posttoday

เพจการเงิน น้อมนำคำสอน ‘พ่อ’ ขอเดินตามรอยพระบาท

05 พฤศจิกายน 2559

ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลังจากกลับมาจากเข้าชม “นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี”

โดย...สวลี ตันกุลรัตน์ [email protected]

ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลังจากกลับมาจากเข้าชม “นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี” ก็ตั้งใจมั่นที่จะ เดินตามรอยเท้า “พ่อ” ด้วยชีวิตที่ “พอเพียง” (คอลัมน์ Money Tips วันที่ 12 มิ.ย. 2549)

นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ เมื่อไรที่ใจเผลอหลุดออกไปนอกขอบเขตความพอเพียง “คำสอนของพ่อ” ยังก้องอยู่ในใจ ได้เป็นหลักยึดเหนี่ยว เตือนตัวเองตั้งสติให้กลับมา

หลังจากนี้แม้ไม่มี “พ่อ” แล้ว ก็มั่นใจว่าจะยัง “เดินตามรอยเท้าพ่อ” ต่อไป

และเชื่อว่า “คนในแวดวงการเงิน” ในฐานะที่เป็นผู้แนะนำทางการเงิน เป็นต้นแบบทางการเงินของคนในโลกออนไลน์จะน้อมนำคำสอนของพ่อมาใช้ในการส่งข้อความไปถึงประชาชนคนไทย ซึ่งเราเห็นได้แล้วจากข้อเขียนและการแสดงออกของ “เพจการเงิน” หลายๆ เพจ (แต่ไม่ได้หมายความว่า การไม่พูดไม่ได้แสดงออกมาในเพจจะไม่ได้รู้สึก หรือไม่ได้น้อมนำคำสอนของพ่อมาใช้)

มีทั้งที่แสดงความรู้สึก ให้ความกระจ่างและแนวทางปฏิบัติ พร้อมกับประกาศความตั้งใจที่จะเดินตามรอยพระบาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

จึงขออนุญาตตัดทอนบางช่วงบางตอนที่ “คนการเงิน” เขียนไว้ในเพจ มารวบรวมไว้ในบทความนี้ เพื่อเป็นคำสัญญาที่จะ “เดินตามรอยเท้าพ่อ” เหมือนกับเนื้อเพลง เดินตามพ่อ (คำร้องและทำนอง โดย ยินดี รำพัน) ซึ่งน่าจะแทนใจของทุกคนได้เป็นอย่างดี

แม้ไม่อาจเทียบหนึ่งในล้าน

ลูกขอตั้งปณิธาน สานสิ่งที่พ่อสร้างไว้

จะขอเดินตาม รอยเท้าพ่อไป

เหนื่อยยากเพียงไหน ไม่ทำให้พ่อผิดหวัง…

สิ่งหนึ่งที่ในหลวงทรงเพียรพยายามมาตลอดพระชนม์ชีพ คือ การพร่ำสอนพสกนิกรของพระองค์ เราเรียกท่านว่า “พ่อหลวง” เพราะทรงสอนด้วย “ความเมตตา” เสมือน “พ่อสอนลูก” และไม่ใช่แค่สอน แต่ทรงปฏิบัติพระองค์เองให้เป็นแบบอย่างด้วย

หากเรานึกย้อนไปก็จะเข้าใจว่า ในหลวงทรงได้รับการและอบรมบ่มนิสัยจากสมเด็จย่า พระองค์ท่านได้ทรงเรียนรู้ “การใช้จ่ายอย่างพอเพียง” “การประหยัดอดออม” และ “การให้” ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์

เมื่อเติบโตขึ้น ท่านจึงปฏิบัติพระองค์ให้เราเห็นเป็นแบบอย่าง ทั้งยังพร่ำสอนผ่านพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสในโอกาสต่างๆ ให้พวกเรามี “ความเพียร” “รู้รักสามัคคี” “ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างสุจริตและเต็มความสามารถ” “คำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมก่อนประโยชน์ส่วนตน” และคำสอนอื่นๆ อีกมากมาย

หน้าที่ของเรา ในฐานะพสกนิกรของพระองค์ และในฐานะ “ลูก” ของพ่อ จึงควรประพฤติตนตามที่พระองค์ท่านสอนและเป็นแบบอย่างไว้ เราจะต้องประหยัด อดออม ใช้จ่ายอย่างพอเพียง รู้จักการให้ มีความอดทน ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก เราจะสามัคคีกัน ไม่ทะเลาะกัน ตั้งใจทำงานตามหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ เอกชน พ่อค้า เกษตรกร เราทุกคนมีหน้าที่ ก็ทำให้เต็มความสามารถและทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริต

Invest Like A Pro 15 ต.ค. 2559  www.facebook.com/wininvestingpro

ตลอดเส้นทางการลงทุนของผมในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา หากจะบอกว่าประสบความสำเร็จหรือไม่ เมื่อดูจำนวนเงินในบัญชีอย่างที่นักลงทุนต้นแบบของใครหลายๆ คนสามารถทำได้ทุกวันนี้ ก็ต้องบอกว่า ยังห่างไกลจากคำนั้น

แต่ที่มีเงินซื้อปัจจัยสี่และเลี้ยงดูครอบครัวได้ตามกำลังเป็นอย่างดี ก็เพราะส่วนหนึ่งในคำสอนเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง” จากพ่อของเรา

หลักของเศรษฐกิจพอเพียง ก็คือ

หลักของความพอประมาณ และความมีเหตุมีผล

ผมตั้งเป้าหมายชีวิตด้านการเงินด้วยการหาจำนวนเงินที่เราจะมีเพื่อเลี้ยงตัวและครอบครัวได้ในยามเกษียณ บนพื้นฐานของการใช้จ่ายอย่างสมเหตุสมผล และลงทุนอย่างระมัดระวัง ไม่ให้ล้มสะดุดกลางคัน และเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันในตอนที่เดือดร้อน

ผมจะคิดเสมอว่า สิ่งนี้เราควรซื้อจริงหรือไม่ ใช่ราคาที่เหมาะสมกับเราหรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของใช้สอย หรือการลงทุนก็ตาม และเมื่อเรายืนด้วยตัวเองได้ ก็ถึงเวลาที่จะแบ่งปันให้กับผู้อื่น ในสิ่งที่เราแบ่งปันได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมตั้งใจทำมาตลอด นั่นก็คือ “แบ่งปันความรู้”

ซึ่งเอาจริงๆ ก็ถือว่าเป็นแค่หนึ่งเม็ดทรายเล็กๆ บนความเสียสละทั้งหมดของพ่อ ที่ทำเพื่อประชาชนชาวไทยมาตลอดชีวิตของท่าน

ในโลกแห่งการลงทุนที่ทุกอย่างถูกแปลและตีความไปในรูปของกำไรและขาดทุน มันทำให้ความโลภสามารถแทรกซึมเข้ามาในจิตใจของเราได้ง่าย ขอเพียงเปิดพื้นที่ให้มันเขามาสักเล็กน้อย

การแบ่งปันจึงถือเป็นการสละสิ่งที่เป็นของตัวเอง ลดทิฐิมานะ และลดความอยากได้อยากมีในใจที่ดีที่สุดทางหนึ่ง

ผลของมันต่อสังคมนั้นช้า และผู้คนที่ทำหน้าที่แบ่งปันนี้ ผู้รับหลายคนไม่ได้คุณค่าในระยะเวลาที่รวดเร็ว

แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้สังคมเราเลิกที่จะแบ่งปัน

สิ่งที่ท่านทำมาตลอด 70 ปี และพระบรมราโชวาทอันทรงคุณค่ามากมาย จะเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของเราไปตลอด และวิธีน้อมรำลึกพระคุณพ่อที่ดีที่สุดคือ นำสิ่งเหล่านั้นมาทำให้เราใช้ชีวิตให้ถูกต้องมากขึ้น และทำให้สังคมไทยดีขึ้นกว่านี้

Sinthorn 14 ต.ค. 2559 www.facebook.com/SinthornCafe

คนอายุสามสิบกลางๆ อย่างผม เกิดมาก็เห็นในหลวงทรงงาน ทรงงาน และทรงงาน อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เพื่อประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะในถิ่นทุรกันดาร

แม้เราจะเริ่มโตขึ้น ภาพในหลวงทรงงานก็ยังเป็นที่จดจำ ในข่าว 2 ทุ่มจะต้องได้เห็นในหลวงเสด็จพระราชดำเนินไปที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้คนไทย จนช่วงหลายปีหลังมานี้ ด้วยพระชนมพรรษาที่มากขึ้น เราค่อยเห็นในหลวงทรงงานน้อยลง จึงเรียกได้ว่า ตลอดรัชสมัย ในหลวงทรงงานตลอดเวลาที่มีพระกำลัง

การทรงงานของในหลวง ทำให้เราคิดได้ว่า เมื่อเกิดมาเป็นคนแล้ว ก็ต้องทำงานทำหน้าที่ให้ดี ให้เต็มความสามารถ ไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า

อย่างน้อยที่สุดก็ต้องทำงานที่ตัวเองได้ประโยชน์โดยตรงให้ได้ผลดี ทำอะไรได้ก็รีบลงมือทำ และต่อให้สุขสบายร่ำรวยแล้ว ถ้าเห็นสิ่งใหม่ๆ ที่น่าจะเป็นประโยชน์ ก็ควรหยิบขึ้นมาทำ ไม่ว่าจะเป็นงานประจำ งานธุรกิจส่วนตัว แล้วถ้ามีแรงกายและกำลังทรัพย์เหลือ ก็ขยายมาถึงงานเพื่อส่วนรวม

ผมเชื่อว่าถ้าเราทำตัวเองให้ได้ดี ให้เจริญ ในทางที่เหมาะสม ประเทศโดยรวมก็จะเจริญตามไปด้วยไม่มากก็น้อย

ผมคิดว่าการทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ คือสิ่งที่เราจะสามารถเดินตามรอยพระบาทพระองค์ท่านได้ และถ้าใครคิดว่าตัวเองเป็นหนี้บุญคุณแผ่นดิน ก็เชื่อว่านี่ก็คือโอกาสที่เราจะได้ทำอะไรเพื่อตอบแทน

Thailand Investment Forum 13 ต.ค. 2559 www.facebook.com/ThInvestForum

คำถามแห่งความพอเพียง...

ทุกครั้งที่ต้องตัดสินใจเรื่องราวทางการเงินหรือเป้าหมายในชีวิต เราสามารถใช้หลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง มาเป็นเครื่องมือในการบริหารการตัดสินใจได้

เจนอยากเป็นเจ้าของรถสักคัน เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางไปทำงาน และใช้สอยอเนกประสงค์ แต่ติดที่เธอไม่สามารถซื้อรถได้ด้วยเงินสด เธอจึงคิดถึงการผ่อนเพื่อให้ได้รถมาใช้ดังที่ตั้งใจ

Q1 : รถยนต์มีความจำเป็นสำหรับเจนจริงหรือเปล่า ทำไมเจนจึงควรมีรถยนต์เป็นของตัวเอง (มีเหตุผล)

Q2 : ถ้ารถยนต์มีความจำเป็นจริงๆ รถรุ่นไหน ไซส์ไหนที่จะทำให้การเงินของเจนไม่เป็นภาระจนเกินไป การเงินของเจนพร้อมจริงๆ หรือไม่ (พอประมาณ)

Q3 : หากวันใดรายได้หายไป หรือมีรายจ่ายอื่นๆ เพิ่มเข้ามาจากในปัจจุบัน เจนมีแผนรับมือสภาวะดังกล่าวอย่างไร เพื่อให้สามารถยังผ่อนรถได้ตามปกติ เช่น มีเงินสำรองเผื่อฉุกเฉินไว้ (มีภูมิคุ้มกัน)

จอมมีเงินอยู่ก้อนหนึ่ง อยากที่จะนำเงินก้อนดังกล่าวไปลงทุนให้งอกเงย มีคนแนะนำจอมให้ลงทุนในหุ้น โดยให้เหตุผลว่า หุ้นให้ผลตอบแทนในระยะยาวสูงที่สุด จอมควรลงทุนตามที่เพื่อนแนะนำหรือไม่

Q1 : เป้าหมายของการลงทุนของจอมคืออะไร ที่ต้องการให้เงินงอกเงยนั้นแค่ไหน ระดับใด เพราะอะไร (มีเหตุผล)

Q2 : กับเป้าหมายการลงทุนที่ต้องการ จอมควรลงทุนผ่านเครื่องมือใด และเขามีความรู้ในสิ่งที่เลือกลงทุนแค่ไหน อย่างไร ต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มหรือไม่ (พอประมาณ)

Q3 : จอมควรจัดสรรเงินลงทุนอย่างไร ความเสี่ยงที่จะต้องเจอมีมากน้อยแค่ไหน ถ้าหากการลงทุนผิดพลาด หรือไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจ มีแผนรับมืออย่างไร (มีภูมิคุ้มกัน)

ฯลฯ

ที่จริงคำถามในแต่ละข้อยังแตกออกได้อีกมากมาย และจะเห็นได้ว่า เพียงเรายกหลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาตั้งเป็นโจทย์อย่างง่ายๆ ก็สามารถทำให้เรื่องเงินๆ ทองๆ หรือแผนการในชีวิตที่เรากำลังตัดสินใจ มีหลักคิดหลักปฏิบัติที่ปลอดภัยต่อสถานะทางการเงินและความต้องการของเราได้อย่างมากแล้ว

หลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำรัส ลึกซึ้งและทรงคุณค่ามากกว่าที่หลายคนเข้าใจ และเป็นหลักคิดในการดำรงชีวิตที่คนไทยควรน้อมนำมายึดถือปฏิบัติ เพื่อสุขชีวิตที่ดีของพวกเราคนไทยทั้งประเทศ

Money Coach 19 ต.ค. 2559 www.facebook.com/MoneyCoach4Thai

“ทรัพย์ในดิน สิ่งที่พ่อมอบไว้ให้”

พี่นำพาเที่ยวหมู่บ้าน (เครือข่ายองค์กรบ้านจำรุง ที่ต.เนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง) ได้เล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งในหลวงท่านทรงตรัสถามว่า “อยากมีเงินล้านไหม?” แน่นอนว่าทุกคนอยากมี ท่านก็เลยตรัสว่า งั้นก็ลองปลูกต้นไม้เยอะๆดูสิ ต้นไม้ต้นหนึ่งเทียบเท่า 1 ล้านบาท ชุมชนที่นี่ก็เลยปลูกต้นไม้กัน

ในแต่ละวันต้นไม้เหล่านั้นก็เติบใหญ่ บ้างก็เป็นพืชที่เป็นอาหาร บ้างก็เป็นยาสมุนไพร บ้างก็เป็นต้นไม้ที่นำมาสร้างบ้าน บ้างก็นำมาใช้เป็นแหล่งพลังงานได้ นี่ล่ะคือทรัพย์ในดินที่มีค่ามาก เป็นของที่อยู่ในธรรมชาติ ไม่ต้องเสียเงินซื้อ

การสร้างความมั่งคั่งของคนที่นี่คือการสร้างความสมบูรณ์ให้กับชุมชมและทุกอย่างจะปันผลออกมาให้มีกินมีใช้เช่นกัน ทุกคนมีอาหาร มียา มีที่อยู่ มีความสุขและร่างกายแข็งแรง ผมเชื่อเลยว่าทั้งหมดนี้มีค่ามากกว่าเงินล้านเลยทีเดียว นี่ล่ะคือความคิดดีๆ ที่พ่อได้มอบไว้ให้

TarKawin 21 ต.ค. 2559 www.facebook.com/tartar1210page

เงินแต่ละบาทใช่ว่าจะหามาได้โดยง่าย

เวลาจะใช้เงินควรมีสติ ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง

ใช้เท่าที่จำเป็น ไม่มากเกินไปและไม่น้อยจนเกินไป

“เศรษฐกิจแบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกินนั้น หมายความว่าอุ้มชูตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตนเอง”

พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

Kontuajew 27 ต.ค. 2559 www.facebook.com/kontuajew

ขออนุญาตโพสต์แนวคิดของพระองค์ท่านวันละ 1 ข้อความ

เป็นตัวอย่างให้พวกเรานำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

เพื่อให้คำสอนของพระองค์ท่านคงอยู่ต่อไปด้วย“การลงมือทำ”

ตอนที่ 6 ต้นแบบการประหยัด

นอกจากพระองค์จะทรงสอนเรื่องการประหยัดแล้ว ยังทรงเป็นแบบอย่างให้เราได้เดินรอยตามอีกด้วย

3 ตัวอย่างของการประหยัด

1.หลอดยาสีพระทนต์ (ยาสีฟัน)

ตัวหลอดที่แบนราบเรียบ ตรงบริเวณคอหลอดยังมีรอยบุ๋มลึกลงไปจนถึงเกลียวหลอด ทำให้รู้ว่าพระองค์ทรงใช้ยาสีฟันจนหมดเกลี้ยง

2.ดินสอ

พระองค์ทรงเบิกดินสอปีละ 12 แท่ง ซึ่งแต่ละแท่งใช้จนสั้นกุดเหลือไม่ถึง 1 ใน 4 ของความยาวเท่านั้น นับเป็นการใช้ประโยชน์จากสิ่งของที่คุ้มค่าจนไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป

3.ฉลองพระบาท (รองเท้า)

พระองค์ทรงให้เจ้าหน้าที่นำฉลองพระบาทมาซ่อมเพื่อนำไปใช้งานต่อ ซึ่งช่างซ่อมรองเท้าได้ออกมาเปิดเผยว่า รองเท้าสภาพแบบนี้ ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะทิ้งรองเท้าไปแล้ว แต่พระองค์ท่านยังซ่อมเพื่อนำกลับมาใช้งานอีกครั้ง

อภินิหารเงินออม 20 ต.ค. 2559 www.facebook.com/miracleofsaving

ชาวไทยโชคดีที่มีตัวอย่างในเรื่อง “ความประหยัด”

MONEY MANEE by aor 15 ต.ค. 2559 www.facebook.com/mmbyaor