posttoday

คลังพร้อมปรับกฎเกณฑ์หนุนฟินเทค

21 กรกฎาคม 2559

คลังชี้พร้อมหนุนภาคธุรกิจปรับตัวรับมือการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการเงิน วางกฎเกณฑ์การกำกับที่เหมาะสมเพื่อไม่เกิดปัญหาหลอกผู้บริโภค

คลังชี้พร้อมหนุนภาคธุรกิจปรับตัวรับมือการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการเงิน วางกฎเกณฑ์การกำกับที่เหมาะสมเพื่อไม่เกิดปัญหาหลอกผู้บริโภค

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.กระทรวงการคลัง กล่าวในงาน CaF I : Positioning Thailand' s Fin Tech Ecosystem"  ว่า  รัฐบาลพร้อมสนับสนุนภาคธุรกิจให้ปรับตัวรับเทคโนโลยีใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเทคโนโลยีการเงิน หรือ ฟินเทค ซึ่งมีประโยชน์กับธุรกิจและผู้บริโภค แต่ต้องควบคุมให้เหมาะสม เพราะส่วนสร้างความเสียหายได้ด้วย อย่างเรื่องคราวด์ฟันดิ้งก็ต้องดูไม่ให้มีการหลอกลวงผู้บริโภคเหมือนบางประเทศ ที่สร้างความเสียหายไปแล้วกว่า 7,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้น ในการดูแลต้องมีกฎการกำดูแลที่เหมาะสม

"ฟินเทคมีประโยชน์ แต่ก็สร้างความเสียหายได้ด้วย การดูต้องดูให้เหมาะ ให้ฟินเทคเกิดได้ แต่ก็ต้องกำกับไม่ให้หลอกลวงผู้บริโภคกลายเป็นแชร์ลูกโซ่คนต้นๆได้เงินคืนและคนหลังไม่ได้" รมช.กระทรวงการคลังกล่าว

ด้านนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่เห็นธนาคารพาณิชย์ขอปิดสาขามากกว่ามาขอเปิดสาขา ซึ่งน่าจะเป็นการปรับตัวของธุรกิจเพื่อรองรับบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ และฟินเทค

ทั้งนี้ จากข้อมูลยอดคงค้างของจำนวนสาขาธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ ล่าสุด ณ สิ้นเดือนมิ.ย.ปีนี้ พบว่าธนาคารที่มีสาขาลดลง คือ ธนาคารกสิกรไทย ลดลง 8 แห่ง เหลือ 1,124 แห่ง, ทีเอ็มบีลดลง 6 แห่ง เหลือ 169 แห่ง ,ยูโอบีลดลง 1 สาขา เหลือ 154 ,ซีไอเอ็มบีลดลง 46 แห่ง รวมเหลือ 99 สาขา และยังมีแนวโน้มจะลดลงอีก โดยต้องลดให้เหลือประมาณ 80 แห่งภายในสิ้นปีนี้ ,ธนชาตลดลง 6 แห่ง รวมเหลือ 610 แห่ง ส่วนสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไทย) มีสาขาเท่าเดิม 20 แห่ง ไอซีบีซี (ไทย) คงที่ที่ 20 แห่ง