กสิกรไทยมองหุ้นไทยเล่นยาก ต่างชาติจ่อออก

กสิกรไทยมองหุ้นซึมไม่มีเงินใหม่เข้ามา เงินต่างชาติโยกกลับเข้าสหรัฐเน้นหุ้นพลังงาน-แบงก์-ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า การลงทุนหุ้นไทยจากนี้ไปจะซึม ลงทุนยาก ประเมินกรอบดัชนีทั้งปีไว้ 1,350-1,570 จุด เพราะไม่มีเม็ดเงินใหม่เข้ามาเป็นการซื้อขายภายในประเทศเท่านั้น

แนวโน้มเม็ดเงินต่างประเทศจะไหลกลับไปตลาดหุ้นที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐจะเริ่มเห็นตั้งแต่สิ้นเดือนนี้ จาก 3 เหตุผลคือ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาเรื่องลดภาษีนิติบุคคลลงในช่วง 1-2 สัปดาห์ การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีน้ำหนักขึ้นดอกเบี้ยในเดือน พ.ค. มากขึ้น เลือกตั้งในยุโรปที่จะเกิดขึ้น ความคืบหน้ากรณีเบร็กซิตของอังกฤษ รวมถึงเห็นสถานะนักลงทุนต่างชาติเปิดสถานะ (ลอง) ในฟิวเจอร์สไว้ในระยะยาวเดือน มิ.ย. เอาไว้ แสดงว่าระยะสั้นต่างชาติไม่สนใจซื้อหุ้นไทย

“การลงทุนปีนี้ตรงข้ามกับปีก่อนทั้งหมดตั้งแต่เงินเฟ้อ ราคาน้ำมันสูง แต่เม็ดเงินต่างชาติที่ไหลออกจะไม่รุนแรงเพราะไทยมีดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดที่ดี”

กลยุทธ์ระยะสั้นรอเวลาหุ้นปรับลงก่อน หรือเลือกหุ้นชนะเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยขาขึ้น และได้ประโยชน์ค่าเงินบาทอ่อนคือ กลุ่มพลังงาน บริษัท ปตท. (PTT) บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บริษัท บ้านปู (BANPU) กลุ่มแบงก์ ราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (พี/อี) เพียง 10 เท่า ความกังวลหนี้เอ็นพีแอลลดลง เช่น ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารกรุงไทย (KTB) กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA และบริษัท เอสวีไอ (SVI)