posttoday

คลังอัดฉีดงบดันศก.โต4%

09 มกราคม 2560

คลังลุยแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 2560 มั่นใจอัดฉีดกว่า 5.8 แสนล้าน ดันเศรษฐกิจปีนี้โต 4% ได้

คลังลุยแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 2560 มั่นใจอัดฉีดกว่า 5.8 แสนล้าน ดันเศรษฐกิจปีนี้โต 4% ได้

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้รายงานให้ นาย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ทราบถึงแนวโน้ม และแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 2560 เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี ขยายตัวได้ 4% ภายใต้สมมติฐานจะมีการใช้งบประมาณผ่านโครงการและมาตรการต่างๆ เพื่ออัดฉีดวงเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจรวม 5.85 แสนล้านบาท

สำหรับวงเงินและมาตรการต่างๆ ประกอบด้วย การเพิ่มวงเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีกประมาณ 7 หมื่นล้านบาท เมื่อรวมกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมจากงบประมาณปกติที่ทำไว้แล้ว หรือที่เรียกว่า งบกลางปี อีก 1.9 แสนล้านบาท การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจได้ไม่ต่ำกว่า 3.25 แสนล้านบาท และการส่งเสริมให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 35 ล้านคน หรือคิดเป็น 7.5% จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 4% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จะต้องเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 2560 ให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเฉพาะการอัดฉีดวงเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจยอดรวมกว่า 5.85 แสนล้านบาท ถือเป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้จีดีพีเศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวในระดับที่ 4% ทำให้เศรษฐกิจของไทยสามารถหลุดจากกับดักรายได้ปานกลางได้เร็วขึ้น

ขณะที่ เศรษฐกิจไทย ปี 2559 มีแนวโน้มจะขยายตัวได้ 3.2% โดยไตรมาส 4 คาดว่า จะโต 2.8% จากการที่การส่งออกเดือน พ.ย. 2559 กลับมาขยายตัวสูง เชื่อว่าทั้งปี 2559 การส่งออกจะติดลบ 2% อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาครัฐขยายตัวต่อเนื่อง เติบโตกว่า 8.6% แต่เนื่องจากยังได้รับผล กระทบจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวไตรมาส 4 ต่ำกว่าที่คาดไว้ และการลงทุนภาคเอกชนยังไม่ฟื้นตัวได้เต็มที่
    
นอกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ในปี 2560 คลังจะเร่งดำเนินงานตามมาตรการที่ได้รับมอบหมาย คือ การเปิดลงทะเบียน ผู้มีรายได้น้อยครั้งที่ 2 การ เตรียมความพร้อมบังคับใช้ พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ศูนย์กระจายและจำหน่ายสินค้าปลอดภาษี เขตเศรษฐกิจพิเศษ การจัดเก็บรายได้บริเวณโครงสร้างพื้นฐาน มาตรการภาษีสนับสนุนอุปกรณ์ลดอุบัติเหตุทางถนน การผลักดันไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์ การจัดตั้งกองทุนผู้สูงอายุ เป็นต้น