จ่อปรับภาษีจ้างผู้สูงวัย

สศค.รับลูก สมคิด เรียกประชุมขับเคลื่อนมาตรการรับสังคมผู้สูงอายุ เล็งปรับเงื่อนไขภาษีดึงจ้างงาน

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับมาตรการรองรับสังคมผู้สูงอายุ หลังจากได้รับมอบหมายจาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้ สศค.เป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายนี้ เป้าหมายคือดูแลผู้สูงอายุที่ปัจจุบันมีกว่า 14 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยชราภาพ 7 ล้านคน และมีผู้สูงอายุอีกราว 2.5 ล้านคน ที่มาขึ้นทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐที่แจ้งว่าเป็นผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ซึ่งจะเป็นกลุ่มแรกที่ต้องหามาตรการช่วยเหลือ

ทั้งนี้ คาดว่าจะต้องประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลต่างๆ ในการให้สิทธิในการรักษาพยาบาลผู้สูงอายุ รวมถึงผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงให้ได้รับการดูแลที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ อาจมีการพิจารณามาตรการการจ้างงานผู้สูงอายุ โดยให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหักรายจ่ายประเภทเงินเดือนและค่าจ้างได้ 2 เท่า สำหรับการจ้างบุคลากรผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป) ที่มีอัตราค่าจ้างไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท/คน/เดือน โดยอาจมีการปรับเงื่อนไขให้บริษัทที่จ้างผู้สูงอายุได้สิทธิต่างๆ เพิ่มขึ้น เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการจ้างงานผู้สูงอายุต่อไป

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทยอยออกมาตรการมาระดับหนึ่งแล้ว เช่น การตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) เพื่อให้ผู้มีอาชีพอิสระสมัครเป็นสมาชิกสะสมเงินออมระยะยาวในกองทุน กบช. เพื่อรับเงินบำนาญใช้ในยามเกษียณ การมอบหมายให้กรมธนารักษ์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) การเคหะแห่งชาติ ทำเรื่องการสร้างบ้านผู้สูงอายุ