posttoday

ช่อง8ค้านทีวีดิจิทัลคืนสัมปทานหลังขาดทุน

24 กันยายน 2560

ผู้บริหารช่อง 8 ขวางคืนไลเซนส์ทีวีดิจิทัล ชี้ไม่ใช่ทางออกที่ถูก แนะรัฐปฏิบัติตามกฎหมาย

ผู้บริหารช่อง 8 ขวางคืนไลเซนส์ทีวีดิจิทัล ชี้ไม่ใช่ทางออกที่ถูก แนะรัฐปฏิบัติตามกฎหมาย

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส ผู้ดำเนินธุรกิจสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 เปิดเผยว่า กรณีที่มีผู้ประกอบการส่วนหนึ่งจะขอคืนใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ทีวีดิจิทัล หรือไลเซนส์ โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับความพยายามจะผลักดันให้มีการใช้มาตรา 44 เพื่อเปิดช่องให้คืนไลเซนส์ทีวีดิจิทัล เพราะไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้องและต้องคิดให้รอบคอบ เนื่องจากผู้ประกอบการทุกรายมีการวางแผนธุรกิจตามเงื่อนไขข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง (TOR) ตอนเข้าประมูล หากไปแก้ไขกติกาอาจทำให้เกิดผลได้ผลเสีย และเอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการบางราย

นอกจากนี้ ยังทำรัฐเสียรายได้ ซึ่งในส่วนของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมสื่อตอนนี้ต้องมองเป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจที่ต้องมีทั้งผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จและยังไม่สำเร็จ หากการดำเนินธุรกิจมีปัญหาก็ต้องแก้กันไป แต่หากจะมีมาตรการเข้ามาช่วยผู้ประกอบการจริงๆ ควรคิดแนวทางที่ทั่วถึงกับผู้ประกอบการทุกราย เพราะความจริงในสภาพเศรษฐกิจและการแข่งขันที่รุนแรง ผู้ประกอบการทุกรายก็เจอเช่นเดียวกัน

“ตอนนี้ผู้ประกอบการจะพยายามหาทางออกให้กับสถานการณ์ที่ยากลำบากของตัวเองตามวิถีทางธุรกิจ ดังที่เห็นการหาทุนใหม่ของหลายๆ ช่องเพื่อดำเนินการต่อไปได้เอง ดังนั้นภาครัฐควรมีบทบาทหน้าที่ กำกับ ดูแล และสนับสนุนส่งเสริมผู้ประกอบการ ขณะเดียวกันก็ต้องระวังการทำให้เกิดผลกระทบกับการแข่งขันและการสร้างปัญหาใหม่ๆ ให้ผู้ประกอบการเพราะธุรกิจทีวีดิจิทัลเป็นการลงทุนเผาเงินทิ้งทุกวินาที ไม่เหมือนกับธุรกิจอื่นๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ ทำธุรกิจขาดทุน ไปไม่รอด ก็ยังมีทรัพย์สินที่เป็นสิ่งปลูกสร้างเหลือให้เห็นและมาปัดฝุ่นทำต่อได้”นายสุรชัย กล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เริ่มเห็นภาพชัดเจนว่าใครจะจอดและใครจะไปต่อ ขณะเดียวกันก็มีบางช่องที่แม้จะเห็นว่าอยู่ในสถานะทางการเงินไม่ดี ผลกำไรไม่มี เรตติ้งไม่มี แต่ก็สามารถประคองตัวให้ผ่านพ้นไปได้เพราะสายป่านยาว ทั้งนี้ ช่องที่เรตติ้งดีก็ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จว่ารอดและไปต่อได้ เนื่องจากผลกำไรเท่านั้นที่เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จและการไปต่อในธุรกิจนี้ ซึ่งภาพชัดเจนตอนนี้คือ ช่องที่เกาะกลุ่มมีเรตติ้ง5 อันดับแรกสามารถยืนอยู่บนธุรกิจนี้ได้แน่นอน แต่ที่เหลืออีกกว่า 10 ช่อง แนวโน้มอาจจะหายไปจากตลาด