posttoday

เพิ่มกู้กองทุนหมู่บ้าน2หมื่นล้าน

31 สิงหาคม 2558

เพิ่มปล่อยกู้ปลอดดอกกองทุนหมู่บ้านเป็น 6 หมื่นล้าน หวั่นกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ขึ้น

เพิ่มปล่อยกู้ปลอดดอกกองทุนหมู่บ้านเป็น 6 หมื่นล้าน หวั่นกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ขึ้น

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงการคลังได้เรียกผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน ให้ปล่อยกู้ไม่คิดดอกเบี้ยกับกองทุนหมู่บ้านให้มากที่สุด จากเดิมจะให้ปล่อยรวมกัน 4 หมื่นล้านบาท แต่ได้ขอให้ขยายวงเงินเพิ่มเป็น 6 หมื่นล้านบาท เพื่อไปปล่อยกู้กับสมาชิกของกองทุนเพื่อให้นำไปใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยรายละเอียดทั้งหมดจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ รัฐบาลจะจ่ายชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้กับธนาคารทั้งสองแห่งเป็นเวลา 2 ปี หลังจากนั้นหากกองทุนหมู่บ้านยังไม่สามารถชำระคืนได้ก็ให้เจรจากับธนาคารโดยตรง

แหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่า คลังได้ขอให้เพิ่มวงเงินปล่อยกู้กองทุนหมู่บ้าน เพราะเห็นว่ามีกองทุนหมู่บ้านจำนวนมากที่มีผลการดำเนินงานดี ก็จะเพิ่มวงเงินปล่อยกู้ให้จากเดิมที่คิดไว้ 1 ล้านบาท เป็นสูงสุดได้ไม่เกิน 2 ล้านบาท ตามศักยภาพของกองทุนแต่ละแห่ง ซึ่งจะช่วยให้เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากตอนนี้เศรษฐกิจชะลอตัวมาก โดยเฉพาะการบริโภค จึงต้องดำเนินการเร่งด่วนเพื่อให้การบริโภคของผู้มีรายได้น้อยฟื้นตัว

นอกจากนี้ คลังยังพิจารณาว่าเงินกู้ที่สมาชิกกองทุนกู้ไปห้ามไปใช้หนี้เก่าของกองทุนหมู่บ้าน  รวมถึงยังหาแนวทางไม่ให้ไปใช้หนี้ในส่วนอื่นๆ ด้วย เพื่อให้นำไปใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจจริงๆ แต่ก็ยอมรับว่าวิธีการดำเนินการเป็นไปได้ยาก

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะเสนอพร้อมกับมาตรการของกระทรวงมหาดไทยที่จะแจกเงินตำบลละ 5 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ว่าฯ ไปดำเนินการโครงการขนาดเล็กที่ทำได้เร็วและเป็นประโยชน์กับประชาชน ซึ่งเมื่อรวมเม็ดเงินจากทั้งสองมาตรการคาดว่าจะมีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจถึง 1 แสนล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลังที่เหลือ

แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลยังคงมาตรการต่อยอดเงินกองทุนหมู่บ้านที่ให้ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสินปล่อยกู้กับกองทุนหมู่บ้าน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 5% ต่อไป เนื่องจากที่ผ่านมามีกองทุนกู้ไปแล้วกว่า 6,000 ล้านบาท เพื่อไปปล่อยกู้ให้กับสมาชิก 7-10% ซึ่งเป็นอีกช่องทางที่จะเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของผู้มีรายได้น้อย

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้ติดตามการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติอย่างใกล้ชิด และเป็นห่วงในเรื่องการนำเงินไปใช้ที่อาจไม่ก่อให้เกิดความยั่งยืน และสร้างภาระในการหาเงินมาชำระคืนกองทุน เช่น ใช้จ่ายซื้อสินค้าของใช้ฟุ่มเฟือย จึงอยากให้พี่น้องประชาชนวางแผนการใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด