posttoday

ธกส.ลุยขึ้นทะเบียนคนจนทั่วประเทศ

07 เมษายน 2559

ธ.ก.ส.เด้งรับนโยบายขึ้นทะเบียนคนจน สั่งพนักงานลุยขอข้อมูลเกษตรกรลูกค้า 20 ล้านราย

ธ.ก.ส.เด้งรับนโยบายขึ้นทะเบียนคนจน สั่งพนักงานลุยขอข้อมูลเกษตรกรลูกค้า 20 ล้านราย

นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.เตรียมเดินหน้าตามนโยบายของกระทรวงการคลัง ที่ต้องการให้ ธ.ก.ส.และสถาบันการเงินเฉพาะรับขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2559 เนื่องจาก ธ.ก.ส.ที่มีฐานลูกค้าเกษตรกรมากถึง 5 ล้านครัวเรือน หรือคิดเป็นเกษตรกรมากกว่า 20 ล้านราย จากจำนวนครัวเรือนเกษตกรทั้งประเทศกว่า 7 ล้านครัวเรือน และหากดำเนินการขึ้นทะเบียนไปพร้อมกับธนาคารออมสิน ที่คาดว่าน่าจะมีฐานลูกค้ากว่า 15 ล้านราย น่าจะช่วยให้ภาครัฐสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้มีรายได้น้อยได้มากกว่า 60-70% จากทั้งประเทศ

นายลักษณ์ กล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้สาขาทั่วประเทศส่งเจ้าหน้าที่ที่เข้าสำรวจข้อมูลสินเชื่อให้ทำการสอบถามข้อมูลเพื่อทำการขึ้นทะเบียนเกษตรกรและสมาชิกในครอบครัวไปด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรอแบบฟอร์มการลงทะเบียนอย่างเป็นทางการที่จะมีรูปแบบคำถามที่จะตอบโจทย์การทำงานในโครงสร้างระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) ของรัฐบาล ที่มียุทธศาสตร์การทำงาน 5 ข้อ ซึ่งจะมีเรื่องการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย และการบูรณาการระบบสวัสดิการสังคม เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ดังกล่าวด้วย

"ได้มอบนโยบายให้สาขาส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจข้อมูลสินเชื่อ ให้ทำการขึ้นทะเบียนเกษตรกรและคนในครอบครัวไปด้วยเลย ข้อมูลที่ต้องสอบถามคือเรื่องความเป็นอยู่ รายได้ของทุกคน ซึ่งต้องรอแบบฟอร์มชุดคำถามเพื่อให้การกรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบออกไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งกระทรวงการคลังสั่งให้ ธ.ก.ส.ทำเรื่องนี้เป็นภารกิจสำคัญในปี 2559" นายลักษณ์ กล่าว

ก่อนหน้านี้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์รมว.คลัง กล่าวว่า จะเร่งหาข้อสรุป เรื่องการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากนั้นอีก 2-3 สัปดาห์ จะเปิดให้ประชาชนเข้ามาลงทะเบียนผ่านธนาคารของรัฐ เช่น ธ.ก.ส. และ ธนาคารออมสิน เบื้องต้นกำหนดเกณฑ์ ผู้ที่เข้าข่ายเป็นผู้ที่มีรายได้น้อยจะต้องมีรายได้ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท/วัน  และมีเงินฝากในบัญชีของธนาคารไม่เกิน 3 หมื่นบาท ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ที่เข้าเกณฑ์ ทั้งสิ้น 19 ล้านราย

รัฐบาลจะนำข้อมูลดังกล่าวไปเชื่อมโยงกับโครงการระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการ ซึ่งจะนำไปใช้ร่วมกับข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นเครื่องมือในการมอบสิทธิประโยชน์และความช่วยเหลือได้ตรงกลุ่ม ซึ่งประชาชนจะสามารถใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์เป็นสื่อในการรับเงินช่วยเหลือ และนำไปใช้จ่ายผ่านร้านค้าหรือนาไปใช้กับบริการต่างๆ ของภาครัฐตามที่รัฐบาลจะกำหนดต่อไป

ทั้งนี้  รัฐบาลต้องการที่จะช่วยเหลือสวัสดิการประชาชนกลุ่มคนรายได้น้อยได้อย่างตรงจุด ผ่านมาตรการต่างๆ และจ่ายเงินตรงให้กับประชาชน ทำให้รวดเร็วและปลอดภัย ไม่มีการชักเงินค่าใช้จ่ายใดๆ จากคนจน