เบอร์ลี่ฯซื้อบิ๊กซีรับทันที9หมื่นล้าน

เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ยันซื้อบิ๊กซีเสร็จปีนี้รับรายได้ทันที 9 หมื่นล้าน ดันปีหน้าบริษัทมีรายได้เพิ่มเป็น 1.7-1.8 แสนล้าน

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) เปิดเผยว่า จะทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) หุ้นบริษัท บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC) แล้วเสร็จในเดือน พ.ค.นี้ และจะเริ่มรับรู้รายได้จากบิ๊กซีตั้งแต่ไตรมาส 2-4 หรือทันทีอีก 9 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้บริษัทรายได้เติบโตอีกมาก จากปี 2558 ที่มีรายได้ 4 หมื่นล้านบาท

สำหรับเงินลงทุนทั้งหมดจะใช้เงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 2.2 แสนล้านบาท โดยบริษัทจะรักษาอัตราจ่ายปันผลไว้ และไม่มีแผนถอนหุ้นบิ๊กซีออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นอกจากนั้นจะส่งทีมผู้บริหารไปร่วมบริหารในการเร่งขยายสาขาจากที่บิ๊กซีมีทั้งหมด 700 แห่ง

น.ส.จิรยง อนุมานราชธน หุ้นส่วนผู้จัดการและผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน บริษัท เจดี พาร์ทเนอร์ ที่ปรึกษาการเงินอิสระ กล่าวว่า การเข้าซื้อหุ้นบิ๊กซีจะส่งผลให้รายได้ของ BJC ในปี 2560 เพิ่มเป็น 1.7-1.8 แสนล้านบาท จากรายได้เดิมของ BJC 4 หมื่นล้านบาท และจากบิ๊กซีอีก 1.33 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น BJC มีมติให้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของบิ๊กซีโดยเทนเดอร์ออฟเฟอร์ทั้งหมดจากนักลงทุนโดยหากได้หุ้น 100% จะใช้เงิน 2.2 แสนล้านบาท เป็นหุ้นที่ BJC จะเข้าซื้อจากกลุ่มคาสิโน 58.55% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วของบิ๊กซี ในราคาหุ้นละ 252.88 บาท มูลค่าไม่เกิน 1.22 แสนล้านบาท

ด้านบริษัท สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ลดอันดับเครดิตของคาสิโน กรุ๊ป ค้าปลีกฝรั่งเศส เจ้าของบิ๊กซี สู่ระดับขยะหรืออยู่ในระดับไม่น่าลงทุน และหั่นอันดับหุ้นกู้ระยะยาว 1 ระดับมาอยู่ที่ BB+ เนื่องจากเทขายสินทรัพย์มากเกินไป ส่วนภาพรวมยังมีเสถียรภาพ เพราะรายรับยังเพิ่มขึ้นจากการขายสินทรัพย์ในไทย