posttoday

หนี้เสียเอสเอ็มอียังพุ่ง

10 กรกฎาคม 2559

แบงก์ยังแบกหนี้เอ็นพีแอลเอสเอ็มอีต่อ แม้สินเชื่อจะฟื้นฉุดภาพรวมดีขึ้น ขณะที่การทำกำไรเริ่มดีขึ้น

แบงก์ยังแบกหนี้เอ็นพีแอลเอสเอ็มอีต่อ แม้สินเชื่อจะฟื้นฉุดภาพรวมดีขึ้น ขณะที่การทำกำไรเริ่มดีขึ้น

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) สรุปผลวิเคราะห์ภาพรวมของธนาคารพาณิชย์ 8 แห่งที่ได้ทำการวิเคราะห์ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทย ธนาคารทิสโก้ ธนาคารธนชาต และธนาคารเกียรตินาคิน โดยไม่นับรวมธนาคารกรุงศรีอยุธยา พบว่า ไตรมาส 2 ของปีนี้ ธนาคารส่วนใหญ่มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้า ยกเว้นเอ็นพีแอลที่มาจากธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ยังคงเห็นอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ธนาคารที่มีเอ็นพีแอลลดลงชัดเจน คือ ธนาคารธนชาต ธนาคารทิสโก้ และธนาคารเกียรตินาคิน ส่งผลให้ลดอัตราหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อเฉลี่ยลดลงได้ในไตรมาสที่ 2 และคาดว่าจะลดลงได้อีกในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ขณะที่ธนาคารกรุงเทพและกสิกรไทย ยังมีเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น แต่ชะลอตัวลง ทำให้คาดว่ากสิกรไทยจะลดอัตราหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อเฉลี่ยที่ตั้งไว้สูงลงในครึ่งปีหลังนี้ ส่วนธนาคารกรุงไทยยังคงเห็นเอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ไทยพาณิชย์จะเป็นธนาคารเดียวที่เอ็นพีแอลลดลงชัดเจนในไตรมาสที่ 2 นี้

บทวิเคราะห์ระบุว่า สาเหตุที่ธนาคารจัดการเอ็นพีแอลได้ดีขึ้น เพราะธนาคารเร่งปล่อยสินเชื่อให้ได้มากกว่าการเพิ่มขึ้นของเงินฝาก เพื่อชดเชยการลดลงของส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่หดลงจากการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้สินเชื่อของธนาคารส่วนใหญ่ดีขึ้น ยกเว้นธนาคารกรุงไทยที่สินเชื่อไม่ขยายตัว อย่างไรก็ตามยังมีความเสี่ยงว่า เอ็นพีแอลของระบบธนาคารจะกลับมาเป็นขาขึ้นได้ หากเกิดความล่าช้าในการใช้จ่ายงบภาครัฐ เศรษฐกิจโตไม่ถึง 3% และมีการลดดอกเบี้ยอีก

สำหรับกำไรสุทธิไตรมาส 2 ของ 8 ธนาคาร อยู่ที่ 4.52 หมื่นล้านบาท ลดลง 2.5% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4.65 หมื่นล้านบาท แต่เพิ่มขึ้น 20% จากไตรมาสแรกของปี ส่วนครึ่งปีแรกจะมีกำไรสุทธิ 8.7 หมื่นล้านบาท ลดลง 7.5%