หุ้นไทยผันผวนปิดภาคเช้าลดลง0.28จุด

ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,577.51 จุด ลดลง 0.28 จุด มูลค่าการซื้อขาย 15,721.85 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกและลบก่อนปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,577.51 จุด ลดลง 0.28 จุด หรือ 0.02% มูลค่าการซื้อขาย 15,721.85 ล้านบาท

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ผันผวนในกรอบ โดยเปิดตลาดฯอยู่ในแดนบวกได้ดี แต่ต่อมาก็ย่อตัวลงมา ซึ่งนักลงทุนคงเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัวตามประเด็นที่เข้ามา โดยวันนี้กลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะมาได้ดี เนื่องจากจะมีความคืบหน้าการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเสนอราคาประมูลรถไฟทางคู่หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และหุ้นกลุ่มไอทีรับข่าวการเปิดรับเอกสารเข้าคัดเลือกผู้ผ่านคุณสมบัติประมูลโครงการอินเตอร์เน็ตชายขอบ

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศสำคัญ ๆ รวมถึงการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งแคบ และมีโอกาสที่จะย่อตัวลงได้ แต่ก็ยังมีปัจจัยหนุนจากในประเทศที่จะกระตุ้นหุ้นเป็นรายตัวไป พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,570-1,585 จุด

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์(บล.)บัวหลวง คาดว่าสัปดาห์นี้ดัชนีฯหุ้นไทยยังปรับขึ้นต่อได้  ให้แนวรับ 1,570/1,565 จุด แนวต้าน 1,585/1,590 จุด

บล.บัวหลวง คาดว่าความเสี่ยงขาลงดัชนีฯจะจำกัด พิจารณาจากงบบริษัทจดทะเบียน (บจ.)ขนาดใหญ่ ที่จะประกาศรอบนี้ เช่น PTTEP SCC SCB  BBL คาดว่ามีโอกาสน้อยที่นักวิเคราะห์จะปรับกำไรลงหลังงบออก

"PTTEP ตลาดคาดกำไรทั้งปี ที่ 2.4-2.5 หมื่นล้านบาท  แต่กำไรครึ่งปีแรก 1.78 หมื่นล้านบาท  คิดเป็น 72% ของคาดการณ์ทั้งปี 2560  คิดว่ากำไรที่เหลือของปีไม่น่าจะพลาดไปจากนี้ ยกเว้นราคาน้ำมันจะปรับตัวลงไป 30 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล"บทวิเคราะห์บล.บัวหลวง ระบุ

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่     
CPF    มูลค่าการซื้อขาย   960.93 ล้านบาท ปิดที่  24.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
CPALL  มูลค่าการซื้อขาย   605.65 ล้านบาท ปิดที่  61.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
AOT    มูลค่าการซื้อขาย   566.12 ล้านบาท ปิดที่  48.50 บาท ลดลง  0.25 บาท         
IVL    มูลค่าการซื้อขาย   530.56 ล้านบาท ปิดที่  37.00 บาท ลดลง  1.00 บาท         
KBANK  มูลค่าการซื้อขาย   516.57 ล้านบาท ปิดที่ 200.00 บาท ลดลง  2.00 บาท