posttoday

นภัสสร เอี่ยมเจริญ เริงร่า น่ารัก มุ่งมั่น

30 ธันวาคม 2555

ดาวมหาวิทยาลัยฉบับส่งท้ายปีเก่า ขอเติมเต็มความสดใสเริงร่า ด้วยสาวน้อยยิ้มเก่ง

ดาวมหาวิทยาลัยฉบับส่งท้ายปีเก่า ขอเติมเต็มความสดใสเริงร่า ด้วยสาวน้อยยิ้มเก่ง

โดย...โจ เกียรติอาจิณ

ดาวมหาวิทยาลัยฉบับส่งท้ายปีเก่า ขอเติมเต็มความสดใสเริงร่า ด้วยสาวน้อยยิ้มเก่ง เจ้าของหนังดรามาเรื่องล่าสุด “Together วันที่รัก” (เข้าฉายไปแล้วนะจ๊ะ ได้ดูกันหรือเปล่า)

“นภัสสร เอี่ยมเจริญ” หรือ “ครีม” แจกยิ้มให้เราเมื่อแรกพบกัน และไม่ใช่กับเราคนเดียว ช่างภาพ หรือกระทั่งทีมงานช่างผมช่างหน้า ที่กำลังสาละวนกับการเปลี่ยนโฉมให้ ก่อนจะขึ้นเวทีงานเปิดตัวหนัง เธอก็ไม่ละเว้น

ไม่เพียงยิ้มเก่ง แต่ครีมยังมีลีลาการพูดที่... อืม!!! เร็วมากกกกกก เร็วขนาดที่เราก็ฟังไม่ทัน ต้องคอยเตือนให้เธอพูดช้าๆ สโลว์ลี พลีส!!!

“ครีมพูดเร็วและรัว จนฟังไม่รู้เรื่อง คนก็จะบอกให้ครีมลดสปีดลงหน่อยได้มั้ย เพราะถ้าไม่ลดสปีดทุกคนก็จะฟังไม่รู้เรื่อง จริงๆ นะคะ”

เรื่องการพูดเร็วและรัวครีมกำลังปรับอยู่ เฉกเช่นชีวิตการเรียนชั้นปีที่ 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ครีมก็เริ่มเรียนรู้การเป็นนักศึกษาแพทย์ที่ดีตามแบบอย่างรุ่นพี่

“ปี 1 ยังไม่หนักเท่าไรค่ะ ส่วนใหญ่จะเรียนพื้นฐาน แต่อาจารย์พูดเร็วมาก (เอ!!! รึครีมจะติดมาจากอาจารย์ 555) เร็วจนฟังไม่ทัน (นั่นไงว่าแล้ว) พอขึ้นปี 2 อาจารย์บอกว่าหนักแน่ๆ ตายแน่ๆ เพราะต้องเรียนเข้มข้นกว่านี้หลายเท่า มีสอบตลอดเวลา ทุกคนต้องอ่านหนังสือเยอะค่ะ แต่อาจารย์ก็ให้กำลังใจว่า อยากให้ทุกๆ คนช่วยกันเรียนไปด้วยกัน จะได้จบไปพร้อมกัน”

แรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้สาววัย 18 เลือกเรียนแพทยศาสตร์ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ก็คุณพ่อคุณแม่ของเธอนั่นแหละ ที่เป็นแพทย์ทั้งคู่

“คุณพ่อครีมเป็นแพทย์ผิวหนัง คุณแม่ครีมเป็นศัลยแพทย์ ท่านคือแรงบันดาลใจค่ะ ที่ทำให้ครีมเลือกเรียนแพทย์ เด็กๆ ครีมก็จะไปดูพ่อกับแม่ทำงานตลอด ก็อยากเป็นเหมือนคุณพ่อคุณแม่บ้าง แต่ท่านไม่เคยบังคับครีมนะ ท่านค่อนข้างเปิดโอกาสให้ครีมเลือกและตัดสินใจเองทั้งหมด จริงๆ ครีมสอบติดวิศวะ ที่จุฬาฯ แต่ครีมคิดว่าเป็นผู้หญิงร่างบอบบางอย่างครีมคงไม่รุ่งแน่ๆ (หัวเราะร่วน) สุดท้ายครีมก็เลยเลือกแพทย์ ซึ่งครีมว่าน่าจะรุ่งกว่านะ”

ส่วนเหตุผลที่ครีมเลือกเรียนแพทยศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเอกชน แทนที่จะเป็นมหาวิทยาลัยรัฐ ครีมเล่าว่าเพราะอยากให้โอกาสกับเพื่อนๆ ที่ขาดแคลนทุน

“ตอนนี้แพทย์ที่ไหนก็เรียนเหมือนกัน ใช้ตำราเดียวกัน และบางครั้งอาจจะเป็นอาจารย์คนเดียวกันก็ได้ ไม่ว่าจะเอกชน หรือรัฐ ใช้ข้อสอบใบประกอบโรคศิลปะแบบเดียวกัน ฉะนั้นมาตรฐานเท่ากัน อย่างปีล่าสุดรุ่นพี่ที่รังสิตก็ได้คะแนนอันดับหนึ่งการสอบใบประกอบโรคศิลปะนะคะ ที่ครีมเลือกรังสิต เพราะอยากให้โอกาสกับเพื่อนๆ ที่อยากเรียนแต่ไม่มีทุน มันคงไม่น่ารักเอาเสียเลยนะคะ ถ้าครีมไปแย่งที่ของใครบางคน ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้ขาดแคลน ครีมว่าทุนการศึกษาไม่ได้มีไว้ให้คนเก่ง แต่ทุนการศึกษามีไว้ให้คนเก่งที่ขาดแคลน”

แพทย์เป็นอาชีพที่มีเกียรติ แต่กว่าจะก้าวมายืนแป้นเป็นแพทย์ที่ดีมีคนรักศรัทธาก็เหนื่อยหนักและต้องเสียสละ ข้อนี้ครีมเองก็รู้ดี ทว่าสาวอารมณ์ดีก็มุ่งมั่นที่จะสานต่อความฝัน โดยเธอแย้มปากบอกว่าอยากเป็นศัลยแพทย์เหมือนคุณแม่

“มุมหนึ่งครีมชอบศิลปะ วาดรูปนี่สวยนะคะ แต่ระบายสีไม่ค่อยสวย (หัวเราะ) ร้องเพลงก็พอไหว เคยร้องเพลงประกอบละครเฉลิมพระเกียรติ แต่ที่ชอบมากๆ คืองานเย็บปักถักร้อย ครีมชอบมากๆ ซึ่งพอถึงวาระที่ต้องเลือกวิชาเอก ครีมก็คิดว่าตัวครีมคงเหมาะกับศัลยแพทย์ เพราะมุมศิลปะของครีมน่าจะต่อยอดกับศัลยแพทย์ได้ดีกว่าสาขาอื่นๆ คำว่าศัลยแพทย์สำหรับครีมมันไม่ใช่การเสริมจมูกเสริมหน้าอกนะคะ แต่มันคืองานที่ทำให้คนไข้ดูดีจากแผลที่ไม่สวยต่างหาก”

ชีวิตในอนาคตครีมแพลนเอาไว้ว่าจบมาอยากทำโรงพยาบาลเล็กๆ หรือถ้าฝันนั้นใหญ่เกินไป เธอก็อาจเปลี่ยนมาเปิดคลินิก โดยถือคติ เมื่อคนไข้มีความสุข แพทย์ก็ย่อมมีความสุข

ขณะที่ชีวิตในวงการบันเทิง ครีมมองเป็นแค่งานอดิเรก มีเข้ามาและไม่ทับงาน ก็พร้อมรับเสมอ แต่ถึงกระนั้น เธอก็ยังขอเลือกงานมาก่อน เช่นเดียวกับตอนนี้ ครีมก็ขอเลือกเรียนมาอันดับหนึ่ง งานบันเทิงขอเป็นเรื่องรอง

“คำที่คุณพ่อคุณแม่สอนครีมมาตลอดคือ ทำอะไรก็ได้ แต่ต้องรู้จักหน้าที่ของตัวเอง อยากเป็นอะไรก็ได้ แต่อย่าลืมหน้าที่หลักของตัวเอง”