดละครถือเป็นสิ่งที่เธอเห็นมาตั้งเด็ก และวันนี้เธอก็ได้กลายเป็นลูกไม้ใต้ต้นของพ่อเปี๊ยก-พิศาล อัครเศรณี ที่เป็นทั้งผู้จัดและผู้กำกับการแสดงที่เราคนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี

“ตอนเด็กๆ พ่อพาไปกองถ่าย ตอนนั้นเราก็ได้เรียนรู้ ได้เข้าฉากนิดๆ หน่อยๆ ซึ่งอ้อมก็ให้นาวาเข้าฉากตั้งแต่หนึ่งขวบแล้ว ในเรื่อง เงาใจ คิดว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับลูก ทำให้เขากลายเป็นเด็กที่มีความมั่นใจขึ้น รู้จักอะไรมากขึ้น ไม่กลัวคนอื่น และกล้าพูดกับคนใหม่ๆ

เราก็เลยพานาวาไปกองถ่าย ทำเหมือนที่พ่อเคยทำกับเรา มอบหน้าที่ให้ยิงเสลด ซึ่งตอนเด็กๆ เราคิดว่ามันเป็นหน้าที่ที่สำคัญมาก แล้วก็ให้ช่วยเสิร์ฟน้ำ ดูแลนักแสดง ตามนักแสดงเข้าฉาก ซึ่งทุกคนก็จะรีบเข้าฉาก ถือว่าลูกเราสร้างสีสันให้กองถ่าย เขาก็จะรู้หน้าที่ของเขา ตอนเราเด็กๆ พ่อก็ให้เราทำแบบนี้ แล้วเราก็จะรู้จักค่าของเงิน ง่ายๆ คือ งกนั่นเอง (หัวเราะ)”

พิยดาบอกเล่าว่า การเป็นนักแสดงกับการเป็นผู้จัดละคร แน่นอนว่ามีความเหนื่อยไม่แพ้กัน แต่มันเป็นความเหนื่อยคนละแบบ “การเป็นผู้จัดละคร มันจะเหนื่อยไปเรื่อยๆ จนกว่าละครจะจบ แต่ถ้าเป็นนักแสดงก็ต้องเหนื่อยกับการรับผิดชอบบท รับผิดชอบการแสดง รับผิดชอบตัวเอง ถามว่าจะเป็นอย่างพ่อด้วยมั้ย ที่เป็นทั้งผู้จัดละครและเป็นผู้กำกับการแสดง คงไม่ถึงขั้นนั้น มันยากเกินไป ขอดูภาพรวมดีกว่า ดูในเรื่องของทิศทางละครที่เราอยากให้เป็นไป ดูเสื้อผ้าหน้าผม สถานที่ ฉาก อาหารการกิน ฯลฯ ถ้าเป็นผู้กำกับก็คล้ายๆ เป็นนักแสดง เราก็ไม่ได้ทำอะไรมากมายอย่างนี้”

พิยดา จุฑารัตนกุล กับบทบาทเพิ่มในวันนี้

 

ถึงแม้พิยดาจะประกาศให้คนในวงการรู้ว่า เธอหันมาเป็นผู้จัดละครอย่างเต็มตัวแล้ว แต่ก็ยังมีคนติดต่อเธอให้เล่นละครอยู่เรื่อยๆ “บางทีเราก็ต้องดูบทนิดนึง อย่างเรื่องบัลลังก์เมฆที่ผ่านมา ผลตอบรับค่อนข้างดี ซึ่งละครเรื่องนี้ เราเต็มที่กับมันมาก ทุกคนตั้งใจทำงานกันหมด ส่วนจะได้รางวัลหรือไม่ ก็ต้องรอดูว่ากรรมการจะเห็นถึงความตั้งใจทำของเราไหม ถ้าได้ อ้อมขอยกรางวัลให้กับทีมงานทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งพนักงานเสิร์ฟน้ำ เพราะในเวลาที่เราเหนื่อยมาก เขาวิ่งเอากระดาษทิชชู่มาซับเหงื่อ เอาน้ำมาให้ดื่ม หากได้รางวัล หัวใจเราพองโต หัวใจของทีมงานทุกคนก็พองโตตามไปด้วย”

ทั้งชีวิตคือ...วงการบันเทิง

พิยดาบอกเล่าให้เราฟังว่า กว่า 20 ปีในวงการบันเทิง เธอได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องร้ายหรือเรื่องดี ซึ่งทุกอย่างที่ได้เรียนรู้ เธอก็เอามาปรับใช้กับชีวิต รวมทั้งการรับมือกับกระแสข่าวแรง เช่น กระแสข่าวโซเชียลเกี่ยวกับเพื่อนสนิทของเธอ ที่โดนกล่าวหาในเรื่องของนิสัย และพาดพิงถึงตัวเธอด้วย ในทำนองที่ว่า เพื่อนกันก็คงนิสัยเหมือนกัน

“สำหรับเพื่อนของเรา เราก็ให้กำลังใจกันไป อ้อมมองว่า กระแสโซเชียลมันดีอย่างเสียอย่าง เรื่องดีก็เร็ว เรื่องไม่ดีก็เร็ว มุมมองคนแตกต่างกัน อยู่ที่ใครจะมองมุมไหน เราต้องรู้ว่าตัวเองเป็นอย่างไร บางเรื่องที่เขาพูดก็จริง อ้อมรู้ตัว แต่ถ้าเราไม่รู้ว่าเราเป็นคนอย่างไร เราก็อาจไม่ได้ปรับปรุงให้ดีขึ้น บางเรื่องก็ไม่ใช่ แต่จะไปแก้ทุกเรื่องมันก็ไม่ใช่ บางเรื่องมันก็เป็นเหมือนกระจกสะท้อน ถ้าเรื่องไหนไม่ใช่ก็ปล่อยวางมันไป เอาเป็นว่า เรื่องแบบนี้ต่างคนต่างความคิด”

วันนี้ พิยดาในวัย 40 ย่อมผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะแยะมากมาย เธอทิ้งท้ายให้น้องๆ ที่กำลังเลือกเส้นทางเดินของชีวิตตัวเองไว้ว่า ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม หากเส้นทางไหนของชีวิต ทำให้เรามีความสุข ก็จงเลือกเส้นทางเดินนั้น

“บางคนมีความสุขที่อยู่คนเดียว ก็จงอย่าหวั่นไหวกับเส้นทางเดินโดดเดี่ยว บางคนมีความสุขในรูปแบบของการมีครอบครัว ก็จงอย่าหวั่นวิตกกับสิ่งที่ต้องเกิดตามมา สิ่งที่เราเลือก เราต้องพร้อมยอมรับมันอยู่เสมอ”

พิยดา จุฑารัตนกุล กับบทบาทเพิ่มในวันนี้