posttoday

เมย์แบงก์กำไรลด4%

14 กุมภาพันธ์ 2560

เมย์แบงก์กำไรปี 2559 ลดลง 4% จากรายได้ค่านายหน้าลดลง ใจป้ำปันผล 100% ของกำไรสุทธิ

เมย์แบงก์กำไรปี 2559 ลดลง 4% จากรายได้ค่านายหน้าลดลง ใจป้ำปันผล 100% ของกำไรสุทธิ

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET แจ้งว่า บริษัทมีกำไรสุทธิปี 2559 ที่ 974.49 ล้านบาท ลดลง 4.39% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2558 จากรายได้ค่านายหน้าที่ลดลง 1.55% เป็น 2,590.62 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 1.69% เป็น 2,411.27 ล้านบาท และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการลดลง 54% เป็น 75.22 ล้านบาท หรือลดลงเนื่องมาจากค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่าย

หลักทรัพย์ลดลง 91.55 ล้านบาท ค่าที่ปรึกษาทางการเงินลดลง 4.53 ล้านบาท และรายได้อื่นลดลง 14% เป็น 1,005.55 ล้านบาท เนื่องมาจากรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลลดลง 111.10 ล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยื้มเพื่อซื้อหลักทรัพย์ลดลง 50.85 ล้านบาท กำไรจากการเงินลงทุนและตราสารอนุพันธ์ลดลง 5.86 ล้านบาท และรายได้อื่นลดลง 2.06 ล้านบาท ตามลำดับ

นอกจากนั้น เมย์แบงก์อนุมัติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 วันที่ 30 มี.ค. 2560 ให้พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นอีกหุ้นละ 0.95 บาท รวมเป็นอัตราการจ่ายปันผลปี 2559 ที่ 1.70 บาท/หุ้น หรือ 100% ของกำไรสุทธิ โดยคณะกรรมการบริษัทมีมติจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.75 บาท/หุ้น และได้จ่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2559 คงเหลือเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นอีก 0.95 บาท (กำไรสะสมจากวันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย. 2559 จำนวน 0.9367 บาท/หุ้น)

ทั้งนี้ หากที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายปันผลดังกล่าวจะมีกำหนดการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 18 เม.ย. 2560 นอกจากนั้นจะเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและการเสนอขายหุ้นกู้มูลค่ารวมไม่เกิน 5,000 ล้านบาท หรือในสกุลอื่นในจำนวนเทียบเท่าเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือหรือไม่ระบุชื่อผู้ถือประเภทด้อยสิทธิหรือไม่ด้อยสิทธิ อาจมีหรือไม่มีประกันและอาจมีและไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1,000 บาท/หน่วย เสนอขายในประเทศและหรือต่างประเทศให้ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงหรือผู้ลงทุนรายใหญ่ สถาบันในประเทศ สถาบันต่างประเทศ บุคคลใดซึ่งอาจเสนอขายครั้งเดียวเต็มวงเงินหรือเป็นคราวไป

สำหรับผู้ถือหุ้นกู้มีสิทธิหรือไม่มีสิทธิขอให้บริษัทไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดและบริษัทอาจมีหรือไม่มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนด ทั้งนี้เป็นไปตามเงื่อนไขข้อตกลงและเงื่อนไขของหุ้นกู้ที่จะออกแต่ละคราว

ส่วนแบ่งตลาดค่านายหน้าของ MBKET ลดลงจากสภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวย ถึงแม้ว่า MBKET จะรักษาการเป็น บล.ที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ได้อย่างเหนียวแน่น แต่ส่วนแบ่งตลาดค่านายหน้าของ MBKET ในปี 2559 นั้น ลดลงเหลือ 8.1% จากปีก่อนอยู่ที่ 8.7% ซึ่งผู้บริหารให้เหตุผลว่า เป็นเพราะภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย ดัชนีตลาดหุ้นปรับลดลง ทำให้ลูกค้ารายย่อยที่เป็นลูกค้าหลักของ MBKET ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 87.5% ของลูกค้าทั้งหมด (สถาบันต่างประเทศมีสัดส่วน 6% และสถาบันในประเทศมีสัดส่วน 6.5%) ชะลอการลงทุน และทางผู้บริหารคาดว่าหากดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้นจะทำให้นักลงทุนรายย่อยกลับเข้ามาทำการซื้อขายอีกครั้ง และจะทำให้ส่วนแบ่งตลาดของ MBKET ปรับเพิ่มขึ้นได้ โดยในปี 2559 ตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดค่านายหน้าไว้ที่ 8-9% ส่วนปี 2560 มีเป้าที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้เป็น 2 หลักเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

ด้านกำไรปี 2559 ของ MBKET นั้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) คาดไว้ที่ 1,040 ล้านบาท ส่วนปี 2560 บล.ฟิลลิป คาดว่า ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มสูงขึ้น จึงคาดว่าจะมีกำไร 1,045 ล้านบาท และคาดว่าจะมีการจ่ายปันผล 1.75 บาท/หุ้น ทั้งสองปี

บล.ฟิลลิป คาดว่า ผลประกอบการของ MBKET ในปี 2560 จะทรงตัวจากปี 2559 ทำให้ราคาพื้นฐานปี 2560 ยังคงอยู่ที่ 22 บาท จากราคาปิดล่าสุดเมื่อวันศุกร์ ที่ 23 บาท

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น MBKET เมื่อวันศุกร์ที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.44% เป็นไปตามสภาวะตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามหุ้นทั่วโลกหวังนโยบายปฏิรูปภาษีของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่คาดว่าจะทำให้กำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐเพิ่มขึ้น