คาดไตรมาส1ประกันชีวิตโต 4-5%

สมาคมประกันชีวิตไทยฟันธง 3 เดือนแรกเบี้ยรวมโตประมาณ 4% เหตุเศรษฐกิจชะลอตัวทำตลาดภูมิภาคแผ่ว

นายจิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ อุปนายกฝ่ายการตลาด สมาคมประกันชีวิตไทย คาดว่า ไตรมาสแรกของปี 2559 นี้ เบี้ยประกันชีวิตรับรวมจะเติบโตประมาณ 4-5% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และราคายาง ข้าว ตกลงมาก ส่งผลกระทบต่อตลาดเกษตรกร ซึ่งเป็นตลาดรายย่อยที่มีขนาดใหญ่

"ตลาดเกษตรกรขยายแทบไม่ได้ในช่วงนี้ เพราะรายได้เขาน้อย ทำให้ยอดขายประกันในตลาดนี้ลดลงไปด้วย"นายจิรเศรษฐ กล่าว

นายจิรเศรษฐ กล่าวว่า ตลาดที่ยังสามารถเติบโตได้มีตลาดประกันกลุ่ม ซึ่งการทำตลาดจะมี 2 รูปแบบ คือ การเข้าไปหาบริษัทที่มีนโยบายจัดทำสวัสดิการประกันกลุ่มให้พนักงาน โดยที่บริษัทเป็นผู้จ่ายค่าเบี้ย และ การเข้าไปหาบริษัทที่ต้องการให้พนักงานมีความคุ้มครอง แต่ให้พนักงานเป็นผู้สมัครใจซื้อด้วยตัวเอง 

นอกจากนี้ จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทประกันชีวิตไม่กล้าออกกรมธรรม์สะสมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงมาทำตลาดในช่วงนี้ เพราะเป็นภาระผูกพันในระยะยาวในขณะที่การลงทุนเพื่อหาผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวก็ไม่แน่นอน ทำให้บริษัทประกันชีวิตส่วนใหญ่เริ่มหันมาทำตลาดความคุ้มครองชีวิตระยะยาว และ คุ้มครองโรคร้ายแรง รวมถึงประกันสุขภาพ มากขึ้น

นายสมโพชน์ เกียรติไกรวัล รองประธานเข้าหน้าที่บริหาร บริษัทโตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทเน้นทำตลาดประกันบำนาญที่ให้ความคุ้มครองถึงอายุ 99 ปี และการคุ้มครองด้านสุขภาพ ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่วนกรมธรรม์สะสมทรัพย์เฉลี่ยแล้วมีอายุการชำระเบี้ย 10 ปีขึ้นไป ทำให้ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อยจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง

"ตลาดบำนาญที่มีสัดส่วน 50% ของเบี้ยรับรวมบริษัท และสะสมทรัพย์ 30% ของเบี้ยรวม ยังคงมีอัตราการต่ออายุที่ดี ไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว ส่วนอีก 20% ของเบี้ยรับรวมเป็นความคุ้มครองด้านสุขภาพและโรคร้ายแรง"นายสมโพชน์ กล่าว