posttoday

ยอดลงทะเบียนคนจนจ่ออืด

25 เมษายน 2560

ยอดคนลงทะเบียนไม่วิ่งตามคาด ล่าสุดได้ 7 ล้านราย จนไม่จริงถอยหวั่นตรวจสอบทรัพย์สิน แบงก์รัฐ ชี้ช่วยรัฐจ่ายสวัสดิการตรงตัว

ยอดคนลงทะเบียนไม่วิ่งตามคาด ล่าสุดได้ 7 ล้านราย จนไม่จริงถอยหวั่นตรวจสอบทรัพย์สิน แบงก์รัฐ ชี้ช่วยรัฐจ่ายสวัสดิการตรงตัว

นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. เปิดเผยความคืบหน้าโครงการลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐ หรือการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยครั้งที่ 2 ปี 2560 ว่า ล่าสุด ธ.ก.ส.มีผู้มาลงทะเบียนตั้งแต่ 3 เม.ย. ถึงปัจจุบัน จำนวนกว่า 4 ล้านราย คาดว่าเมื่อปิดรับลงทะเบียนในวันที่ 15 พ.ค. 2560 นี้ จะมีผู้มาลงทะเบียนกับ ธ.ก.ส.ทั่วประเทศราว 7 ล้านราย ถือว่าน้อยกว่าเป้าหมายที่คาดว่าน่าจะมีผู้มาลงทะเบียนราว 10 ล้านราย

ทั้งนี้ เนื่องจากการลงทะเบียนรอบนี้ มีการเพิ่มคุณสมบัติเรื่องเงินฝากในบัญชี รวมสลาก พันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ของผู้ลงทะเบียนต้องมียอดรวมกันไม่เกิน 1 แสนบาท รวมทั้งการถือครองที่ดินนั้น มีการประสานกระทรวงมหาดไทย และกรมที่ดิน ตรวจสอบกรรมสิทธิ์ในการครอบครองที่ดิน และที่อยู่อาศัยให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ จึงอาจเป็นสาเหตุให้คนที่มีทรัพย์สินเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ไม่กล้ามาลงทะเบียน เพราะกลัวการตรวจสอบจากรัฐ

"ไม่ถือว่าพลาดเป้า ถือว่าเป็นเรื่องดีที่มีการออกเกณฑ์เหล่านี้มา เพราะคนที่มีฐานะดีอยู่แล้ว ก็ไม่กล้ามายื่นเอกสารเนื่องจากกลัวการตรวจสอบ ช่วยให้รัฐจ่ายสวัสดิการได้ถึงมือผู้มีรายได้น้อยตัวจริง" นายอภิรมย์ กล่าว

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินยังประเมินภาพรวมการลงทะเบียนรอบนี้จะมีผู้มายื่นเอกสาร ไม่น้อยกว่า 13-14 ล้านราย ส่วนผู้มาลงทะเบียนผ่านธนาคารออมสินรอบนี้คาดว่าจะมียอดราว 4 ล้านราย เพิ่มจากครั้งแรกที่มียอดลงทะเบียน 2.56 ล้านราย

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง แจ้งว่า ยอดลงทะเบียนในปี 2560 รอบที่ 2 ล่าสุดมีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 7 ล้านราย แยกเป็นลงทะเบียนกับ ธ.ก.ส.กว่า 4.01 ล้านราย ธนาคารออมสินกว่า 1.76 ล้านราย ธนาคารกรุงไทยกว่า 1.08 ล้านราย ลงทะเบียนกับกรุงเทพมหานครอีก 7.2 หมื่นราย และคลังจังหวัดทั่วประเทศกว่า 6.1 หมื่นราย

ธนาคาร บางส่วนไม่มาติดต่อธนาคารขณะที่ยอดลงทะเบียนรอบแรกในปี 2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 8.37 ล้านราย เมื่อตรวจคุณสมบัติแล้วพบว่ามีผู้ได้สิทธิรับเงินโอนกว่า 7.71 ล้านราย ที่เหลือ 6.6 แสนราย ไม่มีสิทธิจำนวน 6.6 แสนราย เนื่องจากเสียชีวิต  ชื่อนามสกุลผิดไปจากบัตรประชาชน  คนมีรายได้เกิน 1 แสนบาท/ปี เป็นต้น หลังจากสิ้นสุดมาตรการแล้ว มีผู้มารับเงินโอนทั้งสิ้น 7.52 ล้านราย ที่เหลือ 1.89 แสนราย ไม่ได้มารับเงิน เนื่องจากไม่มีเงินฝากกับหรือบัญชีถูกอายัด