posttoday

"บัณฑูร"ฟันธง ดอกเบี้ยไทยไม่ตามเฟด

16 ธันวาคม 2559

"บัณฑูร" ฟันธงดอกเบี้ยไทยยังไม่ขึ้นตามเฟด หากเศรษฐกิจยังไม่แข็งแกร่งพอ แต่เงินบาทอ่อนค่าดีต่อการส่งออก

"บัณฑูร" ฟันธงดอกเบี้ยไทยยังไม่ขึ้นตามเฟด หากเศรษฐกิจยังไม่แข็งแกร่งพอ แต่เงินบาทอ่อนค่าดีต่อการส่งออก

นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ผลโดยตรงจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ทำให้เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง ตรงข้ามกับเงินเหรียญสหรัฐที่แข็งค่า ซึ่งมองว่าส่งผลดีต่อประเทศไทย เพราะเงินบาทอ่อนค่าดีกับผู้ส่งออกที่ค้าขายได้เงินบาทมากขึ้น แต่ด้านตลาดเงินอาจผันผวนจากเงินทุนต่างชาติที่จะไหลออกไปยังตลาดสหรัฐ

"ดอกเบี้ยของไทยอาจจะไม่ขึ้นตามโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้น้ำหนักที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หากยังไม่แข็งแกร่งพอก็น่าจะเลี่ยงการขึ้นดอกเบี้ยออกไปก่อน เพราะบาทอ่อนค่าไม่ได้ส่งผลกระทบมาก" นายบัณฑูร กล่าว
 
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า เฟดขึ้นดอกเบี้ยไม่กระทบกับเศรษฐกิจไทย ทั้งต้นทุนการเงินของรัฐบาลเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เพราะการระดมเงินกู้ของรัฐบาลเป็นการกู้ภายในประเทศ มีการกู้เงินต่างประเทศเพื่อการลงทุนจำนวนน้อยมาก

ปัจจุบันการกู้เงินของรัฐบาลเป็น การกู้ภายในประเทศ 96% และกู้เงิน ต่างประเทศ 4% ของเงินกู้ทั้งหมด ดังนั้น จึงไม่มีปัญหาเงินทุนไหลออกจนทำให้ตลาดการเงินไทยผันผวนอย่างที่หลาย ฝ่ายกังวล

นอกจากนี้ การที่เฟดคาดการณ์ว่าในปีหน้าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 3 ครั้ง ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะการส่งสัญญาณล่วงหน้าทำให้ตลาด ปรับตัวได้ดีกว่าการปรับขึ้นทันทีโดยไม่บอกมาก่อน

นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า นักลงทุนไทยส่วนใหญ่มีหนี้ต่างประเทศน้อยมาก จึงไม่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ส่วนนักลงทุนที่มีหนี้ต่างประเทศมากเป็นการกู้เพื่อไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งมีรายได้เป็นเงินตราต่างประเทศเช่นกัน จึงไม่น่าเป็นห่วงเช่นกัน

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมาตรการรับมือเฟดขึ้นดอกเบี้ยไว้อยู่แล้ว ดังนั้น จึงไม่น่าเป็นห่วงส่วนในปีหน้าที่เฟดประกาศจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้ง ยังไม่อยากให้มองระยะไกล เพราะเป็นเรื่องของอนาคต ส่วนไทยจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามด้วยหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่ภาวะทางเศรษฐกิจของไทยและโลกในขณะนั้นด้วยว่าเป็นอย่างไร เพราะเมื่อสหรัฐขึ้นดอกเบี้ยจะมีผลต่อเงินทุนให้ไหลกลับไปลงทุนในสหรัฐ ซึ่งหากประเทศไหนต้องการเงินทุนจากต่างประเทศก็จะต้องปรับขึ้นตามเพื่อดึงเม็ดเงินลงทุน

นายสมคิด ยังกล่าวถึงการจัดทำ งบประมาณในปีงบประมาณ 2561 ว่าต้องดูภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยควบคู่กันไปด้วย ต้องพิจารณาว่าจะจัดทำงบประมาณอย่างไรจึงจะพอดี