posttoday

ไกรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล เครื่องประดับทำให้ผู้หญิงดูดี

14 ตุลาคม 2558

มีหลายคนที่เรียนมาด้านหนึ่ง แต่มาทำงานอีกด้านหนึ่ง และเพราะความที่มีใจรักทำให้ทำงานนั้นได้เป็นอย่างดี

โดย...อณุสรา ทองอุไร ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช

มีหลายคนที่เรียนมาด้านหนึ่ง แต่มาทำงานอีกด้านหนึ่ง และเพราะความที่มีใจรักทำให้ทำงานนั้นได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะไม่ได้จบด้านนี้มาโดยตรงก็ตาม เช่นเธอคนนี้ ไกรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล ครีเอทีฟ ไดเรกเตอร์ บริษัท มาวี ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับที่ทำจากพลอยเนื้ออ่อนและเงิน แบรนด์มาวีเปิดตัวมาได้ประมาณ 5 ปี โดย 3 ปีแรกขายผ่านทางออนไลน์ จนเมื่อ 2 ปีที่แล้วเพิ่งเปิดหน้าร้านเป็นของตัวเองที่ตึกอัมรินทร์ พลาซ่า แม้ว่าตลาดเครื่องประดับแนวนี้จะมีอยู่ในตลาดอยู่แล้วเกือบ 10 แบรนด์ เธอก็มั่นใจว่าถึงจะเป็นน้องใหม่แต่ก็มีจุดขายที่ชัดเจน มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์พร้อมหัวใจสู้เต็มร้อย

ด้านการศึกษานั้น เธอไปเรียนไฮสคูลที่ประเทศออสเตรเลีย และจบปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์สังคมจากประเทศออสเตรเลีย แล้วกลับมาทำงานที่บริษัทโฆษณาอยู่ 6-7 ปี ก่อนที่จะออกมาทำธุรกิจของตัวเอง โดยหุ้นกับเพื่อนสนิทที่เคยเรียนอยู่ที่ประเทศออสเตรเลียด้วยกัน

หลงใหลในศิลปะ

เธอบอกว่าที่จริงชอบทางด้านอาร์ตมากกว่าด้านเศรษฐศาสตร์ แต่ด้วยความที่รู้ว่าคุณพ่อคุณแม่อยากให้เรียนด้านเศรษฐศาสตร์มากกว่า เธอเลยอยากเรียนให้คุณพ่อคุณแม่ แต่พอเรียนมาจริง จบมาก็ไม่ได้ทำงานในสิ่งที่เรียน เธอก็มาทำงานด้านโฆษณาที่มีทักษะด้านอาร์ตมากกว่าอยู่ดี ไม่เคยทำในสิ่งที่เรียนมาเลย พอทำงานสักพักก็หยุดไปเรียนต่อด้านกราฟฟิกดีไซน์ที่นิวยอร์กอยู่หลายเดือน แล้วก็กลับมาทำบริษัทโฆษณาเต็มตัวอีกครั้ง

ไกรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล เครื่องประดับทำให้ผู้หญิงดูดี

 

 

ไกรทิพย์ เล่าต่อไปว่า เธอชอบงานศิลปะ ชอบงานด้านสวยๆ งามๆ มาตั้งแต่วัยรุ่น คุณแม่มีโรงเรียนสอนจัดดอกไม้ เธอก็ไปเข้าคอร์สเรียนจัดดอกไม้จนครบคอร์สแล้วมาเป็นครูสอนจัดดอกไม้อยู่หลายปี ตั้งแต่อายุ 16-17 ปี ก็สอนแล้ว โดยสอนต่อเนื่องมาเกือบ 10 ปี เนื่องจากชอบเรื่องสวยๆ งามๆ หวานๆ นี่คืองานถนัดของเธอที่ทำมาโดยตลอด แม้ขณะที่ทำงานบริษัทโฆษณาเธอก็ยังมีเสียงเรียกร้องในหัวใจว่าที่ทำอยู่นั้นมันไม่สุด ยังอยากทำอะไรสวยๆ งามๆ อยากปล่อยของในการออกแบบให้เต็มที่ เธอไม่อาจทนเสียงเรียกร้องนั้นได้ จึงเริ่มลองทำเป็นไซด์ไลน์ด้วยการออกแบบเครื่องประดับขายทางเว็บไซต์ในชื่อแบรนด์มาวี ทำอยู่ 3 ปี ผลตอบรับเป็นไปได้ด้วยดี ในที่สุดเธอก็คิดว่ามันต้องไปต่อด้วยการเปิดหน้าร้านเป็นของตัวเอง และถึงเวลาที่จะออกจากงานประจำมาปั้นธุรกิจนี้ให้เติบโตแข็งแรง ซึ่งเธอรับผิดชอบเรื่องการออกแบบและผลิต

เธอบอกว่ามักได้ยินบ่อยๆ ที่ว่ากันว่าเครื่องประดับคือเพื่อนแท้ของผู้หญิง ถ้าเครื่องประดับนั้นสวยงามก็สามารถบ่งบอกถึงบุคลิกของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี และหากเครื่องประดับนั้นมีราคาก็พลอยทำให้ผู้สวมใส่ดูมีค่าราคาแพงมากขึ้นไปด้วย ดังนั้นเครื่องประดับกับคุณสาวๆ จึงเป็นของคู่กันนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ คุณผู้หญิงก็ขาดเครื่องประดับไม่ได้ ซึ่งมันฟังดูเป็นเรื่องจริง เพราะเครื่องประดับทำให้ผู้หญิงสวยและดูดีขึ้น

สวยสไตล์มิกซ์แอนด์แมตช์

ไกรทิพย์ บอกว่า จุดเด่นของแบรนด์มาวี (Mar vie) นั้นเป็นจิวเวลรี่สไตล์คลาสสิกร่วมสมัย เน้นดีไซน์ที่เรียบหรู แต่แฝงไว้ด้วยความโดดเด่นทันสมัย ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากความต้องการของผู้หญิงสมัยใหม่ในปัจจุบันที่ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตในเมือง มีความมุ่งมั่น มั่นใจในตัวเอง มีความสามารถรอบตัว และถึงแม้จะดูบอบบางน่าทะนุถนอม แต่ยังคงมีบุคลิกภาพที่สง่างาม พร้อมฟันฝ่าความท้าทายในภารกิจของทุกๆ วัน

ไกรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล เครื่องประดับทำให้ผู้หญิงดูดี

มาวีจึงได้นำคุณสมบัติเหล่านี้มาผสานเป็นแนวคิดในการออกแบบเครื่องประดับที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงด้วยดีไซน์คลาสสิก บวกกับประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลาย ช่วยให้ผู้หญิงสามารถนำไปใช้งานแบบมิกซ์แอนด์แมตช์ที่สอดรับกับรูปแบบการใช้ชีวิตที่ลื่นไหล ไม่หยุดนิ่ง สะท้อนบุคลิกแห่งความมาดมั่น สวยหวาน แต่ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยในเวลาเดียวกัน

“เครื่องประดับทุกชิ้นของเราใช้วัสดุพลอยเนื้ออ่อนแท้ที่ผ่านการเจียระไนด้วยเทคนิคและรูปแบบพิเศษสำหรับมาวีโดยเฉพาะ ตัวเรือนเป็นเงินแท้ และชุบทองเพื่อการใช้งานที่คงทนยาวนาน เพราะเชื่อว่าเครื่องประดับไม่ใช่เป็นเพียงของประดับสวยๆ หรือใส่เพื่อการบ่งบอกสไตล์เท่านั้น แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตของผู้หญิงอีกด้วย ที่สำคัญต้องคุณภาพดี ราคาจับต้องได้ และปรับประยุกต์ใช้งานได้ในทุกโอกาส ใน 1 ชิ้นสามารถแยกใส่ได้ 2 แบบ คือทูอินวัน เช่น ต่างหูสามารถถอดส่วนล่างออกเพื่อมิกซ์แอนด์แมตช์กับสีอื่นๆ ได้ และสร้อยมุกสามารถใส่ได้ถึง 3 แบบ เป็นต้น ราคาก็จะอยู่ที่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น เน้นกลุ่มคนทำงาน 25-50 ปี ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัยเรียบโก้ เราเรียนกราฟฟิกมาก็ได้เอามาใช้ในเรื่องการออกแบบ การใช้โทนสี เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นเอกลักษณ์”

ไกรทิพย์ยังกล่าวถึงเทรนด์สีเครื่องประดับที่คาดว่าจะมาแรงในปีหน้าก็คือโทนสีฟ้าสดใสแบบฟ้าเทอร์คอยส์ ส่วนรูปแบบการดีไซน์จะชิ้นเล็กลง เป็นงานชิ้นเล็กๆ แต่จะหวานๆ ใสๆ สีอ่อนๆ แนวพาสเทล ชมพูอ่อน ฟ้าอ่อน เขียวอ่อน เบาๆ ฟรุ้งฟริ้ง

“โทนสีที่เข้ากับคนไทยที่ผิวสองสีออกเหลืองจะใส่แล้วขับผิวดี แต่ที่จริงแล้วการใส่เครื่องประดับไม่มีข้อจำกัด ไม่ว่าคุณจะผิวขาวหรือผิวเข้ม จะตัวใหญ่หรือตัวเล็ก ส่วนใหญ่แล้วเครื่องประดับจะทำให้คุณดูดีโดดเด่นขึ้น ผู้หญิงควรจะมีเครื่องประดับสักชิ้นสองชิ้นบนร่างกายจะช่วยให้ดูสดใสมีเอกลักษณ์ มีเสน่ห์ยิ่งขึ้น”

หลักการทำงาน

เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ อย่าหยุดนิ่ง เพราะโลกหมุนเร็วตลอดเวลา โลกมีเรื่องใหม่ๆ เข้ามาทุกวัน นอกจากนี้คือต้องพยายามแบ่งเวลาให้ชัดเจน เวลางาน เวลาส่วนตัว เนื่องจากพอมาทำธุรกิจของตัวเองเรามักจะบ้าพลังทำแบบหามรุ่งหามค่ำ ซึ่งระยะยาวแล้วไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่ การบริหารเวลาจึงเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน พอๆ กับการกล้าที่จะตัดสินใจว่าช่วงไหนต้องลุย ช่วงไหนต้องถอย เมื่อเจออุปสรรคปัญหาต้องลุกขึ้นสู้และยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ