สั่งธอส.เน้นให้กู้คนรายได้น้อย สินเชื่อไม่เกินรายละ3ล้านบาท

คลังสั่งธอส.เน้นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อย ให้กู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท/ราย

รัฐบาลกำลังกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนทุกระดับ ล่าสุด กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เสนอแนวนโยบายให้ธนาคารอาคาร สงเคราะห์ (ธอส.) เพิ่มบทบาทการเป็นธนาคารเพื่อที่อยู่อาศัย โดยสนับสนุนการเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัย 5 ระดับรายได้ ได้แก่ ผู้มีรายได้น้อยที่ไม่มีศักยภาพ ผู้มีรายได้น้อยที่มีศักยภาพ ผู้มีรายได้ค่อนข้างต่ำถึงปานกลาง ผู้มีรายได้ปานกลาง และผู้มีรายได้สูง

“ทำให้ ธอส.พัฒนานวัตกรรมสำหรับผู้มีรายได้น้อย และต้องรักษาความเป็นผู้นำในการให้สินเชื่อแก่ผู้ที่เข้าไม่ถึงการบริการของธนาคารพาณิชย์ ขณะที่ผู้มีรายได้สูงก็ยังจำเป็นต้องให้บริการเพื่อเป็นแหล่งรายได้ โดยให้กำหนดสัดส่วนในการให้บริการแต่ละกลุ่มให้เกิดความชัดเจน” แหล่งข่าวเปิดเผย

ทั้งนี้ สศค.ต้องการให้ ธอส.เน้นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ในกลุ่มที่ต้องการสินเชื่อไม่เกิน 3 ล้านบาท/ราย ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นลูกค้าส่วนใหญ่ของ ธอส. เพราะมีสัดส่วนมากถึง 89% ของลูกค้าทั้งหมด

ปัจจุบัน ธอส.มีส่วนแบ่งการตลาดสินเชื่อบ้านอยู่ที่ระดับ 26% และในระยะต่อไปให้มุ่งเข้าสู่กลุ่มที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์และให้คำปรึกษาแก่ลูกค้ารายย่อย

ในขณะเดียวกัน ธอส.ควรจะต้องศึกษาและพัฒนาเรื่องสินเชื่อบ้านแบบย้อนกลับ หรือ Reverse Mortgage เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุในอนาคต

สำหรับสินเชื่อบ้านแบบย้อนกลับจะเป็นสินเชื่อบ้านสำหรับผู้สูงอายุเท่านั้น เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ไม่มีกระแสเงินเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและไม่ต้องการขายบ้าน

วงเงินกู้ที่จะได้รับขึ้นอยู่กับอายุของผู้กู้ (ยิ่งอายุมาก ยิ่งได้รับวงเงินมาก) มูลค่าบ้านที่เป็นหลักประกันและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ส่วนใหญ่การกู้จะสิ้นสุดลง เมื่อผู้กู้เสียชีวิต มีการชำระหนี้คืนทั้งหมด หรือไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นแล้ว

สุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานล่าสุด ณ วันที่ 31 ต.ค. 2558 มีสินเชื่อปล่อยใหม่ได้กว่า 1.19 แสนล้านบาท คาดว่าทำได้ตามเป้าหมาย 1.49 แสนล้านบาท

สำหรับในปี 2559 ธอส.ได้ตั้งเป้าเพิ่มสินเชื่อปล่อยใหม่เป็น 1.5 แสนล้านบาท มีเงินฝากคงค้างกว่า 7 แสนล้านบาท มียอดสินเชื่อคงค้างรวมกว่า 8.4 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จากพอร์ตการปล่อยสินเชื่อของ ธอส. พบว่ามีลูกหนี้ที่กู้ซื้อบ้านราคา 1-3 ล้านบาท/ราย มีกว่า 4.38 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 53% ลูกหนี้ที่กู้ซื้อบ้านน้อยกว่า 1 ล้านบาท/ราย มีกว่า 3.01 แสนราย คิดเป็นสัดส่วน 36% ลูกหนี้ที่กู้ซื้อบ้าน 3-10 ล้านบาท/ราย มี 8.65 หมื่นราย คิดเป็นสัดส่วน 10% และลูกหนี้ที่กู้ซื้อบ้านมากกว่า 10 ล้านบาท/ราย มี 3,857 ราย คิดเป็นสัดส่วนเพียง 1%

ขณะเดียวกัน มียอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ที่ 5.51% ส่วนกำไร 10 เดือน อยู่ที่ 7,600 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าทั้งปีจะทำกำไรได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8,800 ล้านบาท ธนาคารได้ตั้งสำรองหนี้ไว้แล้ว 101% ด้านเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (บีไอเอส) อยู่ในระดับ 15.46%

สำหรับความคืบหน้าของการจัดทำ “มาตรการเพื่อส่งเสริมการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง” ว่า ล่าสุด ณ วันที่ 1 ธ.ค. 2558 มีจำนวนผู้แสดงความประสงค์ยื่นคำขอกู้ 1.5 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็นยื่นเอกสารครบถ้วนและเข้าสู่กระบวนการพิจารณาสินเชื่อ 9,971 ล้านบาท คิดเป็น 6,741 ราย ได้รับการอนุมัติเงินกู้แล้ว 5,270 ล้านบาท คิดเป็น 3,654 ราย

ทั้งนี้ ธอส.คาดว่าจะสามารถอนุมัติเงินกู้ถึง 1 หมื่นล้านบาท ตามกรอบวงเงินของโครงการระยะแรกได้ภายในกลางเดือน ธ.ค. 2558 และเตรียมเสนอให้คณะกรรมการธนาคารพิจารณาขยายกรอบวงเงินของมาตรการเพิ่มอีก 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากยังมีผู้ประสงค์ยื่นคำขอสินเชื่อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับรัฐบาลมีมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนอง ทำให้มีความต้องการสินเชื่อมากขึ้น