ธอส.กุมขมับหนี้เน่าพุ่ง5.6%

ธอส.ทำใจหนี้เสียปูด 5.76% ยันเป็นตามภาวะเศรษฐกิจ เตรียมเร่งสินเชื่อครึ่งปีหลังอีกแสนล้าน

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2559 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนว่า ธอส.มียอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล อยู่ที่ 5.14 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 5.76% ของยอดสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้น 0.31% จากสิ้นปี 2558 ส่วนเป้าหมายที่กำหนดให้สิ้นปีต้องลดเอ็นพีแอลเหลือ 5.25% อาจจะทำได้ใกล้เคียง แต่คงไม่ได้ตามเป้า ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มเอ็นพีแอลทั้งระบบที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยกลุ่มลูกค้าที่เป็นเอ็นพีแอล มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ผ่านการปรับโครงสร้างไปแล้วแต่ทำไม่สำเร็จกับกลุ่มลูกค้าใหม่ที่เป็นลูกค้าทั่วไป

ขณะที่ลูกหนี้ในโครงการสินเชื่อตามนโยบายรัฐบาล เช่น โครงการบ้านผู้มี รายได้น้อย เป้าหมายปล่อยกู้ 2.6 หมื่นล้านบาท โครงการบ้านประชารัฐวงเงินปล่อยกู้ 1 หมื่นล้านบาท ล่าสุดปล่อยกู้แล้ว 5,000 ล้านบาท ยังไม่เป็นหนี้เสีย เพราะได้ออกแบบเพื่อป้องกันการเป็น เอ็นพีแอลแล้ว เช่น การคิดดอกเบี้ยต่ำ ทำให้ค่างวดเหมาะสมกับความสามารถผ่อนของผู้กู้

สำหรับยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ ครึ่งปีแรกอนุมัติได้ทั้งสิ้น 7.58 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.93% คิดเป็น 5.39 หมื่นราย โดยเป็นสินเชื่อปล่อยใหม่วงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท จำนวน 4.3 หมื่นราย จากเป้าหมายปล่อยกู้ทั้งปีที่ 1.7 แสนล้านบาท โดยช่วงครึ่งปีหลังที่เหลือ ธอส.ต้องปล่อยกู้อีกราว 1 แสนล้านบาท หรือเฉลี่ยเดือนละ 1.2 หมื่นล้านบาทตามเป้าหมาย

ทั้งนี้ ธนาคารจะเน้นการปล่อยกู้ในโครงการสินเชื่อบ้านข้าราชการที่ตั้งเป้าไว้ 3 หมื่นล้านบาท และเตรียมออกโครงการสินเชื่อบ้านผู้สูงอายุอีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท รวมทั้งการออกโครงการดอกเบี้ยพิเศษเพื่อเป็นแรงจูงใจให้คนมาขอสินเชื่อมากขึ้น

นายฉัตรชัย กล่าวว่า ปัจจุบันธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างกว่า 8.94 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.62% สินทรัพย์รวม 9.4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.52% เงินฝากรวม 7.57 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.32% และมีกำไรสุทธิ 5,158 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (บีไอเอส) อยู่ที่ 16.03% เกินกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดเงินกองทุนต่อสินทรัพย์ที่ 8.5%

สำหรับแผนการระดมเงินปีนี้ ตั้งเป้าหมายออกพันธบัตร 2.6 หมื่นล้านบาท โดย ธอส.ได้ออกมาแล้ว 2 ครั้ง รวม 2 หมื่นล้านบาท โดยไม่ขอให้กระทรวงการคลังค้ำประกันคงเหลืออีก 6,000 ล้านบาท ที่จะออกในช่วงครึ่งหลังปีนี้

"สาเหตุที่ทำให้ผลการดำเนินงานของธนาคารยังคงปรับตัวดีขึ้น เป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหา ริมทรัพย์ของรัฐบาล เช่น โครงการบ้านประชารัฐ ที่ให้กู้วงเงินรายละไม่เกิน 1.5 ล้านบาท โครงการบ้าน ธอส.เพื่อข้าราชการ โครงการบ้าน ธอส.เพื่อสานรัก วงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท และโครงการบ้าน ธอส.อุ่นใจ สำหรับลูกค้าวงเงินกู้เกิน 2 ล้านบาท เป็นต้น พร้อมมั่นใจว่าจากทิศทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังที่มี แนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จะช่วยส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อใหม่ของธนาคารเป็นไปตาม เป้าหมาย 1.7 แสนล้านบาท" นาย ฉัตรชัย กล่าว