posttoday

เริ่มเก็งผลประกอบการ

04 เมษายน 2560

โดย...ประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย

โดย...ประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย

ในช่วงต้นเดือน เม.ย. 2560 จะเป็นช่วงของการเริ่มทบทวนประมาณการกำไรในกลุ่มธนาคาร ซึ่ง KS Research คาดหมายว่า ผลประกอบการโดยรวมจะออกมาสดใส เติบโตโดยมีปัจจัยหนุนจาก ประการแรก การปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มมากขึ้น โดยดูได้จากการที่ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 8 แห่งรายงานการเติบโตของสินเชื่อเดือน ก.พ.ที่ระดับ 0.4% จากเดือน ม.ค. (+1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน)

ประการที่สอง ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่ปรับลดลงตามฤดูกาล ประการที่สาม ค่าใช้จ่ายในการสำรองหนี้คาดว่าจะทรงตัวและปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ประการที่สี่ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเติบโต ซึ่งจะชดเชยรายได้ค่าธรรมเนียมที่ปรับลดลงจากการเริ่มโครงการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์

ถัดจากกลุ่มธนาคารในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือน เม.ย. จะเป็นการทยอยประกาศงบของภาคการผลิต  ไล่ไปตั้งแต่ วัสดุก่อสร้าง พลังงาน ปิโตรเคมี สื่อสาร ซึ่งกลุ่มพลังงานมีโอกาสที่จะมีผลกำไรดีขึ้นโดยเฉพาะบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ที่ไม่ต้องเผชิญกับรายการกดดันอย่างค่าใช้จ่ายภาษีรอตัดบัญชีและการตัดด้อยค่าสินทรัพย์เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในงวดไตรมาส 4 ปี 2559 ซึ่งกำไรที่ดีขึ้นจะเป็นผลดีต่อเนื่องมายังบริษัท ปตท. (PTT) ด้วย ส่วนกลุ่มปิโตรเคมี ด้วยส่วนต่างราคาวัตถุดิบและราคาขาย (Spread) ทั้งสายอะโรเมติกส์และโอเลฟินส์ที่ปรับเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี น่าจะเป็นตัวที่ทำให้ผลกำไรของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาส

ด้วยแนวโน้มผลประกอบการกลุ่ม ธนาคาร พลังงาน และปิโตรเคมี ที่น่าจะออกมาดี จะเป็นตัวกระตุ้นทำให้ตลาดเกิดแรงเก็งกำไรงบในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งจะเป็นแรงสนับสนุนและประคองให้ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) เคลื่อนไหวเชิงบวกในกรอบ 1,560-1,600 จุดได้

จากการคาดการณ์ในเบื้องต้น ฝ่ายวิจัยจำแนกกลุ่มหุ้นเก็งผลประกอบการออกเป็นดังนี้

กลุ่มที่คาดว่าจะมีผลประกอบการดีขึ้นทั้งรายไตรมาสและเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน อาทิ ธนาคาร บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) พลังงาน PTT PTTEP บริษัท บ้านปู (BANPU) บริษัท บางจากปิโตรเลียม (BCP) พลังงานทดแทน บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA) สาธารณูปโภค บริษัท ผลิตไฟฟ้า (EGCO) บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) ปิโตรเคมี PTTGC วัสดุก่อสร้าง บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO)

กลุ่มที่คาดว่าจะมีผลประกอบการดีขึ้นเทียบไตรมาส 4 ปี 2559 แต่แย่ลงเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนอาทิ วัสดุก่อสร้าง บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) บริษัท ไดนาส ตี้ เซรามิค (DCC) สื่อสาร บริษัทอินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) บริษัท ไทยคม (THCOM) บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อิมแพ็ค โกรท (IMPACT) ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) บริษัท เอสวีไอ (SVI) ค้าปลีก บริษัท คาร์มาร์ท (KARMART)

กลุ่มที่คาดว่าจะมีผลประกอบการแย่ทั้งรายไตรมาสและรายปี อาทิ พลังงาน บริษัท สแกน อินเตอร์ (SCN) บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) โรงกลั่น บริษัท ไออาร์พีซี (IRPC) วัสดุก่อสร้าง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ปิโตรเคมี บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL)

กลุ่มผลประกอบการแย่ทั้งรายไตรมาสแต่จะดีขึ้นเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน อาทิ ธนาคาร บริษัท ทุนธนชาต (TCAP) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) โรงกลั่น บริษัท ไทยออยล์ (TOP) บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) สื่อสาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS)

เลือกหุ้นที่น่าสะสมเพื่อเก็งกำไรผลประกอบการคือ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) ธนาคารกรุงไทย (KTB) PTTEP บริษัท เอสพีอาร์ซี (SPRC) GUNKUL JWD KCE DELTA RJH MEGA GLOBAL TKN SAWAD CK