‘ปรับความคิดที่หนึ่ง ในการแกะพิมพ์เขียวตลาดหุ้น’

โดย  ภาววิทย์ กลิ่นประทุม ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง

ปรับความคิด แนว Blueprint “แกะรหัสตลาดหุ้นไทย” “คนส่วนใหญ่คิดว่า คนที่รวยจากตลาดหุ้นได้ ต้องมีเงินเยอะ ต้องเป็นรายใหญ่ และต้องอินไซด์ ...นั่นแปลว่า คนนั้นต้องรวยอยู่แล้วถึงจะคว้าโอกาสได้ในตลาดหุ้น”

ที่จริง ไม่ใช่ ...สิ่งที่เหมือนกันสำหรับทุกคนที่เข้าตลาดคือ “การรับน้อง” เหมือนขี่จักรยานที่ไม่มีใครขี่เป็นโดยไม่มีแผล แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า การขี่จักรยานไม่ดี เพราะอย่างน้อยมันก็พาเราไปสู่เป้าหมายได้เร็วกว่าการเดิน ...ตลาดหุ้นก็เช่นกัน

“บางครั้งการเริ่มเล่นหุ้นที่เงินน้อย กลับดีกว่า เพราะไหนๆ ทุกคนต้องเสียหาย ก็เสียหายมันตอนเริ่มน้อยๆ นี่แหละ คนส่วนมากที่ล้มและลุกไม่ขึ้นอีกเลยในตลาดหุ้น ก็คือ คนที่เข้ามาแบบ ‘จัดหนักและไม่ศึกษา’ คนแบบนี้ เสียหายหนักทุกคน และเป็นเหตุผลเดียวที่เขาออกจากตลาดไป”

...ไม่มีนักธุรกิจคนไหนที่ไม่เคยล้ม เพราะถ้ากลัวล้มคุณก็ไม่มีทางเป็นนักธุรกิจ และก็ไม่มีนักเล่นหุ้นคนไหนที่ไม่เคยเจ๊ง ไม่เคยติดหุ้น (โดนกันมาทุกคน แต่เขาไม่เลิกไง) ...มีคำพูดนึงที่น่าสนใจเกี่ยวกับตลาดหุ้นและการทำธุรกิจว่า

-- “ไม่มีความล้มเหลวที่แท้จริง เพราะความล้มเหลวสามารถนำมาเป็นบทเรียนให้ฉลาดขึ้น และเป็นเชื้อเพลิงแห่งความสำเร็จในครั้งต่อไป ...มีแต่ความล้มเลิกของแต่ละคนเท่านั้น ที่เป็นความล้มเหลวอย่างถาวร!!”

เรื่องที่หลายคนไม่รู้ก็คือ จริงๆ แล้วสิ่งที่ทำให้รายใหญ่เสียหายมากที่สุด อาจจะพูดได้ว่า “กับดักของรายใหญ่” ก็คือ เสียหายจากการเล่นหุ้นอินไซด์

ใช่!! สิ่งที่ทุกคนอยากจะได้ ไอ้พวกข้อมูลวงใน ทำให้คนเสียหายมากที่สุด เพราะ

1.ข้อมูล อินไซด์ ทำให้เราซื้อหุ้นเน่า ในเวลาที่มันแพงที่สุด (เราหลงไปเล่นหุ้นปั่น ตอนที่เขาปั่นข่าวดีๆ ขึ้นมาก็จังหวะนั้นแหละ)

2.ข้อมูล อินไซด์ ทำให้เราติดดอย เพราะมันทำให้เรามั่นใจไร้สติในขยะ “หุ้นปั่นยิ่งลง เรากลับยิ่งเก็บ” ...ก็เพราะเราคิดว่า อินไซด์ มันเป็นของดี ซวยไหมล่ะ!!

3.ไม่ว่าคุณจะมีสายสัมพันธ์ ดีแค่ไหน หรือวงในแค่ไหน ...คุณก็ไม่สามารถที่จะได้ข้อมูลอินไซด์ที่ถูกทุกรอบ -- มันต้องมีสักรอบที่โดนหลอก และรอบนั้นแหละที่มักจะเป็นครั้งที่เสียหายมากที่สุด

สิ่งที่ The Stock Blueprint นำเสนอทางแก้คือ “รู้วิธี-รู้เป้า-เข้ามีจังหวะ”

ข้อมูล อินไซด์ เราฟังได้ เล่นได้ แต่อย่างน้อยควรรู้วิธีจำกัดความเสี่ยงทุกครั้งที่เก็งกำไร เช่น การใช้เทคนิคกรองข่าวที่ได้ข้อมูลมา ถ้าดีจริง หุ้นต้องขึ้น กราฟหุ้นจะยืนยัน...แต่ถ้ามันลง แต่เรายิ่งรับก็แปลว่า เราน่ะโง่แล้ว ถูกหลอกแล้ว กราฟหุ้นมันก็จะลงยืนยัน เช่นกัน -- ดังนั้น การเข้าใจความเสี่ยงและวาง หยุดขาดทุน ทุกครั้งที่เข้าเก็งกำไร+รู้วิธีการอ่านกราฟขึ้นหรือลง+เลือกจังหวะที่เข้าลงทุนได้เหมาะกับจริตของเรา

นี่แหละ “รู้วิธี-รู้เป้า-เข้ามีจังหวะ”