posttoday

หุ้นปันผลสูง ขวัญใจวัยเกษียณ

12 มีนาคม 2560

ทางเลือกที่สามารถเป็น “ขวัญใจวัยเกษียณ” ได้อีกทางหนึ่ง คือ หุ้นปันผล หรือจะเรียกเต็มๆ ว่า “หุ้นปันผลสูง”

โดย...โพสต์ทูเดย์WEALTH

อย่าให้ “อายุ” มาขัดขวางการลงทุนอย่าให้ใครมาบอกว่า “อายุมากแล้วอย่าไปเสี่ยงเลย” เพราะสิ่งที่เสี่ยงที่สุด สำหรับเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตคือ การไม่ยอมเสี่ยงเลย

โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากยังต่ำมากๆ แบบนี้ การแบ่งเงินบางส่วน (เท่าที่สบายใจ) ออกไปลงทุนในรูปแบบอื่นๆ ที่จะทำให้มีรายได้กลับเข้ามาเป็นประจำก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี

และทางเลือกที่สามารถเป็น “ขวัญใจวัยเกษียณ” ได้อีกทางหนึ่ง คือ หุ้นปันผล (Dividend Stock) หรือจะเรียกเต็มๆ ว่า “หุ้นปันผลสูง” ซึ่งจะต้องเป็นบริษัทมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) สูง และสามารถจ่ายได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่เดี๋ยวจ่ายเดี๋ยวไม่จ่าย ถ้าแบบนี้ยังไม่น่าสนใจ

นอกจากนี้ ถ้าจะให้เป็นสุดยอดหุ้นปันผล นอกจากจะต้องมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงแล้ว จะต้องเป็นปันผลจากกำไรจากการดำเนินงานที่แท้จริง ไม่ใช่กำไรจาก “รายการพิเศษ” เพราะกำไรแบบนี้ไม่ยั่งยืน ปีนี้มี ปีหน้าอาจจะไม่มีก็ได้

และถ้าจะให้สุดยอดแบบสุดๆ ก็ต้องมี “อัตราส่วนการจ่ายปันผล” (Payout Ratio) ที่ไม่มากเกินไป โดยอัตราส่วนการจ่ายปันผลจะเป็นการบอกว่า บริษัทสักกี่เปอร์เซ็นต์ของกำไรเอามาจ่ายให้ผู้ถือหุ้น

เพราะฉะนั้นถ้าบริษัทที่บอกว่ามีกำไรเท่าไรเอามาจ่ายปันผลให้หมดมีกำไร 100 บาท ก็เอามาจ่ายให้หมดทั้ง 100 บาท หรือมีอัตราส่วนการจ่ายปันผลเท่ากับ 100% แปลว่า บริษัทไม่ได้เก็บกำไรเอาไว้ไปขยายกิจการ หรือไปลงทุนอะไรเพิ่มอีก

แต่ถ้าแบ่งออกมาบางส่วน เช่น มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกิน 85% ของกำไร แสดงว่าบริษัทยังมีเงินอีก 15% ของกำไร เอาไปขยายกิจการ บริษัทก็จะเติบโตขึ้นไปอีก และทำให้สามารถจ่ายปันผลไปได้ตลอด

เพราะฉะนั้นถ้าจะให้เป็นหุ้นปันผลขวัญใจวัยเกษียณก็ต้องเป็นหุ้นที่มี Payout Ratio ต่ำ แต่ได้ Dividend Yield สูง

แม้ว่า ถ้าดูรวมๆ แล้วบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็ไม่ได้ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลมากมายอะไร แค่ 3.36% ในปี 2558 และ 3.04% เมื่อปี 2559

แต่ถ้าเจาะลึกเลือกลงทุนเฉพาะบางบริษัทที่ให้ปันผลดีๆ สัก 4-6% ต่อปี ยังพอหาได้

ถ้าอยากรู้ว่ามีหุ้นอะไร บริษัทไหน จะได้สักกี่เปอร์เซ็นต์ ต้องไปตามหาข้อมูลกันต่อที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือจะถามนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซึ่งจะมีบอกอยู่แล้วว่าหุ้นตัวไหนน่าลงทุน

อีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้การหาหุ้นปันผลเป็นเรื่องงานมากคือ โปรแกรม หรือแอพพลิเคชั่น สำหรับคัดเลือกหุ้น ตามเงื่อนไขที่ต้องการ ซึ่งตอนนี้ก็มีให้เลือกหลายยี่ห้อ

พอได้ชื่อหุ้นปันผลที่น่าสนใจมาแล้ว ทีนี่ก็เหลือแต่รอเวลาที่เหมาะสมที่จะซื้อหุ้น ซึ่งจะซื้อตอนไหน ที่ราคาเท่าไรก็ได้ แต่ถ้าอยากจะได้เงินปันผลต้องซื้อก่อนวันขึ้นเครื่องหมาย XD

เครื่องหมาย XD (Exclude Dividend) เป็นเครื่องหมายที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดขึ้น เพื่อเตือนนักลงทุนให้รู้ว่า ถ้าซื้อหุ้นวันนี้ วันที่ขึ้น XD แปลว่า จะไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผลที่ประกาศจ่ายในงวดนั้น

เพราะฉะนั้นต้องย้ำกันอีกทีว่า จะรอซื้อเมื่อไรก็ได้ แต่ต้องซื้อก่อนวันขึ้นเครื่องหมาย XD ซึ่งสามารถตรวจสอบกำหนดเวลาในการขึ้นเครื่องหมายต่างๆ ได้ที่ www.set.or.th

แต่ก็ไม่ควรจะไปซื้อหุ้นก่อนที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD แค่ไม่กี่วัน เพราะช่วงนั้นราคาหุ้นอาจจะขยับขึ้นไปจนแพงแล้ว เพราะนักลงทุนที่อยากจะได้ปันผลเหมือนกันก็จะไปซื้อก่อน XD เหมือนกันพอมีคนอยากซื้อมากๆ ราคาหุ้นก็จะขยับขึ้นไปเรื่อยๆ

เมื่อนานมาแล้ว บล.กรุงศรี มีการศึกษาข้อมูลในอดีตตั้งแต่ปี 2543-2556 พบว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าซื้อหุ้นปันผลคือ 1-2 เดือน ก่อนวันขึ้นเครื่องหมายXD และแนะนำให้ขาย ณ วันขึ้น XDซึ่งหากทำแบบนี้ก็จะได้ทั้งเงินปันผลและกำไรจากราคาหุ้น

“มีโอกาสจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 8% ในกรณีซื้อล่วงหน้า 2 เดือน และขายในวันXD ขณะที่ผลตอบแทนจะลดเหลือเฉลี่ย 5% หากซื้อล่วงหน้า 1 เดือน เพราะจากสถิติราคาหุ้นหลัง XD มักปรับตัวลดลงและทรงตัวไปอย่างน้อย 1 สัปดาห์-1 เดือน” บล.กรุงศรี ระบุ

แต่ที่ บล.กรุงศรี เตือนไว้คือ “เราไม่แนะนำให้ซื้อหุ้นเพื่อรับปันผลในระยะเวลากระชั้นชิดเพียง 1-3 วันก่อนขึ้น XD เนื่องจากผลตอบแทนจะอยู่ในระดับต่ำมากเพียง 1%”

แต่ถ้าตั้งใจจะถือหุ้นตัวนี้ไว้กินปันผลไปยาวๆก็ต้องเตรียมใจเอาไว้ว่า หลังจากขึ้นเครื่องหมาย XD แล้วราคาหุ้นจะตกลงไปบ้าง อาจจะตกลงไปพอๆ กับเงินปันผลที่จะได้ หรือบางทีก็อาจจะลดลงไปมากกว่าปันผลที่จะได้เสียอีก เพราะก็ต้องเห็นใจคนที่ซื้อแล้วไม่ได้เงินปันผล เขาก็ไม่อยากจะจ่ายแพง

เพราะฉะนั้น ถ้าเจอเหตุการณ์นี้อย่าตกใจทำใจสบายๆ เพราะถ้าเป็นหุ้นที่ให้ปันผลดีสม่ำเสมอเดี๋ยวราคาหุ้นก็จะกลับมาเอง แถมยังอาจจะกลับมาได้มากกว่าเดิม ถ้าเป็นบริษัทที่ดีจริง