posttoday

ม.สแตนฟอร์ดสร้าง AI สามารถบอกได้ว่าใครเป็นเกย์จากภาพถ่าย

09 กันยายน 2560

มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดสร้าง AI ที่สามารถระบุได้ว่า ใครมีพฤติกรรมรักเพศเดียวกัน จากภาพถ่ายใบหน้า แต่นวัตกรรมดังกล่าวกลับถูกตั้งคำถามว่าอาจละเมิดความเป็นส่วนตัว

มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดสร้าง AI ที่สามารถระบุได้ว่าใครมีพฤติกรรมรักเพศเดียวกัน จากภาพถ่ายใบหน้า แต่นวัตกรรมดังกล่าวกลับถูกตั้งคำถามว่าอาจละเมิดความเป็นส่วนตัว

เว็ปไซต์เดอะการ์เดี้ยนรายงานว่า - ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดของสหรัฐฯ ทำสร้าง AI หรือปัญญาประดิษฐที่สามารถระบุภาพถ่ายจากใบหน้าได้ว่าใครเป็นคนรักเพศเดียวกัน โดยอัลกอริธึมจะสามารถคำนวนลักษณะใบหน้า เพื่อแบ่งระหว่างผู้ชายรักต่างเพศและชายรักร่วมเพศได้อย่างถูกต้องถึงร้อยละ 81 เปอร์เซ็นต์ และแยกผู้หญิงรักต่างเพศออกจากเลสเบี้ยนได้ถูกต้องร้อยละ 74 ในขณะที่มนุษย์คาดคะเนถูกเพียงร้อยละ 61 และ 54

โดยผลการวิจัยถูกตีพิมพ์ลงในนิตยสารวิชาการด้านจิตวิทยาบุคลิกภาพและสังคม ระบุว่า AI นี้ได้เก็บข้อมูลภาพถ่ายใบหน้าของผู้ชายและผู้หญิงมากกว่า 35,000 ภาพที่โพสต์เป็นสาธารณะบนเว็ปไซต์หาคู่ในสหรัฐ และได้วิเคราะห์ลักษณ์เฉพาะของใบหน้าด้วยเครือข่ายประสาทเทียมระดับลึก (deep neural networks) ซึ่งเป็นระบบคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน

งานวิจัยดังกล่าวพบว่าชายและหญิงที่เป็นเกย์นั้นส่วนใหญ่แล้วจะมีองค์ประกอบทางใบหน้าที่ไม่ตรงกับแบบแผนนัก โดยพบว่าพบว่า เกย์และเลสเบี้ยนจะมีการแสดงออกบนใบหน้าที่แตกต่างไป หรือลักษณะการไว้หนวดเคราต่างกับคนอื่น รวมถึง ลักษณะบนใบหน้าบางอย่าง เช่น เกย์จะมีกรามแคบกว่า จมูกยาวกว่า และหน้าผากกว้างกว่า ส่วนเลสเบี้ยนก็จะมีกรามใหญ่กว่า และหน้าผากเล็กกว่า  ทั้งนี้ชายที่เป็นเกย์นั้นมีองค์ประกอบ สีหน้า และลักษณะการดูแลตัวเอง (ในที่นี้เช่น ทรงผม คิ้ว หนวด) ทีมีความเป็นผู้หญิงมากกว่าชายที่นิยมเพศตรงข้าม และในทำนองเดียวกันหญิงที่เป็นเกย์นั้นก็มักจะมีองค์ประกอบที่มีความเป็นชายมากกว่าหญิงอื่นๆ

นอกจากนี้นักวิจัยยังระบุว่า นี่อาจจะเป็นการสนับสนุนทฤษฎีว่า ความหลากหลายทางเพศเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด อยู่ในยีน หรือเป็นผลมาจากสารเคมีที่กระทบกับฮอร์โมนมาตั้งแต่เกิด

อย่างไรก็ตาม การวิจัยนี้ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า การเก็บข้อมูลวิจัยบกพร่อง เนื่องจากไม่มีการเก็บข้อมูลของคนผิวสี และไม่มีการพิจารณาความหลากหลายทางเพศอื่นๆเช่น ไบเซ็กชวลหรือคนข้ามเพศ

อย่างไรก็ตาม ยังมีเสียงวิจารณ์ว่า เป็นการตีตราและแปะป้ายคนที่มีพฤติกรรมรักเพศเดียวกัน จากรูปลักษณ์ภายนอก ยิ่งไปกว่านั้น AI นี้ยังละเมิดความเป็นส่วนตัวของประชาชนด้วย เพราะบางประเทศที่มีกฎหมายลงโทษพฤติกรรมรักเพศเดียวกัน อาจใช้เทคโนโลยีนี้ไปไล่ปราบปรามคนรักเพศเดียวกัน หรือหากมีการเปิดให้คนใช้ทั่วไป อาจมีการนำภาพของคนอื่นไปให้ AI ตรวจสอบโดยไม่ได้รับอนุญาต จนอาจเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้

ภาพ : RT