สินบนข้ามชาติ เขย่าซีจีบจ.ไทย

โดย...ยินดี ฤตวิรุฬห์, บงกชรัตน์ สร้อยทอง 

ครึกโครมข้ามโลก กรณีสินบนโรลส์-รอยซ์ ที่ยอมรับกับสำนักงานการปราบปรามการทุจริตของประเทศอังกฤษ หรือเอสเอฟโอ ว่ามีการจ่ายสินบนในการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัท การบินไทย (THAI) และบริษัท ปตท. (PTT) และ ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP)

ทั้งนี้ 3 บริษัทไทย ที่ถูก "โรลส์-รอยซ์" ออกมาเปิดโปงถือว่าเป็นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ขนาดใหญ่ของตลาดทุนไทยที่มีบทบาทต่อตลาดหุ้นไทยมากเพราะหากนับรวมมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) ณ วันที่ 24 ม.ค. อยู่ที่ 1.58 ล้านล้านบาท เป็นของ PTT มูลค่า 1.16 ล้านล้านบาท PTTEP มูลค่า 3.7 แสนล้านบาท และ THAI มูลค่า 5.1 หมื่นล้านบาท ดังนั้น บจ.ที่ถูกพาดพิงจะต้องเร่งสะสางและหาความกระจ่างก่อนที่จะทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่น

การจ่ายสินบนถือว่าเป็นของแสลงในสายตาของนักลงทุน อีกทั้งหากดูผลคะแนนด้านซีจีของทั้ง 3 บริษัทจากสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ที่มีการประเมินในทุกๆ ปีโดยเฉพาะ PTT จะอยู่ในระดับที่ดีเลิศ ดังนั้นประเด็นการจ่ายเงินสินบนจะกระทบต่อคะแนนซีจี กระทบต่อการลงทุนในหุ้นของ 3 บริษัทอย่างไรในอนาคตโดยที่เรื่องความโปร่งใสเป็นเรื่องสำคัญหนึ่งในการตัดสินใจว่าจะเข้ามาลงทุนหรือไม่

เทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTT เปิดเผยว่า บริษัทยังไม่ได้รับการสอบถามจากนักลงทุนทั้งในและต่างชาติที่ถือหุ้นเข้ามาแต่อย่างใด ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่เรื่องดังกล่าวเพิ่งเกิดขึ้น และบริษัทยืนยันว่าในการดำเนินธุรกิจ ได้ยึดมั่นในเรื่องของความโปร่งใส การกำกับกิจการที่ดี หรือมีบรรษัทภิบาลที่ดีในการทำธุรกิจมาโดยตลอด

“ปตท.ยืนยันที่จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจังและเร่งด่วน เพื่อให้เกิดความชัดเจนและโปร่งใส ภายใต้หลักธรรมาภิบาลของการกำกับดูแลกิจการที่ดี ทั้งนี้จะรายงานความคืบหน้าเป็นระยะต่อไปและจะทำเรื่องนี้ให้พนักงานและคนในองค์กรได้ถือว่าเป็นบรรทัดฐานในการทำงานที่จะต้องโปร่งใส และจะปลูกฝังพนักงานให้มีจิตสำนึก มีจริยธรรม มีจรรยาบรรณ ให้เป็นค่านิยมขององค์กรว่าจะต้องทำงานด้วยความโปร่งใส"

เทวินทร์ กล่าวว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งใครเป็นคนกลางเป็นเรื่องยากที่จะรู้ หากรู้แล้วพบว่าคนกระทำผิดครบเทอมหรือหมดวาระการดำเนินการทางวินัยก็ทำไม่ได้ เพราะพ้นระยะเวลา 180 วันครบวาระ แต่สามารถดำเนินการทางอาญาได้ เรื่องนี้ถ้ารู้ว่าใครก็จะประสานงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วน ปตท.ก็พร้อมดำเนินการตามกฎหมาย สำหรับในกรณีของโรลส์-รอยซ์ ซึ่งเป็นผู้ให้สินบนกับนายหน้า ถ้ายอมให้รายชื่อว่าผู้รับเป็นใคร แต่ถ้าไม่ยอมบอกก็จะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะถือว่าไปเปิดชื่อบริษัทและทำให้ชื่อเสียงของบริษัทเสียหาย และยืนยันว่าจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องชื่อเสียงของ ปตท.

เกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่า บจ.และผู้ลงทุนต่างรับรู้เรื่องการมีบรรษัทภิบาลที่ดีเป็นที่ยอมรับมากขึ้น สังคมไทยเริ่มแสดงความต้องการให้เห็นแล้วว่าเขาต้องเรื่องบรรษัทภิบาลที่สูงขึ้น อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่หน่วยงานทางการ เช่น ตลท.และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)  ดินกันมาถูกทางแล้ว

ขณะเดียวกัน บจ.ไทยตระหนักถึงความสำคัญเรื่องบรรษัทภิบาล ส่งผลให้ปัจจุบัน บจ.ไทยได้รับการยอมรับและเชื่มมั่นจากนักลงทุนต่างประเทศมากขึ้น เพราะต่างประเทศให้ความสำคัญกับเรื่องนี้และสิ่งที่ตลาดทุนจะช่วยกันพัฒนาต่อไป คือ การยกระดับบรรษัทภิบาลให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น บจ.ขนาดใหญ่ ขนาดเล็กก็มีบรรษัทภิบาลที่ดีได้ รวมไปถึงผู้ลงทุนก็มีความสามารถในการคัดเลือกและมองเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญก่อนที่จะพิจารณาลงทุน

วรัชญา ศรีมาจันทร์ ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส ก.ล.ต. กล่าวว่า บจ.ไทยมีพัฒนาการในด้านซีจีที่ดีขึ้นมาก ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ไทยมีคะแนน CG Watch ซึ่งประเมินโดย Asian Corporate Governance Association ติดกลุ่ม 1 ใน 5 ของเอเชียมาโดยตลอด และในไตรมาสนี้ ก.ล.ต.จะออก CG Code ซึ่งเน้นการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ (บอร์ด) ที่มีบทบาทเป็นผู้นำที่รับผิดชอบเพื่อให้บอร์ดใช้สร้างคุณค่าให้แก่กิจการได้อย่างยั่งยืน เริ่มตั้งแต่การกำหนดเป้าหมายของกิจการที่เป็นไปเพื่อความยั่งยืน และดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย ด้วยการเสริมสร้างบอร์ดที่จะเอื้อให้บรรลุวัตถุประสงค์ สามารถดูแลโครงสร้างการบริหารบุคลากร การประกอบธุรกิจอย่างรับผิดชอบ และการติดตามและเปิดเผยข้อมูลที่สนับสนุนการมีส่วนร่วมและการสื่อสารกับผู้ถือหุ้น ซึ่งการที่ บจ.มีผลประกอบการที่ดีและคำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่าย ไม่เพียงแต่จะสร้างผลตอบแทนและความยั่งยืนให้แก่ บจ.เท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างคุณค่าให้แก่ผู้ลงทุนในทุกระดับสังคมและประเทศชาติไปสู่การพัฒนาและเติบโตได้อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการบริหารประเทศบนวิสัยทัศน์ “มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”