posttoday

หุ่นยนต์เริ่มบุกธุรกิจอาหาร กรุยทางสู่การผลิต-บริการรูปแบบใหม่

27 มีนาคม 2560

ธุรกิจอาหารถือเป็นภาคส่วนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการทดลองและพัฒนาการใช้งานหุ่นยนต์

โดย...นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์

ในช่วงไม่นานนี้ หลายภาคอุตสาหกรรมเดินหน้าทดลองและพัฒนาหุ่นยนต์อย่างต่อเนื่อง เพื่อหวังเอามาใช้งานแทนพนักงาน ทั้งเพื่อลดรายจ่าย เพิ่มความรวดเร็วในการผลิต และสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ลูกค้า โดยธุรกิจอาหารถือเป็นภาคส่วนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการทดลองและพัฒนาการใช้งานหุ่นยนต์

แม้หุ่นยนต์ยังคงไม่สามารถมาแทนที่เชฟในร้านอาหารที่เป็นคนจริงๆ ได้ แต่ ล่าสุดนั้น หุ่นยนต์ทดลองเริ่มมีความก้าวหน้ามากขึ้นในการทำอาหารแบบง่ายๆเช่น แฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่า รวมถึงยังสามารถชงกาแฟได้ด้วย

เมื่อต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยี เทคครันช์ รายงานว่า มิโซ โรโบติกส์ บริษัทผลิตหุ่นยนต์ในสหรัฐ สร้าง Flippy หุ่นที่ออกแบบมาเพื่อย่างเนื้อแฮมเบอร์เกอร์โดยเฉพาะ โดยแขนของหุ่นจะทำหน้าที่ย่างและกลับชิ้นเนื้อ ขณะที่กล้องและเซ็นเซอร์วัดความร้อนจะคอยตรวจสอบอุณหภูมิชิ้นเนื้อ แล้วสั่งการให้คีบชิ้นเนื้อขึ้นมาเมื่อสุกได้ที่แล้ว

มิโซ โรโบติกส์ ระบุว่า Flippy น่าจะช่วยธุรกิจฟาสต์ฟู้ดประหยัดเวลาและปรับปรุงคุณภาพอาหารได้ดียิ่งขึ้น หลังได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้บริโภคจำนวนมากว่า คุณภาพอาหารของร้านฟาสต์ฟู้ดยังไม่ดีเท่าที่ควร โดย คาลิเบอร์เกอร์ แฟรนไชส์ร้านฟาสต์ฟู้ดในสหรัฐ เตรียมนำ Flippy ไปใช้งานจริงในอีก 2 ปีข้างหน้านี้

ขณะเดียวกัน บีเฮ็กซ์ สตาร์ทอัพแห่งหนึ่งในซิลิคอนวัลเลย์ของสหรัฐ สร้างหุ่นยนต์ทำพิซซ่าด้วยการใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ชื่อ Chef 3D ขึ้นมาเช่นกัน โดยโปรเจกต์ดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซ่า เพื่อทำอาหารที่อร่อยและรับประทานง่ายสำหรับนักบินอวกาศระหว่างปฏิบัติภารกิจที่ดาวอังคาร

บิซิเนส อินไซเดอร์ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ในปีนี้ Chef 3D จะเริ่มนำมาใช้งานจริงทั่วสหรัฐทั้งที่สวนสนุก สนามกีฬา และห้างสรรพสินค้า โดยหุ่นยนต์ดังกล่าวทำพิซซ่าได้รวดเร็วกว่ามนุษย์หลายเท่า ซึ่งใช้เวลาทำพิซซ่าขนาด 12 นิ้วเพียง 6 นาทีเท่านั้น

นอกเหนือจากการทำอาหารง่ายๆ แล้ว หุ่นยนต์ยังสามารถทำหน้าที่เสมือนบาริสต้าชงกาแฟให้ลูกค้า โดยร้านคาเฟ่เอ็กซ์ ในเมืองซานฟรานซิสโกของสหรัฐ คือผู้บุกเบิกบริการดังกล่าว ซึ่งมีขั้นตอนไม่ยุ่งยากเพียงแค่เลือกเมนูจากแอพพลิเคชั่นของทางร้าน เลือกชนิดเมล็ดกาแฟ และส่วนผสมอื่นๆ เพิ่มเติม จากนั้นกดจ่ายเงิน แล้วหุ่นยนต์บาริสต้าจะเริ่มชงกาแฟทันทีภายในเวลาประมาณ 20 วินาที

ขณะเดียวกัน บริการส่งอาหารหลายแห่งในสหรัฐ เริ่มนำหุ่นยนต์มาใช้ส่งอาหารให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดคือ Yelp/Eat24 ซึ่งให้บริการดังกล่าวในเมืองซานฟรานซิสโกตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

การนำหุ่นยนต์มาใช้ในธุรกิจอาหารยังเกิดขึ้นในประเทศจีนด้วย โดยร้านอาหารในเมืองเฉิงตูและเมืองเหอเฟย ใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าในร้านมานับตั้งแต่ปีที่แล้ว

ขณะที่อีกหลายร้านนำหุ่นยนต์มาช่วยเชฟเตรียมอาหาร เช่น หั่นผัก ลวกลูกชิ้น หรือทำเส้นก๋วยเตี๋ยว

ความก้าวหน้าดังกล่าวของหุ่นยนต์จึงนับเป็นสัญญาณว่า ในอีกไม่ช้า เราอาจได้เห็นหุ่นยนต์ตามร้านฟาสต์ฟู้ดหรือร้านอาหารมากยิ่งขึ้นก็เป็นได้