posttoday

กสิกรฯดันใช้พร้อมเพย์เพิ่ม

24 มีนาคม 2560

กสิกรไทยกระตุ้นลูกค้าใช้พร้อมเพย์ ตั้งเป้าเพิ่ม 10 เท่า หลัง 3 เดือนเฉลี่ยแค่ 2 หมื่นรายการ/วัน

กสิกรไทยกระตุ้นลูกค้าใช้พร้อมเพย์ ตั้งเป้าเพิ่ม 10 เท่า หลัง 3 เดือนเฉลี่ยแค่ 2 หมื่นรายการ/วัน

นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการ ผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ของธนาคารปริมาณยังน้อยมากเมื่อเทียบกับการโอนเงินระหว่างบุคคลทั้งหมด แต่มีทิศทางเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากเดือน ม.ค.-ก.พ. 2560 ที่มี 1 หมื่นรายการ และในเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 130% เป็น 2.35 หมื่นรายการ โดย 80% ของธุรกรรมเป็นการโอนข้ามธนาคาร ตั้งเป้าหมายผลักดันให้มียอดโอนเงินผ่านพร้อมเพย์เพิ่มขึ้น 10 เท่า เป็นกว่า 2 แสนรายการ/วัน ภายในสิ้นปีนี้

ทั้งนี้ สาเหตุที่คนใช้พร้อมเพย์น้อยมี 2 ปัจจัยหลัก คือ ไม่กล้าเพราะกังวลความปลอดภัยและสะดวกใช้เงินสดมากกว่า จึงต้องช่วยกันโปรโมท เช่นเดียวกับพร้อมเพย์นิติบุคคลที่เปิดลงทะเบียนตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค. ยังมียอดลงทะเบียนน้อย เพราะระยะแรกมีประโยชน์เพียงบัญชีขารับและไม่สะดวกกับผู้จ่าย ที่ต้องจำเลขประจำตัวผู้เสียภาษีหลายหลัก

"คิดว่าต้องใช้เวลานานเป็นปีกว่าที่พร้อมเพย์จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกรรมในชีวิตประจำวันของคนไทย เพราะคนยังไม่คุ้นชินกับของใหม่ อย่าง เค-โมบายแบงก์กิ้งของกสิกรไทย ต้องใช้เวลาถึง 5 ปี กว่าจะมีคนใช้ทำธุรกรรมมากในปัจจุบันนี้" นายพัชร กล่าว

ล่าสุด ได้จัดทำแคมเปญ "พร้อมเพย์ เค สุด มั่นใจ ใครๆ ก็เพย์" เพื่อเพิ่มยอดผู้สมัครใช้พร้อมเพย์ จาก 3 ล้านรหัส เป็น 5 ล้านรหัสในสิ้นปีนี้ พร้อมกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาทำธุรกรรมการเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น ด้วยการเดินสายลงพื้นที่ในตลาดสด ตลาดนัด เช่น องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ร้านค้ารายย่อย เมื่อพ่อค้าและแม่ค้าสมัครใช้พร้อมเพย์แล้ว ต่อไปลูกค้าที่มาซื้อของสามารถโอนเงินผ่านพร้อมเพย์ด้วยหมายเลขมือถือเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการได้

ด้านข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย รายงาน ณ วันที่ 12 มี.ค. 2560 มีการลงทะเบียนพร้อมเพย์ 24.4 ล้านรหัส แบ่งเป็นลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชน 18.9 ล้านรหัส และด้วยหมายเลขโทรศัพท์มือถือ 5.5 ล้านรหัสจึงมีโอกาสที่ธนาคารจะขยายฐานลูกค้าพร้อมเพย์ เพราะปัจจุบันมีโทรศัพท์มือถือทั่วประเทศเกือบ 90 ล้านเลขหมาย เป็นสมาร์ทโฟนราว 90%

สำหรับวางเครื่องรับบัตร (อีดีซี) นั้น ขณะนี้ได้ทยอยสำรวจร้านค้าและหน่วยงานราชการแล้ว แต่มีความต้องการติดตั้งเครื่องอีดีซีจริงไม่ถึง 10% จากจำนวนร้านค้าที่เข้าไปสำรวจ เนื่องจากมีการติดตั้งเครื่องอยู่แล้ว บางร้านค้าปฏิเสธไม่ติด หรือเป็นธุรกิจที่ไม่เน้นรายย่อย เช่น โรงงานที่รับเช็ค ไม่รับเงินสดอยู่แล้ว โดยจะรายงานให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยรับทราบปัญหาทุกเดือน