posttoday

27ก.พ.ดีเดย์เดินหน้าสางหนี้นอกระบบ

14 กุมภาพันธ์ 2560

คลังเดินหน้ากดปุ่มแก้หนี้นอกระบบทั่วไทย 27ก.พ.นี้ ออมสิน ธ.ก.ส. ชูดอกเบี้ยต่ำช่วยเต็มที่

คลังเดินหน้ากดปุ่มแก้หนี้นอกระบบทั่วไทย 27ก.พ.นี้ ออมสิน ธ.ก.ส. ชูดอกเบี้ยต่ำช่วยเต็มที่

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 27 ก.พ.นี้จะมีการจัดงานเปิดตัวการแก้ไขหนี้นอกระบบทั้งประเทศ ซึ่งเป็นการแบบบูรณาการครั้งใหญ่ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากโดยมอบหมายให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในการเปิดงาน
       
สำหรับในงานจะมีการมอบใบอนุญาตให้กับผู้ประกอบการพิโกไฟแนซ์ ที่สามารถปล่อยกู้ให้กับรายย่อยได้ไม่เกิน 5 หมื่นบาท อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 36% ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ยื่นสมัครมาแล้ว  40 ราย และมีผู้ดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครไปถึง 400 ราย

ขณะเดียวกันทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ก็จะมีการแสดงการจับกุมเครือข่ายเจ้าหนี้นอกระบบที่ดำเนินในช่วงที่ผ่านมา หลังจากกฎหมายห้ามคิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กำหนด 15% ต่อปี ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ ทำให้มีโทษหนักขึ้นทั้งปรับไม่เกิน 2 แสนบาท จากเดิม 1,000 บาท และจำคุกไม่เกิน 2 ปี จากเดิม 1 ปี

นอกจากนี้ ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ก็จะมีการปล่อยกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้แก่ลูกหนี้นอกระบบเพื่อนำไปใช้หนี้นอกระบบ หรือนำไปใช้ดำเนินชีวิตโดยไม่ต้องไปกู้หนี้นอกระบบดอกเบี้ยโหดอีกต่อไป โดยกระทรวงการคลังได้สั่งการให้ทั้งสองแห่งตั้งหน่วยงานขึ้นมาเป็นการถาวะเพื่อดูแลแก้ปัญหาหนี้นอกระบบและปล่อยสินเชื่อฉุกเฉินเอกเบี้ยต่ำ โดยการดำเนินงานนี้จะเป็นตัวชี้วัดหนึ่งของการทำงานธนาคารด้วย
 
นายสมชัย กล่าวว่า การลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรอบใหม่ จะเริ่มวันที่ 3-30 เม.ย.นี้ โดยส่วนหนึ่งจะให้มีการกรอกข้อมูลการเป็นหนี้นอกระบบด้วย เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือกับลูกหนี้นอกระบบ เพราะปีนี้กระทรวงการคลังให้ความสำคัญกับการแก้ไขหนี้นอกระบบ โดยตั้งเป้าว่าจะต้องทำให้เจ้าหนี้นอกระบบ หมดไปหรือเหลือน้อยที่สุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกวดขันเอาผิดกับเจ้าหนี้นอกระบบอย่างเต็มที่

ด้านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่า สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (นาโนไฟแนนซ์) ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2559 มีผู้ให้บริการปล่อยกู้รวมทั้งสิ้น 24 ราย มีจำนวนบัญชีการให้กู้รวมที่ 5.54 หมื่นบัญชี เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน 48 หมื่นบัญชี มียอดสินเชื่อคงค้างรวม 1,435 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,282 ล้านบาท มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) รวม 18 ล้านบาท