กรมศุลฯติดเครื่องเอกซเรย์กระเป๋าสกัดลอบนำเข้าสินค้าหรู

นักช็อปแบรนด์หรูหนาว กรมศุลฯ ติดตั้งเครื่องเอกซเรย์คร่อมสายพานลำเลียงกระเป๋าทุกสนามบินเริ่มใช้ปี 2561

นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรจะติดตั้งเครื่องเอกซเรย์คร่อมสายพานลำเลียงกระเป๋าสนามบินสุวรรณภูมิ 23 ตัว และสนามบินดอนเมือง สมุย เชียงใหม่ ภูเก็ต อีก 6 ตัว เพื่อตรวจสอบการนำเข้าสินค้าหรูและวัตถุสิ่งของต้องห้ามที่นำเข้ามาจากต่างประเทศทั้งหมด หากเครื่องตรวจพบก็จะทำเครื่องหมายไว้ และเมื่อผู้โดยสารนำกระเป๋าออกมาก็จะถูกเจ้าหน้าที่สั่งให้เปิดกระเป๋าตรวจ หากมีการนำเข้าสินค้าหรูราคาแพงเกินกำหนดก็จะต้องเสียภาษีให้ครบก่อนนำเข้า หากเป็นสิ่งของต้องห้ามก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

การติดตั้งเครื่องเอกซเรย์คร่อมสายพานนี้ ครอบคลุมทุกสนามบินที่มีการเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศทั้งหมด จะดำเนินการติดตั้งในปี 2560 และเริ่มใช้ปี 2561 จะทำให้การตรวจการนำเข้าสินค้าหรูราคาแพงเกินกำหนดมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากเดิมที่เป็นการสุ่มตรวจเอกซเรย์กระเป๋าต้องสงสัยบางใบเท่านั้น แต่ต่อไปนี้กระเป๋าทุกใบจะถูกเอกซเรย์ทั้งหมดตั้งแต่อยู่บนสายพานลำเลียงเข้าสนามบิน

สำหรับการติดตั้งเครื่องเอกซเรย์คร่อมสายพานทั้งหมดเป็นวงเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงห้องควบคุมเครื่องเอกซเรย์ที่ทันสมัย สามารถดูการเอกซเรย์คร่อมสายพานลำเลียงได้ทั้งหมดแบบทันที และยังย้อนภาพกลับมาตรวจสอบซ้ำได้

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังเห็นชอบงบอีก 681 ล้านบาท ให้กรมศุลกากรซื้อเครื่องเอกซเรย์ที่เป็นรถตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อนำไปใช้ในด่านต่างๆ ที่มีการนำเข้าสินค้าจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้การเก็บภาษีของกรมศุลกากรมีประสิทธิภาพ และลดการทุจริตของเจ้าหน้าที่และผู้นำเข้าได้มากขึ้น

ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมา นายกุลิศได้ติดตามความคืบหน้าโครงการห้องปฏิบัติการและสั่งการควบคุมทางศุลกากรที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และโครงการระบบเอกซเรย์คร่อมสายพาน เนื่องจากเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญ