posttoday

วายุภักษ์กำไร7.7หมื่นล้าน ผลงานบริหาร10เดือน เติบโต33%

17 พฤศจิกายน 2559

กองทุนรวมวายุภักษ์ แจ่ม ผลตอบแทน 10 เดือน เติบโต 33% เพิ่มขึ้น 7.7 หมื่นล้าน คลังยิ้มรับ ผลประโยชน์

กองทุนรวมวายุภักษ์ แจ่ม ผลตอบแทน 10 เดือน เติบโต 33% เพิ่มขึ้น 7.7 หมื่นล้าน คลังยิ้มรับ ผลประโยชน์

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ กองทุนรวมวายุภักษ์ยังมีผลการดำเนินงานเติบโตค่อนข้างดี สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้สูงถึง 33.2% โดยมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) อยู่ที่ 310,773 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77,567 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่ผ่านมาที่มีสินทรัพย์อยู่ที่ 233,206 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลตอบแทนตลอดทั้งปีนี้ยังเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องก็ตาม

สำหรับอัตราผลตอบแทนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นผลจากหลักทรัพย์ที่เข้าลงทุนมีศักยภาพที่ดี มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับผู้จัดการกองทุนได้มีการปรับสัดส่วนการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุนดังกล่าวได้ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนเติบโตดีมาก และปีนี้หุ้นขนาดใหญ่ปรับตัวขึ้นแรง ส่งผลให้หุ้นในสัดส่วนของกองทุนวายุภักษ์ที่ถือหุ้นขนาดใหญ่เป็นจำนวนมากได้รับผลดีไปด้วย โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นหน่วยลงทุนในกองทุนรวมวายุภักษ์ ได้แก่ กระทรวงการคลังและนักลงทุนสถาบัน ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐโดยไม่จำกัดสัดส่วนการลงทุนของกระทรวงการคลัง

สำหรับหลักทรัพย์ที่ผู้จัดการกองทุนเลือกลงทุนที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรก ณ วันที่ 30 ต.ค. 2559 ประกอบด้วย อันดับ 1 หุ้น ปตท. (PTT) สัดส่วนการลงทุน 46.60% อันดับ 2 หุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) สัดส่วน 37.42% อันดับ 3 หุ้นธนาคารกรุงไทย (KTB) สัดส่วน 3.06% อันดับ 4 หุ้นบริษัท การบินไทย (THAI) สัดส่วน 2.50% และอันดับ 5 หุ้นบริษัท บางจากปิโตรเลียม (BCP) สัดส่วน 2.09%
 
"ส่วนทิศทางการลงทุนในช่วงงวดครึ่งปีแรกของปี 2559 กองทุนมีการลงทุนในตราสารทุนในสัดส่วน 78.91% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และ ณ วันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีสัดส่วนลงทุนใน กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มธนาคาร 16.39% กลุ่มเทคโนโลยี 12.62% กลุ่มขนส่งและ โลจิสติกส์ 10.55% กลุ่มวัสดุก่อสร้าง 10.4% และกลุ่มการแพทย์ 10.18%" แหล่งข่าว เปิดเผย

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในส่วนของกองทุนไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ฟันด์ ขณะนี้ได้มอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งผู้จัดการกองทุน ที่ปรึกษาทางการเงิน และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เดินหน้าในเรื่องของรายละเอียดการจัดตั้งกองทุน ซึ่งการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวยังคงเป็นไปตามแผนเดิมที่วางไว้ คือ จัดตั้งกองทุนให้ทันภายในปีนี้