คลังดันรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบพยุงเศรษฐกิจ

รัฐบาลสั่งรัฐวิสาหกิจ 45 แห่งเร่งเบิกจ่ายให้ได้ในวงเงิน 5.5 หมื่นล้านบาทภายในสิ้นไตรมาสแรกปีนี้ เพื่อเป็นกำลังหลักในการประคองเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 3 มี.ค. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจทั้ง 45 แห่ง ที่กระทรวงการคลัง ว่า  การร่มประชุมเร่งรัดการเบิกจ่ายทุกเดือนช่วยให้เกิดการเบิกจ่ายโตขึ้นทุกเดือน  โดยไตรมาสแรกโต  9.8% ไตรมาส 2 โต 8.2% ไตรมาส 3 โต 10.5%  และไตรมาส  4 โต 12.3% ซึ่งการเบิกจ่ายที่เร่งขึ้นมีส่วนช่วยเศรษฐกิจในยามที่ภาวะเศรษฐกิจโลกไม่ดี  ช่วยประคองเศรษฐกิจ ทำให้ตัวอื่นหมุน ทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2559 โตได้ตามเป้าหมายที่ 3.2%

สำหรับขณะนี้เศรษฐกิจโตได้เป็นลำดับ มีสัญญาณการเติบโตที่ค่อยข้างจะแน่นในทุกมิติ  ต่อเนื่อง แต่เราก็ต้องดูกันต่อไป ไม่ประมาท เพราะถ้าทุกตัวโตเป็นลำดับตัวที่จะ เร่ง (Put)  ได้ คือ การใช้จ่ายของรัฐบาล ซึ่งคลังก็ติดตามดูการใช้จ่ายของรัฐทุกตัว ส่วนของรัฐวิสาหกิจก็มาดู อันไหนช้า ก็แนะนำ ทำให้เรามั่นใจว่าถ้าไตรมาสแรกปีนี้ไปได้ดีเหมือนเดิม ความเชื่อมั่นน่าจะแน่นแฟ้นแข็งแกร่งขึ้น เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจประเทศในระยะข้างหน้า ส่วนโครงการไหนชะลอไปบ้าง ช้าไปบ้าง เราจะไม่ปล่อยให้ชะลอไปนานมาก ต้องไปเร่ง และอย่าไปทำแค่โตตามเป้าหมาย อะไรที่ทำได้เร็วควรทำ ต้องทำให้ดีที่สุด ถ้าทำได้ดีกว่าที่ตั้งไว้ก็ต้องทำ และใครทำได้ดีกว่าเป้าก็ต้องมีรางวัลให้  ไม่ใช่ให้ทำงานหนักอย่างเดียว

“ภายในเดือนมี.ค.ปีนี้ หรือไตรมาสแรกนี้เราอย่างให้เร่ง อันไหนทำได้ก่อนต้องทำ อย่าปล่อยปละละเลยให้ไปเร่งหรือไปโหลดในไตรมาส 4 ของทุกปี เลยให้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ไปตรวจการบ้าน ตรงไหนพร่องก็ต้องไปเติม ”นายสมคิดกล่าว

ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการ สำนักงาน สคร. กล่าวว่า การลงทุนของรัฐวิสาหกิจในไตรมาสที่ 4 ของปี 2559 ขยายตัว 12.3% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 10.5%  ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวในปี 2559 ในช่วงที่ใช้จ่ายภาคเอกชนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ สำหรับการประชุมรอบนี้ท่านรองนายกฯให้นโยบายให้สคร.ไปเร่งให้รัฐวิสาหกิจทั้ง 45 แห่ง มีการเบิกจ่ายภายในเดือนมี.ค.หรือไตรมาสแรกปีนี้ให้ได้ตามเป้าหมายที่ 5.5 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 15% จากปัจจุบัน ณ เดือนม.ค.มีการเบิกจ่ายสะสมอยู่ที่ 3.25 หมื่นล้านบาท คิดเป็น  73% ของแผนการเบิกจ่ายลงทุนสะสม ยังเหลืออีกประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาทจึงได้ตามเป้าหมาย