posttoday

"แสนรู้" (Zanroo) บุกตลาดโซเชียล

14 กรกฎาคม 2560

การสอดส่องข่าวลือ ข่าวร้าย กระแสกระหน่ำไลค์แอนด์แชร์บนโลกโซเชียล จำเป็นต้องมีเครื่องมือเข้ามาช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานมากขึ้น

โดย...ณัฏฐ์ธยาน์ สุทธิเจริญ

การสอดส่องข่าวลือ ข่าวร้าย กระแสกระหน่ำไลค์แอนด์แชร์บนโลกโซเชียลหากทำผ่านพนักงานองค์กรเพียงอย่างเดียวคงไม่พออีกแล้ว เพราะโลกออนไลน์เดินหน้าไปรวดเร็วขึ้นมากดังนั้น การหาเครื่องมือเข้ามาช่วยสอดส่องปัญหาในแง่ลบบนโลกออนไลน์ของแบรนด์ จำเป็นต้องมีเครื่องมือเข้ามาช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานมากขึ้น

ชิตพล มั่งพร้อม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Zanroo ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจนี้ว่า หลังสำเร็จการศึกษาจากวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก็ได้ประกอบธุรกิจมาหลายประเภททั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย บริการอาหารและเครื่องดื่ม จนเห็นจุดเปลี่ยนและได้ชักชวนเพื่อน อุดมศักดิ์ ดอนขำไพร เข้ามาช่วยทำธุรกิจ แสนรู้ เพราะมั่นใจว่าจะช่วยคิดค้นวิธีแก้ปัญหาให้กับองค์กรทางธุรกิจและสร้างความเข้าใจในข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย เพื่อให้องค์กรนำข้อมูลไปใช้งานได้

“ขณะนั้น ผมได้ชวนอ๋อม ซึ่งกำลังมีอาชีพการงานที่มั่นคง เพราะเขามีความสามารถด้านซอฟต์แวร์และเป็นผู้ช่วยนักวิจัยให้กับเนคเทค มาทำแสนรู้ด้วยกัน ซึ่งอ๋อมยินดีลาออกจากงานมาทำด้านนี้เต็มตัว ก่อนที่ผมจะตัดสินใจลาออกจากงานเสียอีก”

แสนรู้ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2556 โดยร่วมกันเริ่มต้นที่กรุงเทพฯ ทำสาขาแรกที่มาเลเซียซึ่งเป็นห้องแถวเก่าๆ แต่ก็ขยายออฟฟิศไปในหลายประเทศได้ เพียงเปิดให้บริการ 1 เดือนแรก บริษัทก็สามารถมีรายได้แตะหลักล้านบาทแรกผ่าน 3 กลุ่มธุรกิจ คือ กลุ่มแก๊ส กระจกรถยนต์ติดฟิล์มและคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะบอกว่าตัวเองเป็นสตาร์ทอัพ แต่หลังเดินทางธุรกิจและมีรายได้ที่มั่นคงมาสักระยะหนึ่งแล้ว กลับเพิ่งเริ่มคิดที่จะระดมทุนในครั้งแรก

เราต้องการที่จะบุกตลาดจีนให้ได้ หลังศึกษาข้อมูลมาประมาณ 2 ปี แต่การเริ่มต้นอาจต้องใช้เงินลงทุนสูง ซึ่งการได้เงิน 7.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะช่วยให้เราเดินหน้าแข่งขันในกลุ่มอุตสาหกรรม Martech & AdTech ระดับโลก ที่มีมูลค่าตลาดกว่า 24.18 ล้านดอลลาร์ ได้ดีขึ้น แต่เพียงครึ่งปีแรก กวาดรายได้ไปแล้ว 77 ล้านบาท ถือว่าโตขึ้น 2 เท่า จึงคาดว่าสิ้นปีนี้จะทำรายได้ทั่วโลก 260 ล้านบาทได้ไม่ยาก

ทั้งนี้ ชิตพล ตั้งเป้าว่าในปี 2562 บริษัทจะก้าวขึ้นเป็นสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นได้ โดยยังถือหุ้นหลักอยู่มากกว่า 50% เพราะมีความพร้อมทั้งด้านทีมงาน พาร์ตเนอร์ กลยุทธ์และโปรดักต์กำลังเป็นที่ต้องการระดับโลก แม้ว่าจะมีคู่แข่งระดับโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้กว่า 300 ราย แต่ในไทยยังมีน้อย รวมทั้งการมีพาร์ตเนอร์ที่ดียิ่งส่งเสริมให้บริษัทเป็นที่จับตามอง

ก้าวสำคัญของแสนรู้ที่ต้องการเดินหน้า คือการเปิดให้บริการใน 40 ประเทศทั่วโลก หลังเปิดให้บริการไปแล้วกว่า15 ประเทศ อย่างไทย มาเลเซีย สิงคโปร์อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง ออสเตรเลีย ศรีลังกา ปากีสถานและอังกฤษ มีทีมงานทั่วโลกกว่า 150 คน และเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอีกกว่า 400%

ด้วยจุดเด่นของบริการด้านซอฟต์แวร์ ได้แก่ Social Listening และ Social Engagement ที่เข้าถึงข้อมูลบนโซเชียลมีเดียได้แบบเจาะลึก และเข้าถึงภาษาท้องถิ่นทุกภาษาทั่วโลก ทำให้แบรนด์ที่มีสาขาในต่างประเทศรับทราบว่ามีคนกล่าวถึงแบรนด์อย่างไร แม้ภาษาจะแตกต่างกัน ทั้งยังมีการให้คำปรึกษา เพื่อนำข้อมูลเชิงลึกที่ได้ไปต่อยอดเพื่อตอบสนองผลกระทบและวางกลยุทธ์ด้านการตลาดให้เกิดประโยชน์ที่ดีต่อแบรนด์

“สิ่งที่แบรนด์ต่างๆ ต้องการจากเรา คือการตอบสนองอย่างทันท่วงทีเมื่อเกิดปัญหา ซึ่งซอฟต์แวร์จะตรวจพบได้แบบเรียลไทม์ แจ้งเตือนให้ลูกค้าทราบโดยเร็วเพื่อพร้อมรับมือกับกระแสต่างๆ” ชิตพล กล่าว

ด้านลูกค้าของแสนรู้ ส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ชั้นนำในทุกธุรกิจทั้งธนาคาร ยานยนต์ โทรคมนาคม อี-คอมเมิร์ซ การบินและสินค้าอุปโภคบริโภค รวมแล้วกว่า 300 ราย ต่างก็เป็นลูกค้าของแสนรู้ทั้งสิ้น ซึ่งบริษัทมีแผนจะเจาะกลุ่มเอสเอ็มอีเพิ่มเติมหลังบริการใหม่ ที่ชื่อว่า อรุณ (Arun) เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ

อุดมศักดิ์ ดอนขำไพร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและผู้ก่อตั้ง Zanroo กล่าวเสริมว่า อรุณ ถูกออกแบบมาเพื่อประมวลผลข้อมูลมหาศาล หรือบิ๊กดาต้า เพื่อเป็นจุดเปลี่ยนในการยกระดับธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลก

จุดแข็ง 6 ด้านของอรุณ คือ Targeted Listening, Multi-Language, Real-Time Insight, Intuitive user Control, Data Security, All in One Product จะช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงโลกโซเชียลสำหรับทุกธุรกิจได้มากขึ้น

ด้านราคาสำหรับการให้บริการเริ่มต้นที่ 7 หมื่น หรือ 2 แสน หรือ 3.5 แสนบาท หรือถ้าเป็นแบบกำหนดใช้งานเองขั้นสูงจะแตะ 3 แสนบาท ซึ่งลูกค้าอย่าง ไทยพาณิชย์ กสิกรไทย เอสซีจี ซีพี เนสท์เล่ เรดบูล ต่างก็เป็นกลุ่มท็อปสเปนเดอร์ เพื่อใช้บริการแบบครบวงจรอย่างการกรองข้อมูล สรุปประเด็นต่างๆ บนโลกออนไลน์และเป็นคอลเซ็นเตอร์ด้วย

ทั้งนี้ การเจาะกลุ่มเอสเอ็มอี คาดว่าจะมีแพ็กเกจพิเศษออกมาช่วงปลายปี ด้วยราคาหลักหมื่นต้นๆ เพื่อช่วยให้ทุกกลุ่มธุรกิจสามารถใช้งานเครื่องมือของแสนรู้ได้สะดวกขึ้น

ต้องยอมรับว่าการทำธุรกิจในปัจจุบัน เรื่องของชื่อเสียงบนโลกออนไลน์มีความสำคัญมากขึ้น ทำให้แบรนด์ชั้นนำต่างให้ความสนใจกับการเตรียมกลยุทธ์ออนไลน์และรับมือกับกระแสต่างๆ มากขึ้น เพราะกระแสของธุรกิจไม่ว่าจะแง่ดีหรือร้าย ล้วนเกิดขึ้นบนโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว ซึ่งแบรนด์ที่ตอบสนองบนโลกออนไลน์อย่างรวดเร็วนั้น จะช่วยเพิ่มโอกาสทางการขาย และสร้างความภักดีต่อแบรนด์ได้มากขึ้น