พลังงานแยกบริษัทลูก ระดมทุนเร่งโต

โดย...ประลองยุทธ ผงงอย

ปี 2559 กลุ่มพลังงานขนาดใหญ่ที่เป็นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ดำเนินกลยุทธ์ในการแยกบริษัทลูกเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นโดยเฉพาะลูกที่ดำเนินธุรกิจไฟฟ้า เพราะถือเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างกระแสเงินสด สร้างรายได้ และกำไรที่มีความมั่นคงจากสัญญาขายไฟฟ้าระยะยาวและประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) เมื่อเข้ามาแล้วสูงเป็นหลักเกือบแสนล้านบาท

บริษัท บีซีพีจี (BCPG) ลูกของบริษัท บางจากปิโตรเลียม (BCP) ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. ในมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ณ ราคาเสนอขายต่อประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) 1.99 หมื่นล้านบาทจนถึงปัจจุบันมีมาร์เก็ตแคป 2.8 หมื่นล้านบาท โดยจากราคาไอพีโอที่หุ้นละ 10 บาท ปัจจุบันเพิ่มขึ้น 41% เป็น 14.10 บาท เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2559

บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) ลูกของบริษัท บ้านปู (BANPU) เข้า SET วันที่ 28 ต.ค. มาร์เก็ตแคปไอพีโอ 63,959 ปัจจุบันมาร์เก็ตแคปเพิ่มเป็น 7.6 หมื่นล้านบาท จากราคาไอพีโอหุ้นละ 21 บาท เพิ่มขึ้น 19% เป็น 25 บาท เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2559

ล่าสุด มีบริษัทลูกพลังงานและไฟฟ้า บจ.ที่ยื่นแบบรายการแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) เตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นอีกหลายแห่ง ซึ่งมีโอกาสเห็นในปี 2560 ได้แก่ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) ลูกของบริษัท ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) บริษัทลูก บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) บริษัทลูกของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ขณะที่บริษัท ปตท. (PTT) กับ BCP ที่ประกาศแผนชัดเจนคือแยกธุรกิจค้าปลีกของบริษัทลูกในกลุ่มออกมาเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น