เอกชนพร้อมจ่ายภาษีสรรพสามิตใหม่

ภาษีสรรพสามิตใหม่ อยู่ตัว ผู้ประกอบการเริ่มทยอยส่งราคาขายปลีกเสียภาษีอัตราใหม่ สรรพสามิต ยันไม่พบปัญหากักตุน

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดี กรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า อัตราภาษีสรรพสามิตใหม่เริ่มใช้มากกว่า 1 สัปดาห์ ยังไม่พบปัญหาที่น่าเป็นห่วง ขณะนี้ ผู้ประกอบการเริ่มทยอยส่งราคาขายปลีกเพื่อใช้เป็นฐานการคิดภาษีสรรพสามิตใหม่ ที่เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2556 ที่ผ่านมา โดยการเสียภาษีสรรพสามิตจะต้องชำระทุกวันที่ 15 ของเดือนถัดไป

นอกจากนี้ กรมสรรพสามิตได้ตั้งศูนย์ รวมถึงกรมศุลกากรก็ได้ตั้งศูนย์เพื่อตอบข้อซักถามผู้ประกอบการให้เสียภาษีให้ถูกต้อง ซึ่งพบว่ามีผู้ประกอบการเข้ามาถามเป็นจำนวนมาก เนื่องจากกฎหมายใหม่ของกรมสรรพสามิตได้มีการเปลี่ยนฐานราคาเก็บภาษีจากราคาหน้าโรงงาน หรือราคาสำแดงนำเข้า มาเป็นราคาขายปลีกแนะนำ ซึ่งผู้ประกอบการเข้ามาถามเพื่อให้แน่ใจว่าเสียภาษีไม่ผิดพลาด

นายสมชาย กล่าวว่า ในส่วนของสถานการณ์กักตุนสินค้า ทางกรมสรรพสามิตได้รับความร่วมมือจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ป้องกันการกักตุนสินค้าเพื่อไปขายเอาเปรียบผู้บริโภค ซึ่งทำให้การกักตันสินค้าน้อยลงไปได้มาก

นายสมชาย กล่าวว่า อัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ทำให้การนำเข้ารถยนต์หรูของบริษัทผู้นำเข้าอิสระ หรือเกรย์มาร์เก็ต น้อยลงมาก เนื่องจากอัตราภาษีสรรพสามิตสูงขึ้นมาก มีการเก็บจากราคาขายปลีก ไม่ได้ใช้ราคาสำแดงนำเข้าที่ส่วนใหญ่มีการสำแดงต่ำกว่าเป็นจริงมาก นอกจากนี้ในส่วนของกรมศุลกากรก็เข้มงวดราคาสำแดงนำเข้า เพื่อให้มีการสำแดงใกล้ความเป็นจริงมากที่สุด เพราะการเก็บภาษีนำเข้าของกรมศุลกากรยังใช้ราคาสำแดงนำเข้าอยู่

สำหรับอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ น้ำอัดลมเสียเพิ่มขึ้น 0.13-0.50 บาท  เครื่องดื่มบำรุงกำลัง เสียเพิ่มขึ้น 0.32-0.90 บาท น้ำพืชผักผลไม้ ภาษีเพิ่มขึ้น 0.06-0.54 บาท ชาเขียวเพิ่มขึ้น 1.13-2.05 บาท และกาแฟ 1.35 บาท

สำหรับเบียร์เพิ่มขึ้น 0.50-2.66 บาท สุราขาว เพิ่มขึ้น 0.84-3.49 บาท สุรากลั่นในประเทศ เพิ่มขึ้น  8-30 บาท ไวน์นำเข้าเพิ่มขึ้น 110 บาท บุหรี่ราคาถูกต่ำกว่า 60 บาท/ซอง ภาระภาษีเพิ่มขึ้น 4-15 บาท รถยนต์นำเข้าราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ภาระเพิ่มกว่า 5 แสนบาท/คัน  รถยนต์ผลิตในประเทศราคา 8 แสนบาท-1 ล้านบาท ภาระไม่เปลี่ยนแปลง