posttoday

ศุลกากรแจงภาพจับผู้โดยสารใส่นาฬิกาหรู เพราะลอบนำเข้ามาขาย

17 พฤษภาคม 2560

กรมศุลกากรแจงภาพจับผู้โดยสารไทยใส่นาฬิกาหรูที่เดินทางมาจากฮ่องกง เพราะเป็นการลอบนำเข้ามาขายในประเทศโดยไม่เสียภาษี

กรมศุลกากรแจงภาพจับผู้โดยสารไทยใส่นาฬิกาหรูที่เดินทางมาจากฮ่องกง เพราะเป็นการลอบนำเข้ามาขายในประเทศโดยไม่เสียภาษี

เมื่อวันที่ 17 พ.ค. นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากรเปิดเผยว่า กรณีการจับกุมผู้โดยสารหญิง สัญชาติไทย จำนวน 2 ราย ซึ่งเดินทางมาจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2560 ลักลอบนำนาฬิกามูลค่าสูงเข้ามาเพื่อจำหน่ายในประเทศ โดยนำนาฬิกายี่ห้อ Audemars Piguet และ Patek Philippe ซึ่งเป็นของใหม่และยังไม่ได้มีการใช้งานแต่อย่างใด โดยผู้โดยสารทั้งสองรายยอมรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดจริง เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายศุลกากรต่อไป

ทั้งนี้ การข่าวของกรมศุลกากรพบว่าทั้ง 2 คน มีการเปิดขายนาฬิกาหรูผ่านทางออนไลน์ และมีการเดินทางเข้าออกประเทศบ่อยครั้งเพื่อลักลอบนาฬิากาหรูเข้ามาขาย โดยมีการอำพรางใส่มาบนข้อมือทุกครั้ง ส่วนกล่องนาฬิกาได้มีการส่งไปรษณีย์เข้าประเทศมาก่อน

รองอธฺบดีกรมศุลกากรกล่าวว่า นาฬิกาทั้ง 2 เรือนมีมูลค่า 1.3 ล้านบาท หากผู้โดยสารผ่านพิธีการกรมศุลกากรช่องแดง เพื่อเสียภาษีนำเข้า 5% และภาษีมูลค่าเพิ่มอีก (VAT) 7% ก็จะไม่มีปัญหาสามารถนำสินค้าออกไปได้ แต่เมื่อผู้โดยสารทั้ง 2 คน ผ่านพิธีการศุลกากรช่องเขียนซึ่งหมายถึงไม่มีของต้องสำแดง ทำให้ผู้โดยสารทั้งสองคนมีความผิดลักลอบนำเข้าและโดยยึดนาฬิกาทั้งหมดเป็นของแผ่นดิน

สำหรับภาพการจับกุมที่หลุดออกไปในโลกออนไลน์มานั้น เป็นภาพการปฏิบัติการภายในของเจ้าหน้าที่ ทำให้สังคมเข้าใจผิดว่ากรมศุลกากรดำเนินเกินตรวจจับกุมผู้ใส่นาฬิกาหรูทุกคนที่ผ่านมาเข้ามาในประเทศ ทำให้กรมศุลกากรต้องออกมาชี้แจงให้ถูกต้อง

ทั้งนี้การนำเข้าสินค้าต่างประเทศเพื่อใช่ส่วนตัวในประเทศ ได้รับการยกเว้นภาษีศุลกากรจำนวน 2 หมื่นบาท เพิ่มขึ้นจากที่ผ่านมาที่ให้เพียง 1 หมื่นบาท ถือว่าสูงมากพอแล้ว เมื่อเทียบกับการนำเข้าสินค้าทางไปรษณีย์ ที่ได้รับการยกเว้นภาษีเพียง 1,500 บาท รวมถึงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อบ้านก็ถือว่าประเทศไทยเว้นภาษีนำเข้าดังกล่าวสูงกว่าหลายประเทศ นอกจากนี้หากเพิ่มมากกว่านี้จะทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้ และเกิดเป็นช่องโหว่ให้มีการนำสินค้าต่างประเทศเข้ามาเพื่อการค้าอย่างไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการที่มีการดำเนินนำเข้าตามกฎหมายอย่างถูกต้อง