ศุภนาฎ จิตตลีลา เรียนไป ทำงานไป คือความท้าทายในชีวิต

ด้วยมาดเท่ๆ บวกกับความน่ารัก ก็เลยไปตรงกับคาแรกเตอร์นักแสดงนำ ในบทบาท “คิม” สาวหล่อน่ารัก หญิงรักหญิงของภาพยนตร์ Yes or No

โดย...ปอย

ด้วยมาดเท่ๆ บวกกับความน่ารัก ก็เลยไปตรงกับคาแรกเตอร์นักแสดงนำ ในบทบาท “คิม” สาวหล่อน่ารัก หญิงรักหญิงของภาพยนตร์ Yes or No อยากรัก ก็รักเลย “ติ๊นา” ศุภนาฎ จิตตลีลา บอกว่าผู้กำกับการแสดงก็เลยชักชวนให้มาแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ สาวน้อยอายุ 21 ปี กำลังเรียนปีที่ 2 คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิทยุโทรทัศน์ มหาวิทยาลัยรังสิต บอกว่าเลือกเรียนด้านธุรกิจบันเทิงเป็นความเหมาะสมระหว่างการเรียน และการทำงานที่ได้มาอยู่ในเส้นทางในวงการบันเทิงแล้วอย่างเต็มตัว

จากจุดเริ่มต้น ติ๊นา เคยมีผลงานด้านการถ่ายแบบ ถ่ายแฟชั่นมาบ้างแล้ว และเป็นเพียงการทำเล่นๆ สะสมประสบการณ์ช่วงหนึ่งของวัยรุ่น ไม่ได้จริงจัง แต่ในวันนี้การทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย คือโอกาสที่ดีของชีวิตเลยทีเดียว

“ก่อนหน้านี้ ติ๊นา เคยเรียนที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นเด็กซิ่วค่ะ (บอกพร้อมรอยยิ้ม) เอนทรานซ์เลือกคณะนี้เพราะตามใจคุณแม่ แต่พอมาทำงานยากค่ะ เป็นชีวิตการเรียนที่ยากเลย (ย้ำ) ก็เลยบอกกับคุณแม่ค่ะว่า ติ๊นา อยากเรียนจบเร็วๆ แล้วก็ชอบเรียนนิเทศฯ เพราะตอนเอนทรานซ์ก็เลือกคณะนี้เป็น 1 ใน 5 ด้วยนะคะ ขอเปลี่ยนมาเรียนด้านนี้เพราะถือว่าเรามีโอกาสได้ทำงาน เล่นหนัง ซึ่งมาพร้อมๆ กับการเรียนให้จบปริญญาตรี ก็ต้องเปลี่ยนคณะแม้ว่าจะต้องจบช้า ต้องเหนื่อยยืดเวลาไปอีก 1 ปี แต่การเปลี่ยนแปลง ติ๊นา ก็มองว่าทำให้ชีวิตท้าทายดี” ติ๊นา ศุภนาฎ วันนี้มาในชุดนักศึกษาเรียบร้อยน่ารัก บอกเพิ่งเข้าคอร์สเรียนทำรายการวิทยุ ได้ฝึกเป็นดีเจ ชีวิตการเรียนกำลังสนุก

“การบ้านคือเรื่องยากที่สุดสำหรับการเรียนเลยค่ะ เพราะพอหนังดัง และมีการสร้างภาคต่อ Yes or No รักไม่รัก อย่ากั๊กเลย ภาค 2 ก็มีกลุ่มแฟนคลับเยอะมากๆ และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทางค่ายหนังจึงต้องจัดโปรแกรมการเดินทางไปทัวร์เอเชีย จีน ไต้หวัน เกาหลี ทำให้เวลาเรียนเราน้อยลงไปอีก ล่าสุดเรียนเรื่องการจัดฉากและแสง ก็ตามเพื่อนไม่ทันแล้วนะคะ ติ๊นา ก็ต้องไปศึกษาเองในยูทูบ ก็คิดว่าคงทันเพื่อนพอใช้นะคะ” ศุภนาฎ บอกประโยคท้ายๆ นี้ดูเหมือนจะเป็นการปลอบใจตัวเองเล็กๆ ซึ่งเธอบอกว่าการทำงานอาจมีผู้จัดการมาช่วยดูแลเรื่องเวลาให้บ้าง แต่สำหรับการเรียนดาราที่อยู่ในวัยเรียนทุกคนก็คงไม่มีใครมาดูแลเรื่องนี้ให้ได้ดีที่สุดเท่ากับตัวเอง

“ติ๊นา เลือกวิธีเรียนให้น้อยวันที่สุด วีกหนึ่งเรียน 3 วันและอัดวิชาเต็มทั้งวันเลยค่ะ แตกต่างกับเพื่อนๆ ที่เรียนกระจายๆ สบายๆ ทั้งอาทิตย์ แต่ความโชคดีของเราคือมีเพื่อนดีค่ะ มีอาจารย์ที่ดี เข้าใจว่าเรามีงานกะทันหันบ่อยๆ พอเพื่อนเข้าไปคุยกับอาจารย์ให้ในช่วงที่เราไปต่างประเทศ อาจารย์ก็จะให้การบ้านมาให้ทำเพิ่มเป็นการเติมคะแนนในส่วนที่ขาดไป

การเรียนเราผิดพลาดได้ สอบตกก็สอบซ่อมได้ แต่การงานคือการใช้ชีวิตจริง ถ้าพลาดคือพลาดเลยนะคะเพราะฉะนั้นติ๊นาจะพยายามทำทั้งสองเรื่องนี้ให้เต็มที่ ต้องทำทุกอย่างให้ดีความท้าทายก็จะอยู่ตรงนี้” ศุภนาฎ บอก

สำหรับบทบาทในหนังหญิงรักหญิงเรื่องแรกของประเทศไทย ศุภนาฎ บอกว่ากดดันในเรื่องที่ว่าคนไทยจะยอมรับได้ไหม? แต่พอหนังฉายทุกคนก็เข้าใจว่าเป็นความรักใสๆ สไตล์วัยรุ่น แต่ถ้าถามในเรื่องการสวมบทบาทก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนัก เพราะเติบโตมาในมัธยมหญิงล้วนจากโรงเรียนสตรีวิทยา

“ติ๊นา เข้าใจความรู้สึกของวัยรุ่นวัยนี้นะคะเพราะตอนเรียน ม.ปลาย เราก็เคยไปกรี๊ดรุ่นพี่ผู้หญิง (หัวเราะ) ความรักมีหลายรูปแบบค่ะและเป็นเรื่องปรกติสำหรับสังคมสมัยนี้ที่เริ่มยอมรับกันมากขึ้น ติ๊นาไม่ใช่ทอมนะคะ ขอเป็นผู้หญิงหวานๆ ดีกว่าค่ะ ไม่ใช่ผู้หญิงเรียบร้อย (บอกพร้อมเสียงหัวเราะเขินอีกครั้ง) ตอนเรียนสตรีวิทย์ มีกฎห้ามซอยผม ติ๊นา ก็ไปซอยเพราะคิดว่ากฎมีไว้ให้ทำลายในบางอารมณ์ที่เราอยากต่อต้าน คุณครูก็เลยจับซอยเพิ่มให้อีกทั้งหัวกลายเป็นแหว่งๆ อายมากๆ แล้วพอวันนี้เราโตแล้วหันไปมองกลับไปก็รู้สึกเลยค่ะว่าเราจะทำอย่างนั้นทำไม”

Yes or No อยากรัก ก็รักเลย รับบทสาวหล่อ คิม เข้าฉายปลายปี 2553 และภาคสอง รักไม่รัก อย่ากั๊กเลย เข้าฉาย ส.ค.ปีที่ผ่านมา การเดินสายไปทั่วเอเชีย มีต & กรี๊ด แฟนคลับ คือความประทับใจในการทำงานเป็นนักแสดง

“ตั้งแต่หนังภาคแรกฉายก็มีแฟนคลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เลยค่ะ และในเร็วๆ นี้ ติ๊นา กำลังจะออกซิงเกิลเพลงอีกด้วยค่ะ เรารู้สึกว่ากำลังใจในการสร้างงานใหม่ๆ ก็เกิดจากแฟนๆ ที่ยอมรับเรา ล่าสุดไปโชว์ตัวในงานฟิล์มเฟสติวัล ที่เซี่ยงไฮ้ มีแฟนๆ ชาวจีนมารอรับเยอะราว 500 คนค่ะ แล้วทำวิดีโอเหมือนฉากในภาคแรกของ Yes or No อยากรัก ก็รักเลย ที่มีซีนคิมบอกว่าเวลามีความรักเหมือนมีผีเสื้อบินอยู่ในท้อง วิบๆ วิ้งๆ แฟนคลับก็ทำป้ายไฟผีเสื้อมารอต้อนรับ สวยมาก ประทับใจมาก”

แม้จะกลายเป็นดาราดังไปแล้ว แต่การดำเนินชีวิตก็ยังเป็นเด็กวัยรุ่นธรรมดาๆ ศุภนาฎ บอกขอยึดหลักที่ว่าไม่ทำอะไรที่ฝืนใจตัวเอง แล้วเมื่อมีโอกาสดีๆ เข้ามาก็จะทำให้ดีที่สุด

ตัวนี้ฝีมือ ติ๊นา ศุภนาฎ ดีไซน์ด้วยตัวเอง เพื่อระดมเงินบริจาคช่วยน้ำท่วมเมื่อปลายปี 2554 ตอนนี้ก็กลายเป็นของติดกระเป๋าอีก 1 ตัว หยิบมาอุ้มก็ได้คิดถึงการทำเพื่อสังคมในยามที่ทุกคนต้องช่วยเหลือกัน

&<2288;