posttoday

“การเรียนรู้จากคนชอบเที่ยว”

18 ตุลาคม 2559

โดย ภาววิทย์ กลิ่นประทุม ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง

โดย ภาววิทย์ กลิ่นประทุม ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง

มีหลายคนบ่นว่า “เด็กสมัยนี้เก็บเงินไม่เป็น พอมีเงินก็เอาแต่จะเที่ยว ..แล้วอนาคตจะเป็นอย่างไร ?”

น่าคิดนะ ว่าคนชอบเที่ยว อนาคตเขาจะเป็นอย่างไร

เรื่องนี้มันต้องมาย้อนถามว่า “คนที่ชอบเที่ยวเขาได้อะไรจากการท่องเที่ยว ?”

ต้องยอมรับว่าการท่องเที่ยวโดยเฉพาะการไปต่างประเทศมันใช้เงินค่อนข้างเยอะแต่ลึกๆผมก็เชื่อว่า “มันต้องมีอะไรดีๆจากการท่องเที่ยวซึ่งขึ้นอยู่ที่ว่าเราได้อะไรจากการไปเที่ยวนั้นๆ”

สมัยก่อนเราจะเห็น “ทัวร์ชะโงก” ที่เราไปเที่ยวกับทัวร์แล้วโปรแกรมอัดแบบโคตรแน่น ..หลายๆคนให้นิยามเที่ยวกับทัวร์แบบนี้ว่า “ทัวร์ 6 7 8” ก็คือ ตื่นหกโมง เจ็ดโมงกินข้าว แปดโมงรถออก

ตารางทัวร์อัดแน่น ชนิดที่เรียกว่า จอดดูตรงไหน เราสามารถลงไปแค่ชะโงก ..ถ่ายรูป ว่าได้มาแล้วนะ แล้วก็รีบขึ้นรถบัส เพื่อไปชะโงกดูที่อื่นต่อ

เฮ้ย!! นี่มันเที่ยวเน้นปริมาณไม่เน้นคุณภาพนี่หว่า ...ฮ่า ฮ่า

แต่แหม มันต้องมีอะไรดีๆ บ้างน่า ..ผมเองไม่ค่อยชอบเที่ยว แต่พอเที่ยวก็ชอบสังเกตนุ่นนี่ ...ไปเจอเรื่องนึงที่ทำให้ผมฉุกคิด ก็คือ “เที่ยวพิพิธพัณฑ์ ในที่ต่างๆ นี่แหละ”
'ทำไมต้องมีพิพิธภัณฑ์ ..มีค่าอะไร?'

เวลาเราไปญี่ปุ่นเราไปดูพิพิธภัณฑ์ราเมงไปดูพิพิธภัณฑ์กันดั่ม ..ดูพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

เวลาเราไปอิตาลีเราไปดูพิพิธภัณฑ์ต่างๆรวมทั้งพิพิธภัณฑ์Ferrari ...

แล้วมาเมืองไทย ..ก็มาวัดไง ..ที่ต่างชาติเขามาเที่ยวบ้านเราเพราะเขาไม่มี ..วัฒนธรรมในอดีตของไทยช่างโดดเด่นและมีเอกลักษณ์มากที่สุดแห่งนึงในโลก -- เมืองไทยถึงสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก !!

แต่สังเกตไหมครับที่บ้านเราสบายใครๆก็อยากมาเที่ยวล้วนเกิดจากบรรพบุรุษของเราสร้างเอาไว้ ..สร้างวัดสร้างศิลปะสร้างวัฒนธรรมสร้างอาหาร -- แต่ลองมองปัจจุบันซิครับคนรุ่นใหม่ทำอะไรเพิ่ม ?

'ถ้าไม่มีแปลว่าเรากำลังกินบุญเก่าซึ่งมันค่อยๆหมด'

ทางแก้ก็คือ 'ให้คุณค่าในการสร้างเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ในศิลปะและวัฒนธรรม ..ซึ่งการสร้างพิพิธภัณฑ์นี่แหละที่เป็นการย้ำและแสดงคุณค่า'

...ลองดูประเทศยุโรปหรือญี่ปุ่นเขามีพิพิธภัณฑ์มากมาย ..ทำให้ประเทศเหล่านี้เห็นคุณค่าในสิ่งที่เขามีเห็นคุณค่าในวิถีชีวิตส่งผลให้เขาสามารถสร้างสินค้าที่มี Identity กลายเป็นสินค้าBrandnameนั่นเอง !!

'เราอาจจะสงสัยว่าการที่ประเทศหนึ่งจะมีสินค้าBrandnameชื่อก้องโลกมันเกิดจากอะไร ..ก็เกิดจากคนในประเทศนั้นเข้าใจ Identity มีความภูมิใจในตัวเองภูมิใจในศิลปะวัฒนธรรม ..นั่นแหละเขาถึงกล้าสร้างสินค้ามีคุณภาพกล้าเอาชื่อตัวเองเป็นยี่ห้อสินค้าและสุดท้ายคนทั้งโลกก็โหยหาและให้ทั้งคุณค่าและราคากับสินค้าเหล่านี้ !!'

ห้องสมุดเป็นแก่นของ 'Knowledge'

พิพิธภัณฑ์เป็นแก่นของ  'Identity'

Internet เป็นแก่นของ 'Democracy'

ทั้งสามอย่างคือสิ่งที่คนทั้งโลกโหยหา ...ความรู้จะยกระดับคุณภาพชีวิตและฐานะ

..การมีเอกลักษณ์หรือ Identity จะยกระดับการตีค่าและมองตัวเอง

..และเสรีภาพคือการเข้าถึงโอกาสที่เปิดกว้าง

'Disneyland คือพิพิธภัณฑ์แห่งความฝัน

..ที่ Disneyland ไม่มีอะไรที่อยู่ในโลกความจริงเลย ...มันเป็นโลกแห่งความฝันที่จับต้องได้ --  ไม่แปลกที่คนทั้งโลกชอบ Disneyland ..ไม่!! สวนสนุกเป็นแค่ส่วนประกอบแต่ที่นั้นคือพิพิธภัณฑ์แห่งความฝันครับ!!'

พิพิธภัณฑ์เหมือนสร้างแล้วเสียเงินแต่จริงๆมันสร้างโอกาสและเงินมหาศาลต่างหากล่ะ !!