ครม.เห็นชอบระงับนำเข้ามะพร้าว 3เดือน หวังแก้ปัญหาราคาตกต่ำ

ครม.เห็นชอบระงับการนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อแก้ปัญหาราคาในประเทศตกต่ำ

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ระงับการนำเข้ามะพร้าวทุกประเภทจากต่างประเทศ 3 เดือน ตั้งแต่ ส.ค.-ต.ค. 2561 เพื่อแก้ไขปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำเนื่องจากในช่วงฤดูฝนผลผลิตในประเทศออกมามากและผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นจาก754 กก.ต่อไร่เป็น 783 ตันต่อไร่ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 3.27 % ซึ่งก่อนหน้าที่มีการนำเข้า เนื่องจากผลผลิตในประเทศประมาณ 8.7แสนตันต่อปี แต่ความต้องการบริโภคประมาณ 1.2 ล้านตันต่อปีและก่อนหน้ามีปัญหาเรื่องแมลงศัตรูพืชระบาด ทำให้ราคามะพร้าวขึ้นที่ราคาประมาณ 13 บาทต่อกิโลกรัม ปัจจุบันอยู่ที่ราคา 5.9 บาทต่อกก.

"ที่ประชุมที่ประชุมรับทราบ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และไม่มีการพูดถึงราคามะพร้าวแต่อย่างใด เพียงแต่ราคาสาเหตุที่ต้องนำเข้าเมื่อปี 60/61 และพาณิชย์ระบุว่าไม่ได้ให้นำเข้าเกินจำเป็น แต่ให้นำเข้าตามปริมาณที่ต้องการใช้ ซึ่งการงะงับชั่วคราวคาดว่าจะช่วยดึงราคาขึ้นมาได้"พล.ท.สรรเสริญกล่าว

ทั้งนี้การระงับการนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศ เนื่องจากคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืช ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานได้ประชุมเมี่อวันที่ 16 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมาได้มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวและมีมติออกมา โดยในปี 60 ไทยนำเข้ามะพร้าว 4,625 ล้านบาทหรือประมาณ410,839 ตัน โดยนำเข้าจากอินโดนีเซีย รองลงมาเวียดนาม มาเลเซียและอื่นๆ นำเข้าเพิ่มจากปี 59ที่นำเข้าประมาณ 171,848 ตัน และในปี 61 (ม.ค.-พ.ค.)นำเข้า 168,797 ตัน

อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวฝ่ายเกษตรกรที่เป็นตัวแทนในคณะกรรมการเห็นว่า เป็นการแก้ไขที่ไม่ถูกจุด เพราะแม้จะระงับการนำเข้า ก็ไม่สามารถดึงราคามะพร้าวที่ตกลงมากเพราะเอกชนได้นำเข้ามาจำนวนมากเต็มโค้วต้าที่ขอและพบว่ามีการลักลอบนำเข้ามาอีกจำนวนมาก โดยกรมการค้าต่างประเทศได้อนุมัติให้นำเข้าในปี 60/61 ถึง 5 แสนตัน หรือ 500 ล้านผล ซึ่งขณะนี้ได้นำเข้ามาแล้วทั้งหมดโดยใน ม.ค.-เม.ย.นำมาเข้ามา 150 ล้านผล ครบเต็มจำนวน 500 ล้านผล นอกจากนั้นยังอนุญาตให้นำกะทิสดอีก 5 หมื่นต้น หรือ 50 ล้านลิตร และคาดว่าสต๊อกเอกชนจะมีประมาณ 300-400 ล้านผล และล้งมะพร้าวของไทยก็มีมะพร้าวเก็บประมาณ 400 ล้านลูก

ขณะนี้ราคามะพร้าวจังหวัดประจวบฯอยู่กก.ละ 5 บาท ชุมพร 2 บาท สุราษฏร์ 2.50 บาท และนครศรีธรรมราชประมาณ 2 บาทต่อผล ต่างกันที่ราคาขนส่ง โดยราคาต้นทุนที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.)ประมาณอยู่ที่ 7.50-8 บาทต่อผล