posttoday

TFEXปีที่ 12 ไม่ง่าย

26 เมษายน 2560

โอกาสและความท้าทายของการทำให้ตลาด TFEX มีการเติบโตหรือขยายมากขึ้นไม่ใช่ง่าย

โดย...บงกชรัตน์ สร้อยทอง

วันที่ 28 เม.ย.นี้ บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) หรือ TFEX ภายใต้การนำของ “รินใจ ชาครพิพัฒน์” กรรมการผู้จัดการ จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ครบ 11 ปี TFEX มีพัฒนาการทั้งสินค้าและปริมาณสัญญาซื้อขายที่เพิ่มขึ้น หรือพฤติกรรมของผู้ลงทุน ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2560 มีสินค้า 8 ประเภท อ้างอิงที่เป็นตราสารทุน ตราสารหนี้ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ และสินค้าโภคภัณฑ์ บริษัทสมาชิก เพิ่มเป็น 44 ราย จากแรกเริ่มปี 2549 เพียง 20 ราย มีปริมาณการซื้อ 3.03 แสนสัญญา/วัน จากจุดเริ่มต้นเฉลี่ย 1,204 สัญญา/วัน มีปริมาณการซื้อขายและสถานะคงค้าง 1.96 ล้านสัญญา จากสถานะคงค้าง 7,601 สัญญา ผู้ลงทุนถือสัญญาเพื่อทำกำไรและบริหารความเสี่ยงมากขึ้น และมีบัญชีผู้ลงทุนถึง 1.33 แสนบัญชี จากจุดเริ่มต้นเพียง 4,426 บัญชี

ปี 2549 บริษัทอยู่ในอันดับ 39 จากสมาชิกทั่วโลกกว่า 40 แห่ง แต่ปัจจุบันอยู่อันดับ 27 จาก 55 แห่งทั่วโลก โดยตลาดภูมิภาคเอเชียสิงคโปร์เป็นแชมป์จากที่ตั้งตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้ามาแล้วมากกว่า 20 ปี โดยปริมาณการซื้อขายต่อวันของสิงคโปร์มากกว่าไทยถึง 3 เท่า TFEX มีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าราคาทองคำ (โกลด์ ฟิวเจอร์ส) ปริมาณการซื้อขายสัญญาอยู่ใน 5 อันดับแรกของเอเชีย ณ สิ้นปีก่อนของไทยอยู่ที่ 2.9 ล้านสัญญา ซึ่งยังอีกไกลจาก 4 อันดับแรกที่มีมากกว่า 10 ล้านสัญญาขึ้นไป สูงสุดคือ จีน มอสโก ญี่ปุ่น และอินเดีย

ผลสำรวจผู้ลงทุน TFEX ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ทำให้รู้ว่าผู้ลงทุนมีอายุน้อยลง จากช่วงแรกส่วนใหญ่อายุ 40 ปีขึ้นไป มาเป็นอายุ 30-40 ปี และรายได้มากขึ้นจากเดิม 2 หมื่น-1 แสนบาท เป็น 5 หมื่น-1 แสนบาท อีกทั้งเป็นคนที่มีความรู้และความเข้าใจเรื่องลงทุน ส่วนใหญ่จบปริญญาโท มีความรู้เรื่องเทคนิคและต้องการทำกำไร

แผนปี 2560 TFEX ตั้งเป้ามี 3.1 แสนสัญญา/วัน จากปีก่อน 2.85 แสนสัญญา/วัน ด้านบัญชีลูกค้าเพิ่มอีก 1.3 หมื่นบัญชี จากเดิมอยู่ที่ 1.33 แสนบัญชี โดยไตรมาสแรกที่ผ่านมามีปริมาณการซื้อขายสะสมที่ 3.3 แสนสัญญา

“โอกาสและความท้าทายของการทำให้ตลาด TFEX มีการเติบโตหรือขยายมากขึ้นไม่ใช่ง่าย เนื่องจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็ว ส่งผลให้หน่วยงานกำกับดูแลเข้มงวดมากขึ้น ต้องปรับให้สอดคล้องกับเหตุการณ์ ต้องร่วมมือกับพันธมิตร และจะเพิ่มสินค้าอ้างอิงโภคภัณฑ์มากขึ้น”รินใจ กล่าว

นอกจากนั้น ยังมีแผนเพิ่มเป้าหมายขยายฐานผู้ลงทุน โดยผู้มีลงทุนต่างชาติ 10% ผู้ลงทุนสถาบัน 36% และผู้ลงทุนทั่วไป 54% หากแยกเป็นประเภทสินค้าที่อ้างอิง สัดส่วนปริมาณการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอ้างอิงหุ้นรายตัว (Single Stock Futures) สูงสุดที่ 49% โดยปีนี้ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มให้สูงสุดถึง 60% รองลงมายังเป็นสินค้าหลักคือ SET50 Index Futures ที่ 46% รองลงมาคือ โกลด์ ฟิวเจอร์ส 4% ที่เหลืออื่นๆ

ไตรมาส 3 ปีนี้คาดว่าจะให้บริการซื้อขาย GOLD-D ที่ซื้อขายส่งมอบทองคำจริงขนาด 99.99% เป็นสกุลเหรียญสหรัฐ พร้อมกับการขยายเวลาปิดการซื้อขายทองคำจากเดิม 22.30 น.ไปจนถึง 24.00 น. เพื่อให้สอดคล้องกับราคาทองคำในตลาดโลก

ทั้งนี้ จะเริ่มให้หุ้นเป็นหลักทรัพย์วางประกัน รวมถึงการใช้เงินสกุลอื่น เช่น เหรียญสหรัฐ ยูโร และเยน เป็นหลักทรัพย์วางหลักประกันแทนเงินสดได้อย่างเดียว ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกและความคล่องตัวให้กับนักลงทุนได้มากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ