posttoday

แบงก์ชี้ปีนี้เงินบาทผันผวนแข็งค่า

24 มีนาคม 2560

กสิกรไทยชี้ทิศทางค่าเงินบาทปีนี้ยังผันผวนในทิศทางแข็งค่า เนื่องจากการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์ไม่ชัดว่าจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ คาดปีนี้อยู่ในกรอบ 34.50 -36.00 บาท ด้านฟิทช์คาดสินเชื่อปีนี้โต 5-8%

กสิกรไทยชี้ทิศทางค่าเงินบาทปีนี้ยังผันผวนในทิศทางแข็งค่า เนื่องจากการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์ไม่ชัดว่าจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ คาดปีนี้อยู่ในกรอบ 34.50 -36.00 บาท ด้านฟิทช์คาดสินเชื่อปีนี้โต 5-8%

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวในงานสัมมนา ภาพรวมตลาดการเงินโลก ต่อสถาบันการเงินไทย ที่จัดโดย บริษัท ฟิทช์ เรตติ้ง (ประเทศไทย) ว่า แนวโน้มค่าเงินบาทของไทยในปีนี้ยังผันผวนในทิศทางแข็งค่า โดยน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.50 - 36.00  บาทต่อเหรียญสหรัฐสหรัฐฯ ไม่น่าจะอ่อนค่าลงมาก อย่างที่หลายฝ่ายเคยคาดว่าเงินทุนต่างชาติที่เคยถือลงทุนในไทยจะไหลกลับไปสหรัฐฯ เนื่องจากนโยบายของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ระบุว่าต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลงทุนในสหรัฐฯ ให้เศรษฐกิจขยายตัวสูง จนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจต้องขึ้นดอกเบี้ยมาดูแเลเงินเฟ้อ รวมถึงทำให้เงินเหรียญสหรัฐแข็งค่าขึ้นนั้น อาจไม่เป็นเช่นนั้น เพราะยังไม่แน่ว่านโยบายการกระตุ้นของนายทรัมป์จะเป็นไปได้ตามเคยหาเสียงไว้แค่ไหน โดยเฉพาะนโยบายการทางภาษีที่ทรัมป์หวังจะเพิ่มรายได้ให้กับคนทำงาน ที่ยังไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ ทำให้การปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ของเฟดน่าจะขึ้นอีกเพียง 1 ครั้ง ในช่วงเดือนก.ย.นี้ หลังขึ้นไปแล้ว 1 ครั้งเมื่อกลางเดือนนี้ ส่งผลให้เงินเหรียญสหรัฐอ่อนค่าลง แถมเงินทุนบางส่วนยังไหลออกจากสหรัฐกลับเข้ามาลงทุนในภูมิภาคและไทย ทำให้เงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางที่แข็งค่าขึ้น

"ความไม่แน่นนอนจากการทำนโยบายการคลังของสหรัฐ บวกกับปัจจัยในประเทศไทยเองยังมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูง ทำให้การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทปีนี้ยังน่าจะเป็นฟันปลา ผันผวนในทิศทางแข็งค่าอยู่ แต่คงไม่แข็งค่าขึ้นไปมากนัก เพราะอีกด้านไทยยังมีการไปลงทุนของกองทุนรวมเพื่อการลงทุนในต่างประเทศ (เอฟไเอฟ) เพิ่มขึ้นอยู่ ในเดือน ก.ย.มีมูลค่าประมาณ 7.06 แสนล้านบาท" นายกอบสิทธิ์กล่าว

ด้านนายพาสันติ์ สิงหะ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสถาบันการเงิน บริษัทฟิทช์ เรทติ้ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมของกลุ่มธุรกิจธนาคารในปีนี้น่าจะขยายสินเชื่อได้ดีขึ้นจากปีที่ผ่านมาจากภาวะเศรษบกิจที่นาจะฟื้นตัได้ดีขึ้น โดยสินเชื่อน่าจะโตได้ที่ 5-8% จากปีที่ผ่านมาโตประมาณ 5% ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังสินเชื่อน่าจะโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก จากภาพการลงทุนโดยรวมของประเทศและสถานการณ์ในต่างประเทศที่น่าจะดีขึ้น