ธปท.แจงนำทุนสำรองลงหุ้นไม่แตะเงินบริจาคหลวงตาบัว
ธปท.ชี้แจงการแก้ไข พ.ร.บ. ธปท.เพื่อขยายขอบเขตการลงทุนให้นำเงินสำรองระหว่างประเทศไปลงทุนในหุ้นได้ ไม่เกี่ยวกับเงินบริจาคของ”หลวงตามหาบัว” ยันจะดูแลให้ดีที่สุด
ธปท.ชี้แจงการแก้ไข พ.ร.บ. ธปท.เพื่อขยายขอบเขตการลงทุนให้นำเงินสำรองระหว่างประเทศไปลงทุนในหุ้นได้ ไม่เกี่ยวกับเงินบริจาคของ”หลวงตามหาบัว” ยันจะดูแลให้ดีที่สุด
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือชี้แจงต่อสื่อมวลชนและสาธารณะชน ถึงกรณีการแก้ไขพ.ร.บ.ธปท.ในการขยายขอบเขตการนำเงินสำรองประเทศไปลงทุนในตราสารทุนหรือหุ้นมรต่างประเทศได้ ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไปเมื่อเร็วๆนี้ ว่า ตามที่ได้มีผู้แสดงความห่วงใย กรณีที่จะมีการแก้ไข พ.ร.บ. ธปท. เพื่อขยายขอบเขตการลงทุนของเงินสำรองระหว่างประเทศ นั้น ธปท. ขอขอบคุณสำหรับความปรารถนาดี และข้อคิดเห็นทุกประเด็น และขอเรียนชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ดังนี้
1. เกี่ยวข้องเฉพาะบัญชีฝ่ายกิจการธนาคารของธปท.ไม่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์หนุนหลังธนบัตรออกใช้ในบัญชีทุนสำรองเงินตรา (ซึ่งเก็บรักษาทองคำและสินทรัพย์อื่น ที่ได้มาจากการบริจาคของคณะศิษย์หลวงตาพระมหาบัวฯ) บัญชีทุนสำรองเงินตราจะไม่ถูกกระทบจากการแก้ไข พ.ร.บ. ธปท.ในครั้งนี้แต่อย่างใด
2. เน้นรักษามูลค่าเงินสำรอง และบริหารเพื่อลดความเสี่ยง โดยธปท.ยึดมั่นในหลักการรักษามูลค่าและสภาพคล่องของเงินสำรองเป็นเป้าหมายหลักของการบริหาร ซึ่งจำเป็นต้องมีกลไกการบริหารความเสี่ยงที่ดี ที่ผ่านมาธปท.ได้ให้ความสำคัญต่อการบริหารความเสี่ยงมาโดยตลอด อาทิเช่น กระจายการถือในสกุลเงินตราต่างประเทศหลายๆสกุล กระจายประเภทสินทรัพย์ที่ถือครอง และใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงประเภทต่างๆ
แต่เพื่อเตรียมพร้อมรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนในตลาดการเงินโลก ที่นับวันจะสูงขึ้น ธปท. จึงขอขยายขอบเขตการลงทุนของเงินสำรองระหว่างประเทศจากปัจจุบันที่ลงทุนได้เฉพาะตราสารหนี้ และสกุลเงิน ให้ครอบคลุมสินทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับตราสารทุนหรือหุ้นด้วย เพราะการมีสินทรัพย์หลายประเภทที่ราคาไม่ได้เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน จะสามารถช่วยให้ความเสี่ยงโดยรวมของเงินสำรองระหว่างประเทศลดลงจากเดิม
ทั้งนี้ หลักการนี้เป็นที่ยอมรับกันในวงการการบริหารเงิน และเป็นแนวทางรักษามูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ในปัจจุบันธนาคารกลางหลายแห่งได้ลงทุนในตราสารทุนมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว อาทิ ธนาคารกลางมาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลีใต้ อิสราเอล สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และนอร์เวย์ เป็นต้น
3. การกำกับดูแลเป็นหัวใจสำคัญ การลงทุนของเงินสำรองมีกระบวนการกำกับดูแลในหลายระดับ ภายใต้กรอบกฎเกณฑ์ที่ละเอียด และชัดเจน และมีการคานอำนาจระหว่างผู้ทำหน้าที่บริหารความเสี่ยงกับผู้ทำหน้าที่ลงทุน และระหว่างฝ่ายจัดการกับคณะกรรมการ ธปท.กระบวนการกำกับดูแล มีกรอบกฎเกณฑ์ยึดมั่นในเป้าหมายหลักของการรักษามูลค่าและสภาพคล่องของเงินสำรอง
และเมื่อกฎหมายอนุญาตให้ลงทุนในสินทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับตราสารทุนได้ กรอบกฎเกณฑ์จะอนุญาตให้ลงทุนในสินทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับตราสารทุนเพียงส่วนเล็กน้อยเท่านั้นเพราะมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารความเสี่ยง ไม่ใช่เพื่อหวังหาผลตอบแทน
“ธปท. ยินดีรับฟังข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการดูแลรักษาเงินสำรองระหว่างประเทศมิให้เสื่อมค่า มีความมั่นคง และมีสภาพคล่องพร้อมทำหน้าที่ในฐานะเงินสำรองระหว่างประเทศได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ” หนังสือธปท.ระบุ
สำหรับฐานะการเงิน ของธปท.ที่ธปท.มีการรายงานล่าสุด ณ 3 มี.ค. 59 พบว่า บัญชี ธปท.มีสินทรัพย์ ที่รวมเงินสด เงินคราต่างประเทศ สิทธิไถ่ถอนเงิน หลักทรัพย์ในประเทศ หลักทรัพย์ต่างประเทศ เงินให้กู้ยืม มูลค่ารวม 4.4 ล้านล้านบาท ด้านบัญชีทุนสำรองเงินตรา ที่ใช้หนุนหลังการพิมพ์ธนบัตรออกใช้ ประกอบด้วย เงินตราต่างประเทศ ทองคำ หลักทรัพย์ต่างประเทศมีมูลค่ารวม 2.6 ล้านล้านบาท และบัญชีกิจการธนาคาร ที่ประกอบด้วยเงินสดและเงินฝาก สินค้าคงเหลือ ที่ดิน อาคาร อุปกรณ์ และสินทรัพย์อื่นๆมีมูลค่ารวม 1.3 หมื่นล้านบาท


