posttoday

ลงทุนในตัวเอง

23 มีนาคม 2560

โดย...อลงกฏ มโนรุ่งเรืองรัตน์ FINNOMENA Insight

โดย...อลงกฏ มโนรุ่งเรืองรัตน์ FINNOMENA Insight

เมื่อพูดถึงเรื่องการลงทุนหลายๆ คนมักจะคิดถึงหุ้น กองทุน อสังหาริมทรัพย์ หรือการเข้าร่วมทุนสร้างกิจการต่างๆ โดยสิ่งที่คาดหวังเป็นหลักจากการลงทุนก็คือผลตอบแทนนั่นเอง โดยมากแล้วผลตอบแทนจะอยู่ในรูปแบบของเงินที่จะได้รับในอนาคต ซึ่งผลตอบแทนในอนาคตที่คาดหวังนั้น “ยิ่งมาเร็วยิ่งดี” เพราะเวลาที่เราต้องเสียไปกับการรอนั้นมีมูลค่า

ทั่วๆ ไปเรียกกันว่า “ค่าเสียโอกาส” จึงทำให้การได้ผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างรวดเร็วนั้น มักจะเป็นความปรารถนาสูงสุดของหลายๆ คนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และส่งผลให้การวัดผลสำเร็จหลายๆ ครั้งนั้นก็มักจะให้นํ้าหนักกับความสำเร็จระยะสั้นมากกว่าความสำเร็จระยะยาวที่ต้องใช้เวลาห้าปีสิบปี

แต่ในความเป็นจริงแล้ว การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีนั้นมักจะต้องใช้เวลา จึงทำให้ไม่สามารถวัดผลได้ในระยะเวลาอันสั้น

นอกจากการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามที่เราคาดหวังแล้ว ในมุมมองของผมเองนั้น ผมคิดว่าก่อนที่เราจะลงทุนในอะไรก็ตาม เราจะต้องมีการศึกษาหาความรู้ก่อน หรือจะบอกว่าเป็นการ “ลงทุนในตัวเอง” ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการเลือกลงทุนในสินทรัพย์เลยครับ

การลงทุนในตัวเองในมุมมองของผมเป็นการลงทุนที่มี “เวลา” เป็นส่วนประกอบสำคัญหลายๆ ครั้งมีค่ามากยิ่งกว่าเงินด้วยซ้ำไป

วอร์เรน บัฟเฟตต์ เองก็เคยกล่าวไว้ว่า “สิ่งสำคัญที่สุดในการทำเงินคือเวลา”

การลงทุนในตัวเองส่วนใหญ่แล้ว คือ การลงทุนเวลาเพื่อเรียนรู้พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องในทุกๆ มิติ ทั้งเรื่องการทำงานและเรื่องการใช้ชีวิตอย่างสมดุล

ครั้งหนึ่ง วอร์เรน บัฟเฟตต์ และชาร์ลี มังเกอร์ หุ้นส่วนของเขา หลีกเลี่ยงการลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี แต่เมื่อไม่นานมานี้พวกเขากลับเข้าลงทุนใน Apple จากสถานะอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนไป

มังเกอร์ได้เคยกล่าวไว้ว่า “วอร์เรนเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ผมเองก็เรียนรู้เช่นกัน สิ่งดีๆ เกี่ยวกับการลงทุนคือมีเรื่องให้เรียนรู้ไม่จบสิ้น และเราก็ยังเรียนรู้อยู่”

แม้มังเกอร์จะอายุ 93 ปีแล้ว แต่เขาก็ยังคงเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตัวเองพร้อมสำหรับโอกาสใหม่ๆ ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา “โลกนั้นหมุนอยู่เสมอ” การเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง คือสิ่งที่จำเป็นต่อความสำเร็จอย่างปฏิเสธไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไร หรือมีประสบการณ์กี่ปีในสิ่งที่คุณทำอยู่ก็ตาม

ผลตอบแทนจากการลงทุนในตัวเองอย่างต่อเนื่องนั้น มักจะส่งผลอย่างมีนัยในระยะยาวสิบปี ยี่สิบปี หรือสามสิบปี อย่างที่มันส่งผลให้บัฟเฟตต์และมังเกอร์ประสบความสำเร็จอย่างสูง

จากประสบการณ์ในการลงทุนของตัวผมเองหลายๆ ครั้งที่ผมประสบความสำเร็จจากการลงทุนในหุ้น ไม่ใช่เพราะว่าผมเพิ่งมาเริ่มศึกษาเอาตอนที่กำลังจะซื้อ แต่เป็นเพราะความรู้สะสมที่ผมศึกษามาก่อนหน้าอย่างยาวนาน ทำให้สามารถที่จะมองเห็นถึงโอกาสที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าและไขว่คว้ามันเอาไว้ได้ ถ้าผมไม่เคยศึกษามาก่อนก็คงจะมองผ่านมันไป

สิ่งนี้ทำให้ผมเรียนรู้ว่า ยิ่งเราศึกษามากเท่าไร แม้วันนี้จะยังไม่มีโอกาสให้ลงทุนและไม่ได้ให้ผลตอบแทนอะไรในทันที แต่มันมักจะทำให้เราไม่พลาดโอกาสดีๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เหมือนกับการฝึกทำอะไรใหม่ๆ คงไม่มีใครทำเป็นได้ในทันที แต่ทุกๆ อย่างเกิดจากการลองผิดลองถูกตกผลึกความคิดมาก่อนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ อย่างการหัดฝึกขี่จักรยานไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ เช่น การตัดสินใจซื้อขายกิจการ

คนที่ทำสิ่งเหล่านี้ได้ดีและมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง หัวใจสำคัญมักจะมาจากความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาก่อนหน้าทั้งสิ้น

กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียวฉันใด ความสำเร็จก็ไม่ได้มาจากความพยายามแค่วันเดียว เดือนเดียว หรือปีเดียว ฉันนั้น

และที่สำคัญกว่าการมองเห็นโอกาส คือการเข้าใจความเสี่ยงที่มาพร้อมกับโอกาสนั้นๆ เพราะเมื่อใดที่เราลงทุนโดยความคิดที่เห็นว่าเป็น “โอกาสที่ยิ่งใหญ่” บางครั้งถ้าเราไม่เข้าใจมันดีพอจริงๆ แล้วโอกาสนั้นอาจจะเป็น “ความเสี่ยง” ระดับหายนะเลยก็เป็นได้

วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยกล่าวเอาไว้ว่า “ความเสี่ยงมาจากการที่คุณไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่” การที่เราจะรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่นั้น มีอยู่ทางเดียวคือการศึกษาหาความรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้าใจการลงทุนของเราอย่างถ่องแท้จริงๆ เท่านั้น

หลายๆ ครั้งที่มีคนมาถามผมว่า อยากเริ่มลงทุนในหุ้นต้องทำอย่างไร

ผมคงมีคำแนะนำเพียงอย่างเดียวคือให้ “ลงทุนในตัวเอง” ซึ่งก็สามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน คุณอาจจะเริ่มต้นด้วยการอ่านหนังสือ หาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต หรือการลงเรียนในคอร์สสอนการลงทุนต่างๆ ที่มีอยู่อย่างมากมาย ฟังรายการทางวิทยุ หรือที่ล่าสุดก็คือดู Facebook Live

สิ่งที่ผมอยากบอกจากประสบการณ์โดยตรงคือ “ของดีไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป” มีหลายครั้งมากๆ ที่ผมไปฟังสัมมนาฟรีอย่างสัมมนาของรายการ Money Talk แล้วก็ได้อะไรติดตัวกลับมาเยอะมาก (ความรู้นะครับ ไม่ใช่ของแจก)

หลายๆ ครั้งการอ่านหนึ่งบทความในอินเทอร์เน็ตจากตัวจริงอย่างท่านอาจารย์ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร กลับทำให้ผมเข้าใจเรื่องการลงทุนและตกผลึกได้ มากกว่าการจ่ายเงินเพื่อเข้าคอร์สเรียนเป็นวันๆ ด้วยซํ้าไป หรือบางครั้งการสมัครสมาชิกและไปสัมมนาของสมาคม Thaivi พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเพื่อนๆ นักลงทุนก็ทำให้ผมได้ข้อมูลมาใช้กับการลงทุนมากเหมือนกัน

ดังนั้น ในความคิดของผมการเริ่มต้นเรียนรู้การลงทุนนั้น ปัจจัยเรื่องเงินมีความสำคัญน้อยกว่าเวลา ความพยายามที่ใส่เข้าไป และความรู้สึกที่จะตระหนักว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญในชีวิตมากครับ

ดังนั้น ถ้าเราตระหนักถึงความสำคัญ และเชื่อว่าคนที่จะเปลี่ยนชีวิตของตัวเราเองได้ก็มีแต่ตัวเราเองเท่านั้น

ถ้าตัวเราพร้อม ใจเราพร้อมแล้วเรื่องอื่นๆ นั้นถือเป็นปัจจัยปลีกย่อยที่ไม่ได้มีนัยสักเท่าไรนัก ก่อนที่จะเริ่มคิดเรื่องลงทุน จงจำไว้เสมอว่า “ผู้ชนะไม่ได้ชนะจากวันที่โชคดีเพียง 1 วัน ใน 1 ปี แต่เกิดจากการพยายามในวันที่เหลือทั้ง 364 วัน ต่อเนื่องติดต่อกันยาวนานในทุกๆ ปี”

เมื่อคุณมาอ่านบทความนี้ก็ถือเป็นการเริ่มต้นลงทุนในตัวเองขั้นแรกแล้ว ผมขอแสดงความยินดีกับ “ความสำเร็จ” ของคุณล่วงหน้าเลยแล้วกันครับ

ภาพ : Designed by Pressfoto/Freepik