posttoday

เลิกแจกคนแก่แต่รวย

14 พฤษภาคม 2559

รัฐประหยัดงบประมาณ รื้อเกณฑ์เลิกแจกเงินคนชรามีรายได้เกินเดือนละ 9,000 บาท ทรัพย์สิน 3 ล้าน ลดรายจ่ายได้หมื่นล้าน

รัฐประหยัดงบประมาณ รื้อเกณฑ์เลิกแจกเงินคนชรามีรายได้เกินเดือนละ 9,000 บาท ทรัพย์สิน 3 ล้าน ลดรายจ่ายได้หมื่นล้าน

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลจะปรับเกณฑ์การแจกเงินคนชรา โดยจะให้มีการลงทะเบียนใหม่และกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำของรายได้และทรัพย์สิน เบื้องต้นหากกำหนดว่าคนชราที่จะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลต้องมีรายได้ไม่เกิน 9,000 บาท/เดือน และมีทรัพย์สินไม่เกิน 3 ล้านบาท จะทำให้รัฐบาลประหยัดงบจากที่จ่ายอยู่ปีละประมาณกว่า 1 หมื่นล้านบาท นำเงินไปใช้พัฒนาประเทศในด้านอื่น

ปัจจุบันการแจกเงินคนชราของรัฐบาลเป็นแบบขั้นบันได อายุ 60-69 ปี ได้เดือนละ 600 บาท อายุ 70-79 ปี ได้เดือนละ 700 บาท อายุ 80-89 ปี ได้เดือนละ 800 บาท และอายุ 90 ปีขึ้นไป ได้เดือนละ 900 บาท

นอกจากนี้ รัฐบาลจะมีการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งอยู่ระหว่างกำหนดเกณฑ์อยู่ เพื่อรับสวัสดิการจากภาครัฐในอนาคต เช่น การขึ้นรถไฟ รถเมล์ฟรี ในอนาคตก็ต้องผู้มีรายได้น้อยจริงๆ ตามที่กำหนดถึงจะได้รับการยกเว้นค่าโดยสาร จากปัจจุบันที่ทุกคนขึ้นรถเมล์ฟรีได้หมด

“การปรับการแจกเงินคนชราและสวัสดิการต่างๆ ให้กับผู้มีรายได้น้อย จะทำให้รัฐบาลช่วยเหลือได้ตรงจุด ประหยัดงบประมาณ โดยการดำเนินการดังกล่าวจะทำไปควบคู่กับระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-เพย์เมนต์ ที่รัฐบาลเร่งดำเนินการอยู่ และในปี 2568 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัว รัฐบาลมีภาระการดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งความเสี่ยงของเศรษฐกิจในอนาคต” นายวิสุทธิ์ กล่าว

กระทรวงการคลังได้หามาตรการรองรับสังคมผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง นอกจากเบี้ยยังชีพแล้วยังมีการจัดตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อแรงงานนอกระบบมีการออมเพื่อเก็บเงินไว้ใช้หลังเกษียณ

นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นเงิน หรือสินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุ ที่สามารถให้ผู้สูงอายุที่มีบ้านเป็นของตัวเองมาแปลงเป็นเงินก้อนหรือเงินไว้ใช้จ่าย (รีเวิร์ส มอร์เกจ) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่มีลูกหลานดูแล

ภาพประกอบข่าว